เมื่อวันที่ 23 ม.ค. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พร้อมพ่อและป้าของด.ญ.บี (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี ชั้นม.2 เข้าพบ พ.ต.อ.รัฐศักดิ์ รักสลาม รองผบก.น.3, พ.ต.อ.คมสันต์ บดิกาญจน์ ผกก.สน.นิมิตรใหม่ และพ.ต.ท.สนอง แสงมณี รองผกก.ป. เพื่อติดตามคดีหลังน้องบี (นามสมมุติ) หลังถูกพ่อเลี้ยงข่มขืนและล่วงละเมิดทางเพศนานกว่า 1 ปี โดยมีแม่แท้ ๆ รู้เห็นเป็นใจให้กินยาและถ่ายคลิปไว้ข่มขู่ นอกจากนี้ยังให้ตำรวจช่วยติดตามช่วยเหลือน้องสาว อายุ 8 ขวบ ก่อนตกเป็นเหยื่ออีกราย
นางปวีณา เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่พ่อกับแม่ของเด็กได้แยกทางกันเมื่อประมาณ 3 ปีก่อน ฝ่ายหญิงได้นำลูกสาวทั้ง 2 คนไปเลี้ยงดูที่บ้านพักย่านคลองสามวา ก่อนที่จะมีสามีใหม่ อาชีพรับเหมาก่อสร้าง กระทั่งด.ญ.บี อายุได้ 12 ปี พ่อเลี้ยงจึงลงมือล่วงละเมิดและข่มขืนกระทำชำเรา โดยนำยาเม็ดสีฟ้า มาให้ด.ญ.บีรับประทานทุกครั้ง อ้างว่าเป็นยาบำรุงเลือด ด.ญ.บี หลงเชื่อเพราะป่วยเป็นโรคธาลัสซีเมีย แต่เด็กกลับมีอาการสลึมสะลือ ง่วงนอน พอรู้ตัวอีกทีก็ถูกพ่อเลี้ยงกระทำชำเราแล้ว แต่ถ้าด.ญ.บีปฏิเสธไม่ทานยา ก็จะถูกแม่ดุด่าและบังคับให้ทานเสมอ
ด้านนางมุก (นามสมมุติ) อายุ 45 ปี ป้าของด.ญ.บี เปิดเผยว่า ตนได้รับการติดต่อจากครูว่าหลานสาวไปปรึกษาครูเรื่องถูกพ่อเลี้ยงล่วงละเมิดทางเพศ มาประมาณ 1 ปีเศษ โดยแม่ก็รู้เห็นเป็นใจไม่ช่วยเหลือ แถมยังส่งเสริมให้พ่อเลี้ยงทำเรื่องดังกล่าว นอกจากนี้พ่อเลี้ยงยังได้ถ่ายภาพเด็กขณะร่วมเพศมาข่มขู่ เมื่อตนทราบเรื่องจึงสอบถามแม่เด็กก็ให้การยอมรับ แต่ฝ่ายพ่อเลี้ยงกลับโวยวายไม่ยอมรับและเดินหนี ตนจึงพยายามพูดเกลี่ยกล่อมแม่ เพื่อที่จะขอนำหลานทั้ง 2 คนมาอยู่ด้วย แต่แม่เด็กยอมแค่ให้ด.ญ.บี ออกมาเพียงคนเดียว ตนไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะเป็นห่วงหลานคนเล็กมาก จึงนำเรื่องทั้งหมดมาปรึกษากับทางมูลนิธิฯ
อย่างไรก็ตามหลังเกิดเรื่องนายหม่อง (นามสมมุติ) อายุ 43 ปี พ่อแท้ ๆ ของด.ญ.บี ได้ไปแจ้งความไว้ที่สน.คันนายาว เมื่อตรวจสอบไปยัง พ.ต.อ.วาสุเทพ คงกล่อม ผกก.สน.คันนายาว พบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นของทางสน.นิมิตรใหม่ ทางพนักงานสอบสวนหญิงของสน.คันนายาว ซึ่งได้รวบรวมสำนวนและพยานหลักฐานต่าง ๆ ส่งต่อให้กับทางพนักงานสอบสวนของสน.นิมิตรใหม่ ด้านพ.ต.อ.รัฐศักดิ์ รักสลาม รองผบก.น.3 กล่าวว่า เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการขออนุมัติศาลออกหมายจับและควบคุมตัวพ่อเลี้ยงคนดังกล่าวแล้ว ในข้อหากระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี, ข้อหากระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี และข้อหาบันทึกภาพและเสียงการกระทำชำเราเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่ไม่ควรได้ ส่วนน้องสาวของด.ญ.บี ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าช่วยเหลือและพูดคุยกับทางแม่ เพื่อยินยอมให้นายหม่อง พ่อแท้ ๆ นำเด็กไปเลี้ยงดูต่อไป ซึ่งในส่วนของแม่นั้น ทางเจ้าหน้าที่จะทำการสอบสวน ซึ่งถ้ามีส่วนรู้เห็นจริงก็จะดำเนินคดีในข้อหาให้การสนับสนุนให้กระทำความผิด ก่อนจะดำเนินคดีต่อไป.