เมื่อวันที่ 14 ก.ค. ที่ฮอลล์ 100 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมนานาชาติไบเทค บางนา กองประกวดมิสแกรนด์ ไทยแลนด์ จัดการประกวด "มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2018" รอบตัดสิน คัดเลือกสาวงามสุดมั่นจาก 77 จังหวัดทั่วประเทศ เหลือเพียงหนึ่งเดียวที่จะคว้ามงกุฎเพชรมูลค่า 1.2 ล้านบาทไปครอง โดยถ่ายทอดสดผ่านสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 เอชดี และเฟสบุ๊คไลฟ์ Miss Grand Thailand
บรรยากาศเริ่มต้นการประกวดสุดคึกคักด้วยเหล่าแฟนคลับที่เข้ามาส่งเสียงเชียร์และมอบกำลังใจให้แก่สาวงามกันแน่นขนัด ก่อนสาวงามทั้ง 77 คน ออกมาวาดลวดลายโอเพนนิ่ง แดนซ์ พร้อมแนะนำตัวที่เป็นเอกลักษณ์ความเป็นเวทีมิสแกรนด์ฯ โดยปีนี้มีรางวัลพิเศษแนะนำตัวยอดเยี่ยม ซึ่งได้แก่ มิสแกรนด์นราธิวาส น.ส.ศศินา กลิ่นมาลัย รับเงินรางวัล 5 หมื่นบาท จากนั้นประกาศผู้เข้ารอบ 20 คนสุดท้าย ก่อนที่สาวงามทั้งหมดจะกลับมาเดินอวดโฉมในชุดว่ายน้ำวันพีซสีชมพูสดใสกันอีกครั้ง และประกาศผลรางวัลชุดว่ายน้ำยอดเยี่ยม ได้แก่ มิสแกรนด์กำแพงเพชร น.ส.ปิยพร โชพุดซา คว้าเงินรางวัล 2 แสนบาท พร้อมประกาศรางวัลเบสท์ วอยซ์ อวอดส์ ผู้มีความสามารถด้านการร้องเพลง ได้แก่ มิสแกรนด์ฉะเชิงเทรา น.ส.ชลิดา คอร์วีโน และรางวัลมิส ป๊อปปูล่า โหวต ตกเป็นของมิสแกรนด์สระแก้ว น.ส.เมธาวี ธีรลีกุล ซึ่งได้เปิดโหวตตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของการประกวด ผ่านการโหวตทางเอสเอ็มเอส ซึ่งจะผ่านเข้ารอบ 12 คนสุดท้ายแบบอัตโนมัติ พร้อมลุ้นกับการประกาศผู้คนรอบอีก 10 คน ก่อนที่ แพม-เปมิกา พาเมล่า มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2017 พร้อมรองมิสแกรนด์ฯ ได้แก่ อาย-ศรุชา นิลจันทร์, อุ้ม-ทวีพร พริ้งจำรัส และแป้งหอม-กมลรัตน์ ทานนท์ ขึ้นกล่าวอำลาตำแหน่ง
ต่อมา 12 สาวงามผู้ผ่านเข้ารอบ กลับออกมาอีกครั้งในชุดราตรียาว สวยงามประณีตจากการออกแบบและตัดเย็บของดีไซน์เนอร์ไทยจาก 77 จังหวัด พร้อมประกาศรางวัลเบสท์ ไดเร็คเตอร์ อวอดส์ หรือผู้อำนวยการกองประกวดระดับจังหวัดยอดเยี่ยม ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต ขณะเดียวกันกองประกวดฯ ต้องการส่งเสริมดีไซเนอร์จากทั่วประเทศไทยให้มีชื่อเสียงมากขึ้นจากชุดทั้งหมด 77 จังหวัด ล้วนแต่สวยงามหลากหลายไอเดีย ซึ่งผู้ชนะคือ ชุดราตรียาวมิสแกรนด์จังหวัดสุราษฎร์ธานี จากโอ๊ต กูตูร์ รับเงินรางวัล 1 แสนบาท และประกาศผลรางวัลรักแร้งาม ได้แก่ มิสแกรนด์สกลนคร น.ส.อิงชนก ประสาตร์ รับรางวัล 2 แสนบาท
ภายหลังประกาศผลผู้เข้ารอบ 5 คนสุดท้าย สาวงามต่างตอบคำถามจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ก่อนนายณวัฒน์ อิสรไกรศีล มอบโทฟี่ให้กับจังหวัดเจ้าภาพในการเก็บตัวผู้เข้าประกวด มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2019 ซึ่งมีเจ้าภาพร่วมกันถึง 5 จังหวัดชายแดนใต้ ประกอบด้วย จังหวัดยะลา, ปัตตานี, นราธิวาส, สตูล และสงขลา
ขณะที่รางวัลขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชน ได้แก่ มิสแกรนด์มิสแกรนด์สระแก้ว น.ส.เมธาวี ธีรลีกุล รับเงินรางวัล 5 หมื่นบาท, รางวัลเบสท์ เนชั่นแนล คอสตูม หรือชุดประจำจังหวัดยอดเยี่ยม ตกเป็นของมิสแกรนด์นครศรีธรรมราช น.ส.ทัศนา แมนโซ รับเงินรางวัล 1 แสนบาท พร้อมรางวัลรองชนะเลิศ 4 อันดับ ได้แก่ มิสแกรนด์นครพนม, สงขลา, ขอนแก่น และปราจีนบุรี และรางวัลมิส แกรนด์ ไรซิ่ง สตาร์ ได้แก่ มิสแกรนด์สระแก้ว น.ส.เมธาวี ธีรลีกุล รับเงินรางวัล 2 แสนบาท พร้อมเซ็นสัญญาเป็นนักแสดงสังกัดช่อง7 เอชดี
การประกวดเดินทางมาถึงช่วงแห่งเวลาระทึกใจเมื่อประกาศผลรองอันดับ 4 ได้แก่ มิสแกรนด์สระแก้ว น.ส.เมธาวี ธีรลีกุล รองอันดับ 3 มิสแกรนด์บุรีรัมย์ น.ส.นันทภัค ไกรหา รองอันดับ 2 มิสแกรนด์สกลนคร น.ส.อิงชนก ประสาตร์ รองอันดับ 1 มิสแกรนด์นครปฐม น.ส.จิรัชยา สุขอินต๊ะ และผู้คว้าตำแหน่งมิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2018 ได้แก่ มิสแกรนด์ภูเก็ต น.ส.น้ำอ้อย ชนะพาล หรือมอส อายุ 25 ปี พกพาความสูง 180 ซม. บัณฑิตคณะครุศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ ครองมงกุฎเพชร สายสะพาย บ้านพร้อมที่ดิน รถยนต์ และรางวัลอื่นๆ มูลค่ารวมกว่า 6 ล้านบาท พร้อมเป็นตัวแทนประเทศไทยไปประกวด มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2018 ที่กรุงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมาร์ ในเดือนตุลาคมนี้