โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

มาสด้าแต่ง MX-5 ฉลอง 30 ปี ผลิตแค่ 3พันคันทั่วโลก ไทยมีแค่ 12 คันราคา 3.1 ล้านบาท

Manager Online

อัพเดต 18 มิ.ย. 2562 เวลา 07.53 น. • เผยแพร่ 18 มิ.ย. 2562 เวลา 07.53 น. • MGR Online

มาสด้าเฉลิมฉลองครบรอบ 30 ปี ของการถือกำเนิดรถสปอร์ตโรดสเตอร์ระดับตำนาน มาสด้า MX-5 แบรนด์ไอคอนที่ถ่ายทอดความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างคนกับรถตามแนวคิด จินบะ อิไต (Jinba-Ittai) อันเลื่องชื่อของมาสด้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ และนำไปสู่การพัฒนารถยนต์ทุกรุ่น เสมือนเป็นสัญลักษณ์ของรถยนต์ที่มอบความสนุกสนานในการขับขี่อย่างแท้จริง โดยเผยโฉม มาสด้าMX-5 รุ่นพิเศษ 30th ANNIVERSARY ในงาน Chicago Auto Show ประเทศสหรัฐอเมริกา เมืองที่เป็นแหล่งกำเนิดของ มาสด้า MX-5 เจนเนอเรชั่นแรก

ความงดงามขอ มาสด้า MX-5 รุ่นพิเศษ มาพร้อมอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ โดดเด่นสไตล์สปอร์ตหรู ด้วยสีส้มใหม่ Racing Orange ที่สำคัญมียอดการผลิตเพื่อจำหน่ายเพียง 3,000 คัน ทั่วโลก โดยจะมีแฟนชาวไทยเพียง 12 คน เท่านั้นที่จะได้เป็นเจ้าของแบรนด์ไอคอนรุ่นพิเศษนี้

นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย กล่าวว่ามาสด้า MX-5 เจนเนอเรชันแรก หรือที่แฟนพันธุ์แท้เรียกว่า NA เปิดตัวในงาน Chicago Auto Show เมื่อปี1989 โดยทีมพัฒนาและออกแบบของมาสด้า ซึ่งมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างรถสปอร์ตเปิดประทุน น้ำหนักเบา ให้ความสนุกสนานในการขับขี่ หรูหราสง่างาม ราคาที่จับต้องได้ เพื่อให้บรรลุตามโจทย์ที่ตั้งไว้ทุกประการ จึงทำให้มาสด้า MX-5 เป็นรถเปิดประทุน สองที่นั่ง มาพร้อมกับเอกลักษณ์ไฟหน้าแบบ Pop-Up ได้รับความนิยมจากแฟนทั่วโลกอย่างรวดเร็ว ยอดขายเติบโตขึ้นเกินคาด ไม่เพียงเท่านี้ ทีมงานยังคงทำงานอย่างต่อเนื่องจนถือกำเนิดเจนเนอเรชั่นที่ 2 (NB) เปิดตัวครั้งในงาน Tokyo Motor Show ในปี 1997 ด้วยรูปทรงไฟหน้าที่เปลี่ยนไป ต่อมาเจนเนอเรชั่นที่ 3 (NC) ได้เปิดตัวในงาน Geneva Motor Show ในปี 2005 โดยเพิ่มรุ่นหลังคาแข็งแบบพับเก็บได้ (Retractable Hard Top)

