มหาวิทยาลัยดัง จ.ตาก ชี้แจงเรื่องท่าเต้นรับน้องไม่เหมาะสม จนโลกออกไลน์วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยระบุว่าเป็น กิจกรรมการเต้นดวลระหว่างรุ่นพี่ 2 คณะ และเป็นเพียงแค่มุมกล้อง พร้อมกล่าวขอโทษที่ภาพสื่อออกไปแบบไม่เหมาะสม
จากกรณีที่เฟซบุ๊กเพจ ANTI SOTUS ซึ่งเป็นเพจรณรงค์ต่อต้านการรับน้องที่ไม่สร้างสรรค์ เผยแพร่ภาพ โดยระบุว่าเป็นภาพถ่ายจากกิจกรรมรับน้อง ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดตาก ซึ่งเป็นภาพนักศึกษาสาวรุ่นน้อง กำลังทำท่าคล้ายออรัลเซ็กซ์กับนักศึกษาชายอีกคน โดยมีรุ่นน้องนั่งล้อมรอบปรบมือ ทั้งนี้ เรื่องราวดังกล่าวกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง โดยชาวเน็ตจำนวนมากมองว่าการรับน้องเช่นนี้เป็นการคุกคามทางเพศ ไม่สมควรอย่างยิ่ง ทั้งเรียกร้องให้มหาวิทยาลัยดังกล่าวชี้แจงถึงเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวช่องวันในพื้นที่ ได้เดินทางไปที่มหาวิทยาลัยราชมงคลล้านนาวิทยาเขตตาก ตามข้อมูลที่เพจดังกล่าวได้ระบุ ซึ่งทางคณะผู้บริหารและคณะครูอาจารย์ของมหาวิทยาลัยราชมงคลล้านนาวิทยาเขตตาก ได้เรียกประชุมผู้เกี่ยวข้อง เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้น
โดยนายแมน (นามสมมติ) อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 3 ซึ่งเป็นสาวประเภท 2 บุคคลที่ปรากฏในภาพ ยอมรับว่าภาพดังกล่าวเป็นตัวเอง และอยู่ในช่วงกิจกรรมรับน้องโดยกิจกรรมที่ปรากฏตามภาพนั้น เป็นการเต้นแข่งกันระหว่างรุ่นพี่ 2 คณะ ซึ่งช่วงที่มีภาพออกไป เป็นช่วงสั้นๆ เพียง 15 วินาที และผู้เต้นที่เข้าแข่งขันไม่ได้สัมผัสโดนตัวกันแต่อย่างใด และต้องขอโทษทุกๆคน หลังเกิดภาพที่ไม่เหมาะสมออกไป
ด้าน นายปัญญา พระสุทัย นายกสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยราชมงคลล้านนาวิทยาเขตตาก เปิดเผยว่า กิจกรรมรับน้องที่มีขึ้นนั้นทางสโมสรนักศึกษาได้ทำข้อตกลงกันระหว่างรุ่นพี่ปี 2 ซึ่งจะทำหน้าที่รับน้องปี 1 มีทั้งหมด 14 ข้อ โดย 1 ในนั้น ระบุชัดเจนว่า จะไม่มีการบังคับให้รุ่นน้องทำกิจกรรม ต้องเป็นการยินยอมสมัครใจ และจะไม่มีการจัดกิจกรรมในเชิงส่ออนาจาร การกระทำที่รุนแรงต่อบุคคล และสัตว์ ซึ่งที่ผ่านมาทุกปีไม่มีปัญหาอะไร ส่วนเหตุการณ์ที่ปรากฏตามสื่อนั้น เป็นกิจกรรมสานสัมพันธ์ระหว่างรุ่นพี่ของแต่ละคณะ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าอาจจะมีบางส่วนคึกคะนองตามประสาวัยรุ่น แต่ก็เป็นกิจกรรมที่ทำให้เกิดความกลมเกลียวในฐานะพี่น้องร่วมสถาบัน ภาพที่เผยแพร่เป็นเพียงมุมกล้องเท่านั้น
ล่าสุด ทางสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยราชมงคลล้านนาวิทยาเขตตาก ได้ประสานชี้แจงไปยังเพจ ANTI SOTUS แล้ว และทางเพจได้รับทราบข้อมูล และได้ทำการลบโพสต์ดังกล่าวไปแล้ว.
