เคยกลับบ้านเร็วแล้วโดนเม้าธ์มอยไหมคะ…ทดไว้ในใจไม่ต้องตอบ แล้วเวลากลับบ้านดึก ได้รับการสรรเสริญบ้างหรือเปล่า …อ่ะ ปรบมือสิคะรออะไร
ที่นำเรื่องนี้มาพูดถึงเพราะเมื่อเร็วๆ นี้เพื่อนรุ่นน้องที่ทำงานสายการตลาดมาเล่าสู่กันฟังว่า “คุณพี่คะ ที่ทำงานน้องมีผู้ชายคนหนึ่ง เขามาทำงานเช้ามากกก…และกลับดึกมากกก ซึ่งพวกเราก็ไม่รู้ว่าเขานั่งทำอะไร” มิสบลูมวูดเลยถามกลับถึงผลงาน ซึ่งได้รับคำตอบมาว่าก็ไม่มีอะไรโดดเด่นมากนัก (หรืออาจไม่โดดเด่นในสายตาเราก็ได้)
ก่อนอื่นเราไม่ต้องไปค้นหาคำตอบว่า ทำไมเขาไม่กลับบ้านกลับช่อง แถมขยันรีบดิ่งมาทำงานแต่เช้า เอ๊ะ มีเพื่อนหรือเปล่า มีลูกเมียพ่อแม่ที่ต้องดูแลหรือไม่ ก็ไม่ต้องไปค้นหาคำตอบค่ะ เรามาดูถึงการจัดการเวลาการทำงานของเราก่อนดีกว่า ว่าใช้เวลาที่มี 8 ชั่วโมงนั่นคุ้มค่าสำหรับเรา เพื่อผลงานที่ออกมาหรือไม่ เนื่องจากงานแต่ละแผนก แต่ละขั้นตอนนั้นต่างกัน จะมานั่งจับผิดนั้น วางอคติลงก่อนค่ะ ลองมาดูการจัดการตัวเองกับการทำงานให้คุ้มค่าด้วย 5 วิธีง่ายๆ ดีกว่าเนอะ
1.กำหนดเป้าหมาย
เช้ามาเปิดสมุดจดงานเลยค่ะ กำหนดเป้าหมายในการทำงานของวันนั้น เพราะนอกจากจะช่วยให้คุณรู้ผลลัพธ์ที่แน่นอนและมั่นคงแล้ว ยังช่วยให้คุณเดินทางเป็นเส้นตรงไปสู่จุดหมายภายในเวลาที่กำหนดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่หลุดไปทำงานจิปาถะอื่นๆ เช่น แอบเปิดดูยูทูปดูละคร ดูแฉออนทีวีย้อนหลัง
2.จัดลำดับความสำคัญในแต่ละวัน
รู้แล้วละ ว่าวันนี้ประชุม ออกไปทำงานนอกสถานที่ แต่ก่อนอื่นคุณต้องเรียงลำดับความสำคัญให้ชัดเจน เช่น งานสำคัญ กำหนดส่งด่วน งานสำคัญ ไม่มีกำหนดส่ง และ งานไม่สำคัญ ไม่มีกำหนดส่ง เห็นไหมคะว่างานทุกงาน สำคัญหมดเพียงแต่จัดลำดับระยะเวลาทำงานให้ดีเท่านั้นเอง
3.กำหนดระยะเวลาการทำงาน
กำหนดหมวดหมู่งาน ถ้าหากคุณต้องทำงานหลายอย่าง ซึ่งปัจจุบันคุณไม่ใช่แค่นั่งจัดเอกสารแน่นอน ดังนั้น กำหนดระยะเวลาที่คุณควรจะทำงานเสร็จ เช่น งานนี้ต้องเสร็จก่อนบ่ายโมง ถ้าเป็นงานหลายชิ้น ให้กำหนดชั่วโมงการทำงานของงานแต่ละชิ้น เช่น งานชิ้นที่ 1 มีเวลาทำ 2 ชั่วโมง งานชิ้นที่ 2 มีเวลาทำครึ่ง ที่สำคัญ อย่าลืม ไปรับประทานอาหาร เดินสูดอากาศ ยืดเส้นยืดสายบ้างนะคะ
4.วางสิ่งทำลายสมาธิไว้ไกลๆ ตัว
ติดมือถือค่ะ แหม…ข้อนี้ 99.99% ต้องทำแน่นอน โดยเฉพาะสมัยนี้ติดต่องาน เรียกประชุม เม้ามอยข้ามแผนกก็ต้องใช้ไลน์ ฉะนน้ะน ก่อนเริ่มทำงาน ควรนำโทรศัพท์มือถือไปวางไว้ห่างจากตัวเสีย คุณจะได้ไม่เสียสมาธิกับการทำงาน (ถ้าวันนั้นมีงานสำคัญจริงๆ) เพราะอย่างไร การส่งข้อความในทุกช่องทาง ย่อมมีผลกับงานเช่นกัน …
5.รู้จักเซย์โน!
“เธอๆ ช่วยทำงานงานนี้ให้หน่อยสิ” นี่คือตัวอย่างของอุปสรรคของการทำงานอย่างหนึ่ง ยากที่จะปฏิเสธ ช่วยได้กก็ช่วยเถอะค่ะ แต่ถ้างานเขารอได้ แล้วงานเรารอไม่ได้ ต้องรู้จักปฏิเสธ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณกำลังทำงานหมวด งานสำคัญ กำหนดส่งด่วน จึงต้องรู้จักปฏิเสธให้เป็น การไม่ให้ความช่วยเหลือไม่ถือเป็นเรื่องใจร้ายเสมอไป แต่เป็นการบริหารงานในส่วนของเราก่อน