เพื่อตอกย้ำความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อ มาสด้าMX-5 การเปิดตัวของเจนเนอเรชั่นที่ 4 (ND) จึงเกิดขึ้นพร้อมกันทั้งที่ประเทศญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และยุโรป ในปี 2014 เริ่มจากรุ่นหลังคาผ้า ต่อเนื่องด้วยเปิดตัวในรุ่นหลังคาแข็งแบบ Retractable Fastback เพิ่มเติม ได้รับความชื่นชอบจากแฟนๆ เป็นอย่างมาก อีกทั้ง Mazda MX-5 ยังการันตีคุณภาพด้วยรางวัลระดับโลกมากมาย อาทิ รถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปีประเทศญี่ปุ่น ประจำปี 2015-2016 (Japan Car of the Year) ต่อด้วยรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปีประเทศอังกฤษ (2016 UK Car of the Year) รางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมของโลก และรางวัลรถยนต์ออกแบบยอดเยี่ยมของโลกประจำปี 2016 (World Car of the Year, World Car Design of the Year) ความนิยมยังคงเพิ่มสูงขึ้นทั่วโลกจนกระทั่งยอดผลิตของ Mazda MX-5 สูงถึง 1 ล้าน คัน ในปี 2016 และถูกบันทึกสถิติโดย Guinness World Records ในการเป็นโรดสเตอร์ที่ขายดีที่สุดในโลก

โดยปกติแล้ว มาสด้า MX-5 จะผลิตรุ่นพิเศษในโอกาสครบรอบต่างๆ เพิ่มการตกแต่งด้วยชุดแต่ง และสีตัวถังพิเศษ เพื่อมอบเป็นของขวัญสุดพิเศษให้กับแฟนพันธุ์แท้ของ มาสด้า MX-5 ทั่วโลก สำหรับรุ่นพิเศษครบรอบ 30 ปีนั้น ได้ผลิตเพื่อจำหน่ายเพียง 3,000 คัน ทั่วโลกเท่านั้น

ดีไซน์ภายนอกยังคงความเรียบง่าย แต่มีรสนิยมสไตล์รถสปอร์ตหรู โดดเด่น สะดุดสายตาด้วยสีส้มใหม่ Racing Orange ที่ปรุงแต่งต่อยอดจากสีเหลืองของ มาสด้าMX-5 เจนเนอเรชั่นแรก เสมือนแสงรุ่งอรุณของวันใหม่ เพิ่มเอกลักษณ์เฉพาะคันด้วยป้ายสัญลักษณ์ที่ระบุข้อความ 30th ANNIVERSARY ตามด้วยเลขเฉพาะของแต่ละคัน บ่งบอกถึงการมีเพียงหนึ่งเดียวในโลก ตกแต่งด้วยชุดแต่งคุณภาพสูง อาทิ คาลิปเปอร์ดิสค์เบรกหน้าแบรนด์ Brembo และเบรกหลังสีพิเศษ, ล้ออัลลอย RAYS (forged) ขนาด 17 นิ้ว, สปอร์ตหรูยิ่งขึ้นด้วยหลังคาสีดำพิเศษ

ภายในห้องโดยสารให้อารมณ์การขับขี่สไตล์รถสปอร์ตอย่างเต็มเปี่ยมด้วยเบาะนั่งคู่หน้า RECARO เพิ่มผิวสัมผัส ALCANTARA ที่ตำแหน่งคอนโซลหน้าและแผงประตู อีกทั้งยังมีกรอบช่องแอร์สีพิเศษ พวงมาลัย หัวเกียร์ และแผงประตู ได้รับการตกแต่งด้วยด้ายสีพิเศษ และรองรับการใช้งาน Apple CarPlay สมรรถนะการขับขี่ยังคงรักษาจุดแข็งของความเป็นรถสปอร์ตโรดสเตอร์ที่ขับสนุกกับเครื่องยนต์สกายแอคทีฟ-จี เบนซิน 2.0 ลิตร และอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีล้นคันทั้ง i-ACTIVSENSE และ MZD CONNECT

สำหรับราคาที่จำหน่ายในไทยประมาณ 3.1 ล้านบาท เชื่อว่าลูกค้า 12 คน ที่ได้ครอบครอง มาสด้า MX-5 รุ่นพิเศษ 30th ANNIVERSARY คงจะภาคภูมิใจไม่น้อย

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0