พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ว่า ที่ประชุมยังไม่มีการพิจารณาเรื่องการขยายเวลาการใช้ภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT ที่อัตราร้อยละ 7 ซึ่งคาดว่าจะมีการพิจารณาเรื่องดังกล่าวในช่วงที่ใกล้จะครบระยะเวลา คือ ก.ย.2561
นอกจากนี้ที่ประชุมมีมติเห็นชอบการกำหนดราคาอ้อยขั้นต้นและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นต้น ฤดูการผลิตปี 2560/2561 เป็น 2 ราคา ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ โดยในเขตคำนวณราคาอ้อย 1, 2, 3, 4, 6, 7 และ 9 ในอัตรา 880 บาทต่อตันอ้อย ณ ระดับความหวานที่ 10 ซี.ซี.เอส. และกำหนดอัตราขึ้นลง ของราคาอ้อยเท่ากับ 52.80 บาทต่อ 1 หน่วย ซี.ซี.เอส. และผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นต้นเท่ากับ 377.14 บาทต่อตันอ้อย
พร้อมกำหนดราคาอ้อยขั้นต้นฤดูการผลิตปี 2560/2561 ในเขตคำนวณ ราคาอ้อย 5 ในอัตรา 830 บาทต่อตันอ้อย ณ ระดับความหวานที่ 10 ซี.ซี.เอส. และกำหนดอัตราขึ้นลง ของราคาอ้อยเท่ากับ 49.80 บาทต่อ 1 หน่วย ซี.ซี.เอส. และผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นต้นฤดูการผลิตปี 2560/2561 เท่ากับ 355.71 บาทต่อตันอ้อย
นอกจากนี้ พล.ท.สรรเสริญ เปิดเผยว่าที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอให้ มหาวิทยาลัยอมตะ จัดการศึกษาในหลักสูตรของมหาวิยาลัยแห่งชาติไต้หวัน (NTU) จัดการศึกษาในหลักสูตร Master of Scienceในสาขาวิชา วิศวกรรมเทคโนโลยี เน้นที่การใช้หุ่นยนต์ในสายการผลิต เป็นระบบยานยนต์แห่งอนาคต สำหรับจัดตั้งมหาวิทยาลัยในเรื่องการส่งเสริมการจัดการศึกษา โดยสถาบันการศึกษาที่มีศักยภาพสูงจากต่างประเทศ จากมติ ครม. เดิม เกี่ยวกับกับพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของไทยให้มีศักยภาพ พร้อมรับการขยายตัวของเศรษฐกิจพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เขตเศรษฐกิจพิเศษอีอีซี จึงสนับสนุนให้มหาวิทยาลัยจากต่างประเทศเข้ามาจัดตั้งสาขาในพื้นที่ อีอีซี
สำหรับมหาวิทยาลัยต่างประเทศที่จะจัดการศึกษาในพื้นที่ดังกล่าว ต้องไม่แย่งลูกค้ากับผู้ประกอบการที่เป็นมหาวิทยาลัยในประเทศไทย เพราะ ต้องมีการมุ่งเน้นสาขาวิชาที่มหาวิทยาลัยไทยขาดแคลน หรือ มุ่งเน้นสาขาวิชาที่อยู่ในอุตสาหกรรมเป้าหมายทั้ง อุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ และอุตสาหกรรมแห่งอนาคต โดยมีกฎว่า ต้องมีการจัดการเรียนการสอนให้มีมาตรฐานเช่นเดียวกับมหาวิทยาลัยหลักในต่างประเทศ ซึ่งเป็นการรับประกันคุณภาพ ว่า จะมีคุณภาพไม่ต่างจากต้นทางของประเทศนั้นๆ