นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ภาคเอกชนรู้สึกคลายกังวลมากขึ้น เมื่อพรรคการเมืองหลักๆ ยืนยันไปในทิศทางเดียวกันว่า จะปรับขึ้นค่าแรงตามทักษะฝีมือแรงงาน ไม่ใช่ปรับขึ้นทันที และเห็นว่า รัฐบาลควรประกาศยกเลิกค่าแรงขั้นต่ำ โดยกำหนดค่าแรงเป็นระบบลอยตัว ที่สะท้อนกลไกความต้องการแรงงานในตลาด และแรงงานทักษะฝีมือ ซึ่งจะทำให้ค่าแรงแต่ละอุตสาหกรรม แต่ละจังหวัดแตกต่างกัน
ด้าน นางปิยะพร เอี่ยมฐิติวัฒน์ รักษาการแทนผู้อำนวยการ สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน) หรือ ITD ( International Institute for Trade and Developmen) กล่าวภายหลังเปิดตัวศูนย์ศึกษาวิเคราะห์แนวโน้มด้านการค้าและการพัฒนาอย่างเป็นทางการ ว่า ภายหลังการเลือกตั้งเสร็จสิ้นและทราบผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ITD จะนำนโยบายด้านเศรษฐกิจของพรรคการเมืองที่ชนะการเลือกตั้ง มาวิเคราะห์ผลดี-ผลเสีย และนำเสนอกลับไปยังรัฐบาลเพื่อใช้เป็นแนวทางในการบริหารงาน ทั้งนี้ยอมรับว่าเป็นห่วงการใช้นโยบายประชานิยมที่มากเกินไป อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย ทั้งด้านการค้า และการลงทุน รวมถึงการพัฒนาประเทศในอนาคต เช่นเดียวกับประเทศเวเนซุเอลาที่กำลังรับวิกฤตเศรษฐกิจอย่างหนักหน่วงในขณะนี้
สำหรับการปรับขึ้นค่าแรงงานนั้นเป็นห่วงว่า ท้ายที่สุดแล้วจะทำให้ค่าครองชีพของประชาชน หรือต้นทุนประเทศเพิ่มสูงขึ้น เพราะราคาสินค้าจะปรับขึ้นตามไปด้วย หากรัฐบาลสามารถควบคุมได้จึงจะส่งผลดี นอกจากนี้ท้ายที่สุดแล้ว ค่าแรงที่เพิ่มขึ้นผู้ได้รับประโยชน์ที่แท้จริงน่าจะเป็นกลุ่มแรงงานจากต่างประเทศที่เข้ามาอาศัยในประเทศไทย
ขณะที่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ประเทศไทยกำลังไปได้ดี แต่หลายคนกลับบอกใกล้เหมือนเวเนซุเอลา พร้อมย้ำรัฐบาลทำดีที่สุดแล้ว