โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

พ่อเฒ่าฉุน อ้างถูกขู่ปาดคอ บุกยิงหนุ่มใหญ่ 7 นัด ดับคาที่ ต่อหน้าครอบครัว

Khaosod

อัพเดต 01 เม.ย. 2563 เวลา 22.39 น. • เผยแพร่ 01 เม.ย. 2563 เวลา 22.39 น.
บุกยิงหนุ่มใหญ่

พ่อเฒ่า บุกยิงหนุ่มใหญ่ ดับคาที่

เมื่อวันที่ 1 เม.ย. ร.ต.อ.ไพบูลย์ ไชยสิทธิ์สกุล รอง สว.สอบสวน สภ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งจากนายหาญ โคตรมณี กำนัน ต.หนองหว้า อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ว่า เกิดเหตุยิงกันเสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 7 ม.7 บ้านหนองหว้า ต.หนองหว้า อ.กุมภวาปี จึงนำกำลังชุดสอบสวน รุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยชุดป้องกันและปราบปราม, ชุดพิสูจน์หลักฐาน, แพทย์เวร รพ.กุมภวาปี และอาสากู้ภัยมูลนิธิประชาธรรม

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ 2 ชั้น ตั้งอยู่ริมถนนในหมู่บ้านหนองหว้า บริเวณชั้นล่างเปิดเป็นร้านขายของชำ หลังบ้านพบศพนายประสิทธิ์ วงศ์ดวง อายุ 44 ปี ลูกชายเจ้าของบ้าน ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 11 มม. บริเวณหน้าอก 2 นัด ชายโครงซ้าย 2 นัด ขาซ้าย 1 นัด และขาขวา 2 นัด รวมทั้งหมด 7 นัด นอนคว่ำหน้าจมกองเลือด บนพื้นบ้านพบเลือดหยดเป็นทาง และพบปลอกกระสุนขนาด 11 มม. จำนวน 8 นัด ตกอยู่ทั่วพื้นบ้าน นอกจากนี้ยังพบหัวกระสุนอาวุธปืนขนาด 11 มม. อีก 1 นัด ในลักษณะยิงระยะประชิด และกระสุนพลาดเป้า 1 นัด

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่

เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน

คนร้ายจอด จยย.ทิ้งไว้

 

สอบสวนญาติผู้ตายทราบว่า คนที่ก่อเหตุคือนายสำราญ แน่นอุดร อายุ 76 ปี อยู่บ้านเลขที่ 115 ม.7 บ้านหนองหว้า ต.หนองหว้า อ.กุมภวาปี เป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน หลังก่อเหตุได้เดินถืออาวุธปืนออกมาจากซอยข้างบ้าน หลบหนีไปทางบ้านตัวเองที่อยู่ห่างบ้านผู้ตายประมาณ 200 เมตร โดยทิ้งรองเท้าแตะสีดำ 1 ข้าง และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟสีแดง ทะเบียน ขขพ-909 อุดรธานี ไว้หน้าบ้านที่เกิดเหตุ

สอบสวนนางพรพรรณ อนุมาตย์ อายุ 56 ปี และนางสมบูรณ์ ฮองอ้น อายุ 65 ปี พี่สาวของผู้ตาย  ให้การว่า ขณะพวกตนนั่งอยู่หน้าบ้าน นายสำราญ ผู้ก่อเหตุ ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดหน้าบ้าน ก่อนถามหาน้องชาย โดยบอกว่าน้องชายไปขู่จะใช้มีดปาดคอ และกล่าวหาว่านายสำราญไปขโมยปลาในตาข่ายที่น้องชายดักจับปลาไว้ในลำห้วย ตนจึงถามคนร้ายว่าได้ยินน้องชายพูดด้วยตัวเองหรือไม่ นายสำราญบอกว่ามีคนมาเล่าให้ฟัง และอยากมาถามว่าน้องชายพูดจริงหรือไม่ พวกตนก็บอกว่าหากน้องชายพูดจริงและมีพยานยืนยัน พวกตนก็พร้อมจะเสียค่าปรับที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน

