วันที่ 4 เม.ย. ที่ศาลากลางจังหวัดลำปาง นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผวจ.ลำปาง ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดลำปาง พร้อมด้วย นพ.ประเสริฐ กิจสุวรรณรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง แถลงข่าวกรณีพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดลำปาง จำนวน 3 ราย ซึ่งขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล โดยผู้ป่วยยืนยันรายที่ 1 เป็นหญิงไทย วัย 58 ปี ภูมิลำเนา อ.งาว จ.ลำปาง อาชีพค้าขายของชำในหมู่บ้าน มีโรคประจำตัวคือ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ผู้ป่วยเริ่มมีอาการป่วยวันที่ 31 มีนาคม 2563 เข้ารับการรักษาวันที่ 2 เมษายน 2563 ปัจจุบันรักษาตัวในโรงพยาบาลงาว
ส่วนผู้ป่วยรายที่ 2 เป็นหญิงไทยวัย 42 ปี มีอาชีพค้าขายเสื้อผ้าที่ตลาดนัดรถไฟรัชดา กรุงเทพฯ เริ่มป่วยวันที่ 17 มีนาคม 2563 ด้วยอาการไข้ ไอ เจ็บคอ ปวดศีรษะ ไม่ได้ไปรักษาที่ไหน วันที่ 22 มีนาคม 2563 เวลา 04.52 น. มาโรงพยาบาลงาว ด้วยอาการมีไข้ ไอ เจ็บคอ ปวดศรีษะมา 5 วัน ให้การรักษาตามอาการนัดพบแพทย์วันรุ่งขึ้น แต่ผู้ป่วยไม่มาตามนัด มารักษาอีกครั้งในวันที่ 26 มีนาคม 2563 ที่คลินิกโรคทางเดินทางใจซึ่งได้ทำการขอ LAB CODE แต่ไม่เข้าเกณฑ์ผู้ป่วยสงสัยติดเชื้อจึงไม่ได้รับอนุมัติ และกลับบ้านไปแยกสังเกตอาการ 14 วันอย่างเข้มข้น โดยเจ้าหน้าที่ รพ.สต.บ้านน้ำจำ วัดไข้ทุกวัน พบว่ามีไข้ ผู้ป่วยยืนยันรายนี้เป็นลูกสาวของผู้ป่วยยืนยันรายที่ 1
ส่วนผู้ป่วยยืนยันรายที่ 3 เป็นหญิงไทย วัย 64 ปี เป็นพี่สาวของผู้ป่วยยืนยันรายที่ 1 อยู่บ้านคนละหลังแต่สนิทสนมไปมาหาสู่กันเป็นประจำมุกวัน ไม่มีอาการไข้ ถือเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จึงได้รับการตรวจผลการตรวจคือยืนยันติดเชื้อ อาศัยอยู่กับหลานชาย 2 คน สามีเสียชีวิต ส่วนลูกทำงานอยู่ต่างจังหวัดแต่ไม่ได้กลับมาที่บ้าน ผู้ป่วยรายนี้ระหว่างการสอบสวนโรคเพื่อหาผู้สัมผัสใกล้ชิดต่อไป
อย่างไรก็ตาม สำหรับการตรวจแยกสังเกตอาการ 14 วัน อย่างเข้มข้นในบ้านพบว่าลูกสาวซึ่งขณะนั้นถือเป็นกลุ่มเสี่ยงได้กักแยกตัวเองอยู่ในห้องชั้น 2 ได้รับการติดตามโดย อสม. และวัดไข้โดยเจ้าหน้าที่ รพ.สต. ทุกวัน พบว่าไม่มีไข้ จากผลการติดตามโปรแกรม อสม.ออนไลน์และโปรแกรม Lampang COVID Surveilaence LCS
จากการสอบสวนโรคพบว่า แม้ว่าลูกสาว (ผู้ป่วยยืนยันรายที่ 2) จะกักตัวอยู่ในห้องแต่มารดา (ผู้ป่วยยืนยันรายที่ 1) ได้นำอาหารเข้าไปส่งให้ถึงในห้องและทำความสะอาดห้อง รวมทั้งห้องน้ำด้วย และ มีพฤติกรรมไม่ใส่หน้ากากป้องกันตัวเองทำให้สามารถติดเชื้อได้ ทั้งนี้ จังหวัดลำปาง ได้ดำเนินการในเบื้องต้นโดยการปิดหมู่บ้านพร้อมเคาะประตูบ้านติดตามค้นหากลุ่มเสี่ยงที่ใกล้ชิด และดำเนินการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคในพื้นที่แล้ว.
