โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

มอง ส.ส.ผ่านบัญชีทรัพย์สิน

ไทยโพสต์

อัพเดต 22 ส.ค. 2562 เวลา 17.01 น. • เผยแพร่ 22 ส.ค. 2562 เวลา 17.01 น. • ไทยโพสต์

                 เห็นแล้วตาร้อน!

                วานนี้ (๒๒ สิงหาคม) ป.ป.ช.เปิดบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กรณีเข้ารับตำแหน่ง จำนวน ๔๑๔ ราย

                ใครบอกว่าเล่นการเมืองแล้วจน!

                เพราะท่าน ส.ส.ส่วนใหญ่ล้วนอยู่ในขั้นผู้มีอันจะกิน ไปถึงร่ำรวยมหาศาลกันทั้งนั้น

                เอาเฉพาะที่น่าสนใจ     

                ส.ส.ที่แจ้งทรัพย์สินเกินหนึ่งพันล้านบาท มีทั้งสิ้น ๑๑ คน

                แบ่งเป็นฝ่ายรัฐบาลถึง ๑๐ คน และฝ่ายค้านเพียงคนเดียว

                ส.ส.ที่แจงว่ามีทรัพย์สินของตนเองและคู่สมรสมากที่สุด คือ "นาที รัชกิจประการ" ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย คู่สมรสของ "พิพัฒน์ รัชกิจประการ - โกเกี๊ยะ" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

                มีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น ๔,๖๗๔,๖๓๑,๘๓๕ บาท

                คือ….๔.๖๗ พันล้านบาท

                "นาที" ทำงานทำการอะไร?                            

                ตามข้อมูลที่แจ้งไว้ บอกว่า ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับร้านอาหาร และรีสอร์ต ที่จังหวัดสระบุรี

                แต่…อย่าเพิ่งตกใจ เพราะทรัพย์สินที่แจ้งส่วนใหญ่อยู่ในชื่อของ "โกเกี๊ยะ" เจ้าของอาณาจักรปั๊มน้ำมันรายใหญ่ระดับชาติเครือ "พีที"

                หนึ่งในนายทุนใหญ่พรรคภูมิใจไทย

                รองลงมาคือ "อนุทิน ชาญวีรกูล" ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข    

                มีทรัพย์สิน ๔,๒๔๘,๘๒๘,๘๑๒ บาท

                มีเครื่องบิน ๒ ลำ มูลค่า ๑๖๐ ล้านบาท เรือยนต์ ๒ ลำ มูลค่า ๓๒.๕ ล้านบาท พระเครื่อง ๒๔ องค์ มูลค่า ๑๒๑ ล้านบาท ฯลฯ

                อันดับสามคือ "พิบูลย์ รัชกิจประการ" ส.ส.สตูล พรรคภูมิใจไทย อดีตนายกเทศมนตรีเมืองสตูล น้องชายโกเกี๊ยะ

                มีทรัพย์สิน ๒,๓๔๒,๔๑๙,๘๒๖ บาท

                สรุปแล้วท็อปทรีมาจากพรรคภูมิใจไทยทั้งหมด

                และอย่าตกใจ!

                นับรายได้เฉพาะธุรกิจน้ำมันเชื้อเพลิงของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ของตระกูล "รัชกิจประการ" หลักแสนล้านบาท!

                อีก ๗ คนที่ทรัพย์สินเกินพันล้าน      

                ๑."สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ" ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และ รมว.อุตสาหกรรม มีทรัพย์สิน ๒,๑๙๘,๓๒๘,๙๘๐ บาท

                ๒."อภิชัย เตชะอุบล" ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ มีทรัพย์สิน ๒,๐๔๘,๗๙๙,๗๓๔ บาท

                ๓."ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ" ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และ รมว.ศึกษาธิการ มีทรัพย์สิน ๑,๙๘๔,๙๕๗,๖๕๖ บาท

                ๔."คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช" ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ และ รมช.ศึกษาธิการ มีทรัพย์สิน ๑,๗๘๔,๙๖๑,๒๒๕ บาท

                ๕."ศุภมาส อิศรภักดี" ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย มีทรัพย์สิน ๑,๖๐๙,๔๓๐,๙๒๖ บาท

                ๖."กิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์" ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย มีทรัพย์สิน ๑,๕๒๙,๙๗๕,๑๙๖ บาท

                 ๗."กรณ์ จาติกวณิช" ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ มีทรัพย์สิน ๑,๐๙๗,๓๐๕,๓๙๔ บาท

                และ ๘ "เทวัญ ลิปตพัลลภ" ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติพัฒนา และ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีทรัพย์สิน ๑,๐๓๐,๑๑๕,๘๒๗ บาท

