ภรรยาบิลลี่ ขอบคุณดีเอสไอ ยอมรับรู้สึกไม่ปลอดภัยเรื่องอิทธิพลมืด เชื่อคนทำเป็นเจ้าหน้ารัฐ….
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่คุมตัว นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน มาจากกรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อฝากขังต่อศาล นายชัยวัฒน์ ไม่มีท่าทีเครียดและไม่ได้ร้องขอสิ่งใดเป็นพิเศษจากเจ้าหน้าที่และทนายความ มีเพียงการปรึกษาเรื่องการต่อสู้คดีและหลักทรัพย์ในการประกันตัวเท่านั้น ซึ่งผ่านไปเกือบ 3 ชั่วโมง ศาลได้ตรวจคำร้องของพนักงานสอบสวนดีเอสไอ จึงอนุญาติให้ฝากขังผัดแรกเป็นเวลา 12 วัน ขณะที่จำเลยได้ยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัว โดยศาลตีหลักทรัพย์ประกันตัวที่ใช้ในการประกันตัวคนละ 800,000 บาท
ด้าน น.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ หรือ มึนอ ภรรยาของ นายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ ระบุว่า ส่วนตัวยังรู้สึกดีที่ยังมีความยุติธรรมหลงเหลือให้พวกตนบ้าง และขอบคุณทาง ดีเอสไอ ที่ทำคดีจนนำมาสู่การแจ้งข้อหา แต่รับว่าคดีก็ยังไม่ถึงที่สิ้นสุด ตนก็ยังต้องสู้ต่อ ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาได้รับการประกันตัวออกมา ส่วนตัวยอมรับว่ารู้สึกไม่ปลอดภัยในเรื่องอิทธิพลมืด ประกอบกับพฤติการณ์ในลักษณะข่มขู่ อย่าง เมื่อ3 เดือนก่อน บริเวณหน้าบ้านตน มีคนขี่รถจักรยานยนต์มาวนเวียนหน้าบ้าน และมีการถ่ายรูปไว้ และพุ่มไม้หน้าบ้านเหมือนมีคนซุ่มอยู่ ทำให้พวกตนใช้ชีวิตอย่างหวาดระแวง ไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างปกติ
ซึ่งวันนี้ตนก็มีโอกาสได้พบหน้า นายชัยวัฒน์ แต่ก็ไม่ได้พูดคุยและไม่ได้รู้สึกอะไร ทั้งนี้ส่วนตัวไม่ได้เจาะจงว่าใครเป็นคนทำสามี แต่ก็คิดว่าเป็นเจ้าหน้ารัฐ ซึ่งก็อยากให้คนทำออกมารับผิดชอบ อย่างไรก็ตาม ทางดีเอสไอได้ส่งเจ้าหน้าที่มาดูแลรักษาความปลอดภัย ตนก็รู้สึกว่าขณะนี้เพียงพอแล้ว
ขณะที่ น.ส.วราภรณ์ อุทัยรังษี อายุ 36 ปี ทนายความฝ่ายครอบครัวบิลลี่ กล่าวถึงเรื่องที่กลุ่มผู้ต้องหาได้รับการประกันตัว ว่า พวกตนก็ยอมรับในดุลยพินิจของศาล ซึ่งยอมรับว่าจุดอ่อนที่ทำให้คำร้องขอศาลคัดค้านการประกันของพวกตนน้ำหนักไม่เพียงพอ เป็นเพราะไม่มีหลักฐานที่จะมาแสดงให้เห็นว่ากลุ่มผู้ต้องหาจะเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ประกอบกับผู้ต้องหาเองก็ไม่ได้มีพฤติกรรมหลบหนี โดยหลังจากนี้ ยังต้องรอการรวบรวมพยานหลักฐานของดีเอสไอ ก่อนส่งอัยการพิจารณาสั่งฟ้องต่อไป.