ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันนี้ (23 ก.ค.) กลุ่มภาคประชาชนที่คัดค้านการจัดทำผังเมืองใหม่บริเวณเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) นำโดยเครือข่ายเพื่อนตะวันออก วาระเปลี่ยนตะวันออกได้นัดรวมตัวกันกับภาคประชาชนและประชาชนที่สถานีรถไฟหัวลำโพงจากนั้นจะเดินเท้าไปยังสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ถนนเจริญกรุง เพื่อติดตามผลการพิจารณาหนังสือคัดค้านการจัดทำผังเมืองอีอีซี
รวมทั้งเดินทางไปยื่นหนังสือคัดค้าน ต่อคณะรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล บริเวณสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ถนนพิษณุโลก ส่วนวันที่ 24 ก.ค.นี้ จะเดินทางไปยื่นหนังสือคัดค้านต่อรัฐบาล ณ ที่ทำการรัฐสภาชั่วคราว (บริเวณสำนักงานใหญ่ ทีโอทีถนนแจ้งวัฒนะ) โดยเหตุผลของการชุมชนหยุดผังเมืองอีอีซี 3 ประเด็น คือ 1.การทำผังเมืองไม่เป็นไปตามหลักการผังเมือง เพราะไม่จัดทำอยู่บนพื้นฐานที่สอดคล้องกับลักษณะเฉพาะของภาคตะวันออก
2.ขาดกระบวนการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างเพียงพอและครบถ้วน 3.เป็นผังเมืองที่เอื้อประโยชน์กับกลุ่มคนบางกลุ่มแต่กลับขับไล่ประชาชนออกจากที่ดิน ทำลายระบบนิเวศเฉพาะ แหล่งความมั่นคงทางอาหารที่สำคัญของภาคตะวันออกและทั้งประเทศ ทำลายวิถีชีวิต เศรษฐกิจของชุมชน และสร้างผลกระทบกับประชาชนจำนวนมากในพื้นที่
ที่ผ่านมาเครือข่ายเพื่อนตะวันออก วาระเปลี่ยนตะวันออก ได้ส่งหนังสือถึงนายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการ สกพอ.และนายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง ลงวันที่ 8 ก.ค.2562 เพื่อส่งคำร้องของผู้มีส่วนได้เสียกับแผนผังการใช้ประโยชน์ในที่ดินอีอีซี โดยกำหนดให้ทั้ง 2 หน่วยงานพิจารณา โดยขอรับทราบผลการพิจารณาภายใน 15 วัน หรือภายในวันนี้ (23 ก.ค.)
ทั้งนี้กลุ่มมองว่า หากรัฐบาลและ สกพอ.ไม่ปรับปรุงแก้ไขผังเมืองตามข้อเสนอของประชาชนจะสร้างปัญหาความขัดแย้งกับประชาชนในระยะยาว ดังนั้นควรจะพิจารณาแก้ไขผังเมืองอีอีซี ให้รอบคอบตามความต้องการของคนในพื้นที่ โดยอย่ายึดกรอบเวลาที่ต้องเสร็จภายในเดือน ส.ค.นี้ เพราะ พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกไม่ได้กำหนดบทลงโทษหากเกินเวลา เพราะถ้ายังมีปัญหาควรชะลอพิจารณาไปก่อน
