นครศรีธรรมราช:ผู้ว่าฯเมืองคอนสำแดงฤทธิ์ สั่งริ้อถอนสิ่งก่อสร้างแปลกปลอมในคลองท่าดี แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังบ้านคีรีวง พร้อมลงดาบหากพบ ขรก.มีเอี่ยว
หลังจากตกเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักทางสังคม ถึงความมักง่ายเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน ของผู้ประกอบการสถานที่ท่องเที่ยว ในพื้นที่หมู่บ้านคีรีวง อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว และเป็นการทำลายทัศนียภาพของคลองท่าดี แหล่งท่องเที่ยวหลักที่ขึ้นชื่อของทางจังหวัด เมื่อมีการนำคอนกรีตไปเททับก้อนหินขนาดใหญ่กลางลำน้ำ สร้างเป็นโต๊ะซุ้มนับสิบซุ้มไว้สำหรับให้บริการนักท่องเที่ยวนั่งแช่น้ำทานอาหาร และอาจเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลพวงตามมาเมื่อเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติในแต่ละครั้ง
สำหรับสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวถูกทำขึ้นและให้บริการแก่นักท่องเที่ยวมานานแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยเป็นกระแสสังคมมาแล้ว โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนชาวบ้านในพื้นที่ต่างพากันไม่เห็นด้วยกับสิ่งก่อสร้างดังกล่าว โดยมองว่าเป็นการทำลายความสวยงามของธรรมชาติที่มีอยู่เดิม และก่อให้เกิดการเปลี่ยนทิศทางการไหลของน้ำ โดยชาวบ้านต่างไม่พึงพอใจกับการกระทำดังกล่าวของผู้ประกอบการสถานที่ แต่ที่ผ่านมาทำได้เพียงเก็บความรู้สึกไว้ ไม่กล้าที่จะแสดงออกในลักษณะที่เป็นการต่อต้าน ทำได้เพียงร้องเรียนให้หน่อยงานภาครัฐในพื้นที่เข้าตรวจสอบ แต่กลับไม่เป็นผล จนในที่สุดกระแสดังกล่าวถูกเปิดเผยโดยเพจเฟซบุ๊กของ "ชมรม strong-จิตพอเพียงต้านทุจริต" จ.นครศรีธรรมราช ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความว่า
https://www.facebook.com/2083628355256115/posts/2490333607918919/
"เทคอนกรีตลงไปในคลองท่าดี ตั้งโต๊ะกินอาหารชมวิวกันในคลอง บริเวณ #คีรีวง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเลื่องชื่อของจังหวัดนครศรีธรรมราช รุกล้ำลำน้ำสาธารณะไร้หน่วยงานใดเข้าจัดการ"
เพียงไม่กี่วันให้หลังของการเข้ามาดำรงตำแหน่ง 'พ่อเมือง'ของนายศิริพัฒ พัฒน์กุล หลังทราบเรื่องไม่รีรอสั่งดำเนินการแก้ไขปัญหาทันที โดยสั่งการให้กรมเจ้าท่าเข้าทำรื้อถอนโดยไม่มีการออมชอมประนีประนอมใดๆทั้งสิ้น รวมทั้งสั่งการไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้ง นอภ.ลานสกา นายก อบต.กำโลน ผู้หลักผู้ใหญ่ในพื้นที่จัดระเบียบพื้นที่ใหม่ทั้งหมด โดยเน้นการกระทำความผิด เช่นการรุกล้ำพื้นที่สาธารณะด้วยการสร้างสิ่งปลูกสร้างในลักษณะดังกล่าว และให้ตรวจสอบหาผู้รับผิดชอบ โดยเฉพาะผู้ที่ปล่อยให้การกระทำดังกล่าวเกิดขึ้น
รวมถึง จนท.ของรัฐหากตรวจสอบพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็นหรือเลิกเฉย ปล่อยปะละเลย จะต้องได้รับโทษอย่างไม่ละเว้น
