มาตรการคว่ำบาตรนานาชาติทำเศรษฐกิจเกาหลีเหนือหดตัวหนัก

ถือเป็นการเติบโตที่น้อยที่สุดในรอบสองทศวรรษ

ธนาคารกลางเกาหลีใต้รายงานว่า ในปี 2016 เศรษฐกิจเกาหลีเหนือเติบโตถึง 3.9% แต่พอมาปี 2017 เศรษฐกลับสวนทาง อัตราการเติบโตหดตัวถึง 3.9% ทั้งนี้ในปีที่แล้ว คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้มีมาตรการคว่ำบาตรต่อเกาหลีเหนือ โดยห้ามเกาหลีเหนือส่งออกถ่านหินและแร่อื่นๆ รวมไปถึงสินค้าประมงและสิ่งทอ เพื่อตอบโต่การที่เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์ การคว่ำบาตรส่งผลให้การเติบโตของอุตสาหกรรมเหมืองแร่ของเกาหลีเหนือหดตัวไปถึง 11% ในปีที่แล้วจากเดิมที่เคยเติบโตถึง 8.4% ในปี 2016

ขณะเดียวกัน การส่งออกของเกาหลีเหนือก็ร่วงลงถึง 37.2% อยู่ที่ 1.77 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในขณะที่การนำเข้าเพิ่มขึ้น 1.8% ไปอยู่ที่ 3.78 พันล้านเหรียญ นอกจากนี้การค้าระหว่างสองเกาหลีก็พังราบคาบร่วงไปถึง 99.7% จากปีก่อนหน้า โดยมีมูลค่าเหลือเพียงเก้าแสนเหรียญ หรือ 30 ล้านบาทเท่านั้น นับตั้งแต่เกาหลีใต้สั่งปิดนิคมอุตสาหกรรมร่วมแกซอง อย่างไรก็ตาม เกาหลีเหนือไม่เคยเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจของตนเอง ทำให้โลกภายนอกต้องคาดการณ์สถานการณ์เศรษฐกิจของเกาหลีเหนือจากข้อมูลต่างๆที่ได้รับ

ธนาคารกลางเกาหลีใต้ระบุว่า รายได้ประชาชาติต่อหัวของเกาหลีเหนืออยู่ที่ 1011 เหรียญ หรือ 34000 บาท ในขณะที่รายได้ประชาชาติต่อหัวของเกาหลีใต้สูงกว่าเกาหลีเหนือถึง 23 เท่า ทั้งนี้ในการประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างผู้นำสหรัฐและเกาหลีเหนือ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ระบุว่า สหรัฐฯจะยังคงมาตรการคว่ำบาตรต่อเกาหลีเหนือจนกว่าเกาหลีเหนือจะมีความคืบหน้าอย่างมีนัยยะสำคัญในการปลดอาวุธนิวเคลียร์