โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

มรดกที่นาทำสาวใหญ่จบชีวิต ผูกคอดับ โทรหาผัว เพื่อนเผยเตรียมตัวตั้งเมื่อวาน

Khaosod

อัพเดต 26 ก.พ. 2563 เวลา 07.54 น. • เผยแพร่ 26 ก.พ. 2563 เวลา 07.54 น.
สาวใหญ่ผูกคอ

มรดกที่นาทำสาวใหญ่จบชีวิต ผูกคอดับ ไม่ยอมแบ่งให้เสียที โทรหาผัว สั่งห้ามญาติพี่น้องมาเผาผี บริจาคร่างกายไว้แล้ว เพื่อนเผยเตรียมตัวตั้งเมื่อวาน

ผูกคอดับ วันที่ 26 ก.พ. ร.ต.ท.(หญิง) ธัญลักษณ์ คำชมพู รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุมีคนผูกคอเสียชีวิตที่บ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ ต.สามพร้าว อ.เมือง จ.อุดรธานี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมตำรวจชุดสืบสวน, แพทย์เวร ร.พ.ศูนย์อุดรธานี และ เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรม

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว จากการตรวจสอบที่ห้องครัวหลังบ้านพบศพ นางมล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี ใช้สายเอชดีเอ็มไอผูกคอตัวเองกับขื่อหลังคา คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 7 ชั่วโมง โดยมี นายบุญชู อายุ 63 ปี สามีของผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นผู้พบศพคนแรก จุดธูปบอกดวงวิญญาณให้ไปสู่สุขคติ เราทำบุญได้อยู่ร่วมกันแค่นี้

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่

เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน

จากการสอบสวน นายบุญชู ให้การว่า ตนทำงานเป็น รปภ.ที่ตลาดแห่งหนึ่ง ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี และได้อยู่กินกับผู้ตายมาเกือบ 20 ปี ไม่มีลูกด้วยกัน โดยภรรยาเป็นชาว อ.แม่สาย จ.เชียงราย ชอบดื่มเหล้าและเวลาเมาทุกครั้ง มักจะบ่นเรื่องปัญหาในการแบ่งมรดกที่นา ซึ่งหลังจากพ่อของภรรยาได้เสียชีวิตเมื่อ 2 ปีก่อน หลังไปร่วมงานศพพ่อแล้วจากนั้นก็เริ่มมีปัญหาในเรื่องมรดกที่นาขึ้นมา โดยพ่อได้แบ่งที่นาให้ลูกทั้งหมด 6 คน และภรรยาของตนได้ส่วนแบ่ง 3 ไร่ แต่ไม่ทราบว่าภรรยากับญาติพี่น้องตกลงกันอย่างไรจึงทำให้มีปัญหา เนื่องจากตนไม่ขอเข้าไปยุ่งด้วย

นายบุญชู ให้การต่อไปว่า เมื่อประมาณกลางปี 2562 ภรรยาได้พยายามจะผูกคอตายภายในบ้าน ตนกลับมาเห็นเสียก่อน จึงได้ช่วยเหลือเอาไว้ได้ทันจึงพูดให้กำลังใจภรรยาที่เครียดเรื่องมรดกที่นา ที่ยังไม่แบ่งให้เสียที เพราะภรรยาต้องการนำที่นาไปขาย เนื่องจากหลังพ่อตายแล้วก็ไม่อยากกลับไปอยู่บ้านเกิดที่เชียงราย ตนก็ได้แต่ปลอบใจว่าถ้าเขาไม่แบ่งให้ก็ไม่ต้องเอา

"และเมื่อเวลา 15.00 น.วานนี้ (25 ก.พ.) ผมได้ออกไปทำงาน เพื่อนบ้านบอกว่าเมื่อเย็นเห็นภรรยาไปเสริมสวย และแต่งตัวสวย ทำให้ผิดสังเกต เดินออกมาจากบ้าน ซึ่งเพื่อนบ้านก็ได้ชวนภรรยาผมไปหาเดินซื้อกับข้าวที่ตลาด แต่ภรรยาก็ไม่ไป แล้วก็กลับเข้าบ้าน โดยในช่วงเวลา 19.00 น.คืนนี้ ภรรยาโทรมาพูดกับผมว่า ฟังอย่างเดียวไม่ต้องพูดอะไร หากเขาเป็นอะไรไปไม่ต้องบอกญาติพี่น้อง ไม่ต้องให้เขามาเผาผีกัน และไม่ต้องฉีดยาศพด้วย เพราะได้บริจาคร่างกายให้กับโรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น แล้ว" นายบุญชู กล่าว

ในตอนนั้นตนไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะภรรยาพูดแบบนี้บ่อยมาก กระทั่งมาเจอศพดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน แล้วมอบศพให้สามีของผู้ตายนำไปดำเนินการตามประเพณีทางศาสนาต่อไป

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0