พี่ของผู้ตาย ให้การต่อว่า ขณะกำลังเจรจากัน น้องชายก็เดินลงจากบนบ้านมายืนอยู่หน้าบันได พร้อมบอกคนร้ายว่าไม่ได้พูด และไม่ได้เอ่ยชื่อคนที่มาขโมยปลาในตาข่ายแม้แต่คำเดียว ทันใดนั้นนายสำราญก็ชักอาวุธปืนออกมาจากเอว พร้อมพูดว่า “มึงใช่ไหมที่หาว่ากูไปขโมยปลา และจะปาดคอกู” น้องชายจึงวิ่งเข้าไปหลบหลังตู้ขายของ แต่คนร้ายวิ่งเข้าไปใช้ปืนรัวยิงน้องชายครั้งแรก 4 นัด จนน้องชายล้มฟุบลงทางประตูหลังบ้าน ก่อนที่คนร้ายจะเดินไปจ่อยิงซ้ำอย่างใจเย็นอีก 2 นัด แล้ววิ่งหนีกลับไปทางบ้านพักของตัวเอง

ด้านนางเสน จุลม่วง อายุ 86 ปี แม่ของผู้ตาย ให้การว่า ผู้ตายเป็นลูกคนเล็กจากพี่น้องทั้งหมด 10 คน เป็นคนขยันทำมาหากิน ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกับใคร ผู้ตายมีภรรยาและลูก 2 คน อาศัยอยู่ที่ จ.นครพนม ขณะเกิดเหตุตนนั่งอยู่ในบ้านอีกหลังที่อยู่ติดกัน ได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย จึงออกมาดูและเห็นคนร้ายไล่ยิงลูกชายตนต่อหน้าต่อตา ตนทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ร้องขอชีวิตลูกชาย และขอให้พูดจากันดีๆ แต่คนร้ายก่อเหตุอย่างโหดเหี้ยม และไม่ยอมฟังเหตุผล แต่ตนพร้อมจะให้อภัยหากคนร้ายยอมมอบตัว และมาขอขมาศพลูกชาย

ขณะที่นางแดง ชมคำ อายุ 49 ปี หลานสาวคนร้าย และอยู่บ้านติดกันกับคนร้าย กล่าวว่า คนร้ายมีนิสัยโมโหร้ายและใจดำแม้กระทั่งญาติ ซึ่งเป็นพี่สาวของตน รวมทั้งญาติคนอื่นๆ ก็เคยถูกคนร้ายนำปืนออกมายิงขู่หน้าบ้าน หลังมีเรื่องแนวเขตที่ดินรอบบริเวณบ้านคนร้าย หากชาวบ้านคนอื่นมีเรื่องกับคนร้าย จะถูกข่มขู่ด้วยอาวุธปืน

พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 16.30 น. วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามหาตัวคนร้าย กระทั่งพบว่ากำลังเดินอยู่บนถนนทางขึ้นบ่อแก๊สภูฮ่อม บ่อที่ 5 ต.แสงสว่าง อ.หนองแสง จึงตะโกนขอให้คนร้ายมอบตัว แต่คนร้ายยิงต่อสู้ 2 นัด จึงถูกตำรวจยิงสวนกลับไป 1 นัด ถูกบริเวณช่องท้องจนล้มฟุบลงบนพื้นถนน

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าจับกุมตัวไว้ได้ แล้วนำไปรักษาตัวที่ รพ.หนองแสง แต่เนื่องจากอาการสาหัส จึงนำตัวส่งต่อที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี เบื้องต้นพบว่าอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุมีทะเบียนอย่างถูกต้อง แต่จะตรวจสอบว่าคนร้ายได้มาอย่างถูกต้องหรือไม่ เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, พยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ และพกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร” ควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0