                ไม่ได้หมายความว่าฝ่ายค้านจน เพราะปาร์ตี้ลิสต์พรรคเพื่อไทยสอบตกทั้งหมด และกลุ่มนี้แตะพันล้านมีให้เห็นเหมือนกัน

                แต่ทีเด็ดการแสดงบัญชีทรัพย์สินคราวนี้คงหนีไม่พ้น "ธรรมนัส พรหมเผ่า"

                เพราะสะท้อนอะไรหลายๆ อย่าง

                ผู้กองธรรมนัสแจกแจงเอาไว้แบบนี้

                คู่สมรส ๒ คน คือ นางอริสรา พรหมเผ่า และ น.ส.ธนพร ศรีวิราช รวมถึงบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ๗ คน (เสียชีวิต ๒ คน)

                แจ้งว่า มีทรัพย์สิน ๘๕๙,๓๑๖,๑๘๒ บาท หนี้สิน ๗๙,๒๖๑,๙๓๖ บาท

                เป็นทรัพย์สินผู้ยื่น ๖๔๔,๙๒๑,๑๘๔ บาท ของนางอริสรา คู่สมรส ๑๘๙,๙๕๒,๗๗๖ บาท ของ น.ส.ธนพร คู่สมรส (อยู่กินฉันสามีภรรยา) ๖๓,๖๘๔,๒๙๑ บาท

                ส่วนบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ มีทรัพย์สินรวมกัน ๓๑,๑๔๘,๑๔๙ บาท

                ที่เหลือเป็นรายละเอียด เช่น รถ ๒๖ คัน มูลค่าราว ๖๓ ล้านบาท

                พระเครื่องประเมินค่าไม่ได้

                ไฮไลต์อยู่ที่ "อริสรา พรหมเผ่า" ตำแหน่งหุ้นส่วนผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัดขวัญฤดี ซึ่งรับโอนมาจาก "ธรรมนัส"

                ห้างหุ้นส่วนจำกัดขวัญฤดีคือ ๑ ใน ๕ เสือกองสลาก

                ฉะนั้นอย่าได้แปลกใจในบทบาทผู้จัดการรัฐบาลของ "ธรรมนัส" กับนโยบายหวยรัฐบาลลุงตู่ ๒ ที่ค่อยๆ เงียบหายไป

                ที่เหลือก็เป็นน้ำจิ้ม

                "พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส" ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย มีทรัพย์สิน ๑๓๕,๔๗๖,๒๑๒ บาท

                "มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์" ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ มีทรัพย์สิน ๑๙๕,๙๙๕,๒๐๓ บาท

                "ศักดิ์สยาม ชิดชอบ" ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย และ รมว.คมนาคม มีทรัพย์สิน ๑๑๕,๗๖๐,๐๓๐ บาท

                "สมศักดิ์ เทพสุทิน" ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และ รมว.ยุติธรรม มีทรัพย์สิน ๗๙,๔๖๗,๑๙๒ บาท

                "สุชาติ ชมกลิ่น" ส.ส.ชลบุรี และประธาน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ มีทรัพย์สิน ๘๖๑,๑๐๕,๘๑๘ บาท

                "เทพไท เสนพงศ์" ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ แจ้งบัญชีตัวเอง ลูกเมีย รวม ๙๒๓,๑๓๓,๓๑๑ บาท

                ที่น่าประหลาดใจก็มีให้เห็น

                สันติ พร้อมพัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และ รมช.คลัง มีทรัพย์สิน ๑๕,๔๐๒,๗๗๑ บาท

                จาก ๔๐๐ ล้าน เมื่อปี ๒๕๔๐ ค่อยๆ ลดลง วันนี้เหลือแค่ ๑๕ ล้าน 

                ช่องทางที่นักการเมืองชอบใช้กันคือ เปลี่ยนชื่อทรัพย์สินเป็นชื่อคนอื่น

                เช่นเดียวกับ สุชาติ ตันเจริญ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่ามีทรัพย์สิน ๑๐,๔๒๒,๑๔๑ บาท

                แค่บ้านริมน้ำก็เอาไม่อยู่แล้ว!

