หากเรามองเรื่องมลภาวะที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลกด้วยความคิดในแง่บวกแล้วหละก็ นี่คือสัญญาเตือนครั้งใหญ่เพื่อให้เราดูแลตัวเองกันมากขึ้น โดยเฉพาะการดูแลผิวหน้าที่เป็นหนึ่งในปัญหาผิวที่มนุษย์กังวลมากที่สุด แน่นอนว่าการหลีกเลี่ยงมลภาวะต่างๆ เป็นทางออกที่ดูน่าจะปลอดภัยที่สุด แต่ในขณะเดียวกันกลับทำได้ยากที่สุดเช่นกัน
ก็แน่หละใครจะขลุกตัวอยู่บ้านได้ตลอด 24ชม. 7 วันกันหละ ? ซึ่งก็ต้องขอบคุณทาง CIERRA ที่ส่งผลิตภัณฑ์อย่าง The Black Rose Therapy มอยส์เจอไรเซอร์ที่อัดแน่นไปด้วยสารสกัดจากจากกุหลาบดำ มาให้เราได้ลองใช้เราเลยถือโอกาสนี้หยิบมารีวิวให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน แอบกระซิบว่าคนที่ชอบกลิ่นกุหลาบต้องลงไปดีดดิ้นกับครีมกระปุกนี้อย่างแน่นอนฮะ!
The Claim
Cierra Black Rose Therapy Cream(30ml.) : มอยส์เจอไรเซอร์เพื่อฟื้นฟูผิว ให้ดูอ่อนเยาว์ไร้ที่ติด้วย Super Anti-Oxidant จากกุหลาบดำ ที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระได้สูงกว่าทั่วไป ผสานสารชะลอความร่วงโรยแห่งวัยอีกนานาชนิด
Texture / Scent / Packaging
- Texture : เนื้อผลิตภัณฑ์เบลนด์ออกมาได้ละมุนทีเดียวฮะ แถมยังมีความเข้มข้นที่ค่อนข้างสูง
Scent : เอาจริงๆ ตั้งแต่เปิดกระปุกออกมากลิ่นกุหลาบก็หอม อบอวลไปหมดเลย อย่างที่เราบอกตอนแรกว่า คนที่ชอบกลิ่นกุหลาบต้องลงไปดีดดิ้นกับครีมกระปุกนี้ชัวร์!
- Packaging : เป็นจุดเดียวที่เราขอติ เนื่องจากบรรจุภัณฑ์ในรูปแบบ Jar Type(กระปุก) ทำให้ทุกครั้งที่เปิดใช้มีการสัมผัสกับอากาศ แสง รวมถึงมีโอกาสปนเปื้อนได้ง่าย
Key Ingredients
- Bloomisor : ความลับทางธรรมชาติที่ซ่อนอยู่ใน กระบวนการบ่มเพาะทางธรรมชาติ จากดอกกุหลาบดำ ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของผลิตภัณฑ์ CIERRA ทางผู้ผลิตเคลมว่าสารสกัดจากกุหลาบดำซึ่งอุดมไปด้วยแร่ธาตุ สารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินต่างๆ สามารถฟื้นฟูเซลล์ผิวคล้ำเสีย คงความอ่อนเยาว์ และฟื้นฟูเซลล์ผิวชั้นนอกที่ได้รับความเสียหายจากการรุกรานของแสงแดดและมลภาวะได้ดี
Argania Spinosa Kernel Oil : น้ำมันอาร์แกน เป็นน้ำมันสีเหลืองใส ประกอบด้วย Linoleic acid เป็นแหล่งสำคัญของวิตามินอีและสารต้านอนุมูลอิสระ สามารถเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนังได้ดี
Vitis Coignetiae Callus Culture Conditioned Media Advised : จากที่เราหาข้อมูล สารตัวนี้น่าจะเป็นสารสกัดจากเถาองุ่นที่ขึ้นตามธรรมชาติ (Vitis Coignetiae) ที่มีสารสำคัญอย่าง Trans-resveratrol ที่มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ(Antioxidant), ต้านการอักเสบ(Anti-inflammatory), การยับยั้งเอนไซม์ Tyrosinase(Tyrosinase inhibition) ซึ่งมีหน้าที่ในสร้างเม็ดสี
นอกจากนี้ยังมีสารที่น่าสนใจอีก 2 ตัวอย่าง Astaxanthin หนึ่งในสารประเภทแคโรทีนอยด์ (Carotenoid) ในธรรมชาติ ที่มีฤทธิ์ในการต่อต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ช่วยป้องกันการทำลายเซลล์และกระบวนการออกซิเดชั่นที่มีผลทำให้เกิดริ้วรอยและการเสื่อมของเซลล์ ตามมาด้วย Arbutin ซึ่งเป็น Whitening Agent ตัวหนึ่งที่ถูกใช้อย่างแพร่หลาย และมีงานวิจัยรองรับ ช่วยทำหน้าที่ปรับให้ผิวกระจ่างใส และสีโทนเดียวกัน(even-tone)
Let's Try….