                ส่วน ส.ส.ตลาดเดียวกัน เช่น "วัน อยู่บำรุง" ส.ส.เพื่อไทย แจ้งว่ามีทรัพย์สิน ๑๘๑,๗๐๘,๑๕๒ บาท

                "การุณ โหสกุล" ส.ส.กทม. พรรคเดียวกัน แจ้ง ป.ป.ช.ว่ามีทรัพย์สิน ๒๘๗,๖๙๖,๗๓๖ บาท

                อย่าถามว่าประกอบอาชีพอะไรถึงมีทรัพย์สินเป็นร้อยล้าน

                "รังสิมันต์ โรม" ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ มีทรัพย์สิน ๒๒๒,๖๒๓ บาท หนี้สิน ๒๐๒,๓๖๐ บาท

                เป็นหนี้สินเป็นเงินกู้ กยศ.

                รายนี้น่าสนใจทีเดียว

                พลิกไปดูข่าวเก่าๆ "รังสิมันต์" ให้สัมภาษณ์คมชัดลึกก่อนเลือกตั้งว่า

                 "ผมมาจากครอบครัวชนชั้นกลาง ผมได้โอกาสจากสังคมพอสมควร ผมก็อยากตอบแทน ซึ่งคิดว่าการเป็นอาจารย์ ได้ทำงานอยู่กับเยาวชน คนรุ่นใหม่ที่จะเป็นกำลังหลักในการพัฒนาอนาคตของชาติ ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดี"

                ทีแรกคิดว่านักศึกษาที่ยืมเงิน กยศ.เรียนมาจากครอบครัวคนจน แต่ตอนนี้เข้าใจแล้ว ครอบครัวชนชั้นกลางก็กู้เหมือนกัน

                "รังสิมันต์" เป็น ส.ส.มาแล้ว ๓ เดือน

                รับเงินเดือนกับเงินประจำตำแหน่งเดือนละ ๑๑๓,๕๖๐ บาท

                มิถุนายน-กรกฎาคม ๒ เดือนนี้ "รังสิมันต์" น่าจะได้รับเงินเดือนเต็มๆ

                รวมแล้ว ๒๒๗,๑๒๐ บาท

                แต่ในรายการแสดงบัญชีทรัพย์สิน "รังสิมันต์" ระบุเอาไว้ว่า ยอดจ่ายหนี้ กยศ.รวมทุกปีถึงปัจจุบัน ๑๔,๑๖๕ บาท

                "รังสิมันต์" จบการศึกษาปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปี ๒๕๕๘ ผ่านไป ๔ ปีแล้ว

                ก่อนจะสู้เพื่อเปลี่ยนประเทศไทย… 

                เอาแบบนี้มั้ย "รังสิมันต์" แค่ไปจ่ายหนี้ กยศ.ให้หมดเร็วๆ ตามกำลังทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว เป็นตัวอย่างให้เด็กรุ่นหลังได้เห็นถึงความรับผิดชอบในเรื่องพื้นฐานนี้ให้ได้ก่อน

                ดีกว่ามาบอกว่าเอาเงินไปบริจาคพรรคหมดแล้ว

                ชาติต้องมาก่อนพรรคไม่ใช่หรือ?

                ไม่รู้ว่า "รังสิมันต์" จะรู้หรือเปล่า กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) จัดตั้งขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๒๘ มีนาคม พ.ศ.๒๕๓๘

                สมัยรัฐบาลชวน หลีกภัย

                ทีนี้มาดูทรัพย์สินของ "ชวน หลีกภัย" ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ และประธานสภาผู้แทนราษฎร กันหน่อย

                แจ้งเอาไว้ว่ามีทรัพย์สิน ๘,๑๘๙,๑๑๔ บาท

                คงเส้นคงวา

                เล่นการเมืองมาชั่วชีวิต แต่ทรัพย์สินไม่เคยเกิน ๑๐ ล้านบาท

                การเห็นทรัพย์สินได้รู้จักนักการเมืองคนนั้นๆ มากขึ้น

                แต่ละคนมีพื้นฐานความร่ำรวยที่ต่างกัน ตั้งแต่ขาว เทา ยันดำ

                ที่น่าประหลาดใจ กลุ่ม ส.ส.ที่เคยโฆษณาว่าจะยกระดับการจัดการทรัพย์สิน เพื่อสร้างมาตรฐานจริยธรรมผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองใหม่ให้มีความโปร่งใสมากขึ้น…ยังไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินสักแดงเดียว

                วันนี้ ส.ส.ยื่นกันไปแล้ว ๔๑๔ คน

                แต่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ, พรรณิการ์ วานิช, พิธา ลิ้มเจริญรัตน์, ปิยบุตร แสงกนกกุล, เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร, กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ ฯลฯ ชาวคณะอนาคตใหม่ทั้งนั้น…ยังไม่ยื่น

                ทั้งที่เป็นกลุ่มที่ควรจะยื่นก่อนใคร.                                                                                                                                                                                                                                 

ผักกาดหอม

 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0