เราได้ลองใช้ CIERRA | The Black Rose Therapy มาประมาณ 1 สัปดาห์ ซึ่งต้องบอกว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่ผิวเรางอแงมาก เพราะปกติแล้วเราเป็นมนุษย์ผิวผสม-มัน แต่ช่วงที่ผ่านมาอาจจะด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิว ลดสิวเสี้ยน ทำให้ผิวโดยรวมเราแห้งลงอย่างเห็นได้ชัดดังภาพ Before แต่เมื่อเราลองทาครีมตัวนี้ผ่านไป 7 วันแล้วมาทำการเปรียบเทียบดูอีกครั้งพบว่า…
ผิวโดยรวมดูชุ่มชื้น มีชีวิตชีวามากขึ้น สังเกตได้จากความเปล่งปลั่งที่เกิดจากน้ำในผิว ไม่ได้มีความรู้สึกว่าผิวมัน แต่จะดูผิวโกลว์ๆ สุขภาพดีขึ้น เหมาะกับผิวที่ขาดน้ำมากๆ ส่วนในแง่การเป็น Anti-Aging นั้นเนื่องจากเรายังไม่มีปัญหาในจุดนี้และเรื่องริ้วรอยจำเป็นต้องใช้เวลาในการบำรุงค่อนข้างนาน จึงยังไม่สามารถพูดได้ชัดเจนว่าผลลัพธ์แตกต่างกันอย่างไรขอรับ แต่โดยหลักการของ Anti-Aging แล้ว ถ้าผิวมีความชุ่มชื้น และมีสารต้านอนุมูลอิสระเพียงพอริ้วรอยก่อนวัยก็จะเกิดได้ช้าลงนั่นเอง
สรุป
เรามองว่า CIERRA | The Black Rose Therapy เป็นมอยส์เจอไรเซอร์อีกแบรนด์ที่อัดส่วนผสมมาเต็มพิกัดทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นสารสกัดจากกุหลาบดำ, อาร์แกนออยล์, สารสกัดจากเถาองุ่น รวมถึงอาร์บูติน ซึ่งเมื่อทำงานร่วมกันสามารถคาดหวังผลได้ในเรื่องการลดการอักเสบ, ต้านอนุมูลอิสระ, ลดการสร้างเม็ดสีเมลานีนทำให้ผิวโดยรวมกระจ่างใส แข็งแรง เนียนนุ่มได้จริง
และอีกจุดที่เรายังคงวอแวไม่เลิก คือ กลิ่น ต้องบอกก่อนว่าเราไม่ใช้คนที่ชอบกลิ่นโทนกุหลาบซักเท่าไหร่ แต่กลิ่นกุหลาบจาก CIERRA | The Black Rose Therapy กลับทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก อยากจะให้หน้าจอเพื่อนๆ รับกลิ่นได้แฮะ ^^
เอาเป็นว่าใครที่สนใจก็ลองเข้าไปสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ทาง Facebook และ Instagram ของทาง CIERRA ได้เลยฮะ และอย่างที่เราพูดมาตลอดว่า ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น Based on สภาพผิว, Life Style, การดูแลผิวของเราเป็นหลัก ซึ่งอาจจะแตกต่างกันในแต่ละบุคคล และที่สำคัญคือเราไม่สามารถตอบได้ว่าใช้แล้วจะแพ้ไหม อุดตันหรือไม่ ทางที่ดีที่สุดในการลองผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ ลองทาบริเวณท้องแขนทิ้งไว้ 1 คืนและคอยสังเกตอาการแพ้ จากนั้นค่อยขยับไปที่ลำคอ และใบหน้าตามลำดับฮะ
ติดตามบทความใหม่ๆได้ที่ SistaCafe Facebook
SistaCafe เว็บไซต์รวบรวมบทความสำหรับผู้หญิง https://sistacafe.com
♥ ดาวน์โหลด App SistaCafe ฟรีได้แล้ววันนี้! ♥
iOS : AppStore
Android : PlayStore
