วันที่ 16 ก.ค. 62 ความคืบหน้าจากกรณีศาลาริมน้ำแม่กลอง ใกล้วัดเพชรสมุทร อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม พังถล่มลงไปในแม่น้ำแม่กลอง โดยศาลาหลังดังกล่าวมีร้านขายของ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมากและมีผู้สูญหายจำนวน 2 รายตามที่นำเสนอข่าวไปนั้น
เวลา 17.30 น. ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย นำโดยนางสุกานดา วรเชษฐบัญชา ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม นายสุเมธ ธีรนิติ ปลัดจังหวัดสมุทรสงคราม และเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องร่วมกันแถลงข่าวสถานการณ์ โดยตัวเลขล่าสุดพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 20 คน มี 13 คนได้บาดเจ็บเล็กน้อย สามารถกลับบ้านได้แล้ว และมี 7 คนต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล และมีผู้สูญหาย 2 ราย ยังไม่พบตามที่มีกระแสข่าว
โดยนายสมศักดิ์ นวลพิจิต อายุ 39 ปี เจ้าของร้านน้ำในศาลาที่เกิดเหตุ เล่าว่า ตอนนั้นตนเองกำลังเตรียมล้างของเก็บร้าน เพื่อจะกลับบ้านอยู่ที่นอกศาลา และได้ยินเสียงคล้ายมีอะไรชนศาลาจึงหันไปดู เห็นเสาคานค้ำศาลาหักพร้อมกัน 3 ต้น แต่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว ศาลาก็ถล่มพังลงน้ำอย่างรวดเร็ว ซึ่งในศาลามีทั้งลูกค้าและคนขายของ รวมถึงแม่ของตนเองอยู่ด้วย หลังจากนั้นตนเองก็รีบลงไปช่วยแม่ที่ตะเกียกตะกายอยู่ในน้ำ ซึ่งสภาพที่ตนเองเห็นนั้น มีคนร้องขอความช่วยเหลือ และพยายามตะเกียกตะกายขึ้นฝั่ง คนที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุก็รีบเข้ามาช่วยเหลือผู้บาดเจ็บขึ้นฝั่ง
นายสมศักดิ์บอกว่าในเวลาเพียงไม่ถึง 1 นาทีทุกอย่างก็พังถล่มลงแม่น้ำ ตนเองก็ไม่เคยคิดว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น เพราะขายของที่นี่มานานกว่า 30 ปีแล้ว และคิดว่าสาเหตุที่ศาลาถล่ม อาจเกิดจากการผุกร่อกของคานศาลาทำให้หักพังลงมา ไม่น่าเกี่ยวกับน้ำหนักของคนบนศาลา เพราะปกติช่วงวันหยุดคนก็จะมานั่งกินข้าวที่ศาลาเยอะอยู่แล้ว
ขณะที่เมื่อเวลา 19.00 น. ที่ผ่านมา ปลัดจังหวัดสมุทรสงครามในฐานะหัวหน้าส่วนปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหาย เรียกประชุมชุดประดาน้ำเพื่อวางแผนการลงปฏิบัติการค้นหา โดยนักประดาน้ำได้อธิบายลักษณะพื้นที่ใต้น้ำ และจุดที่พบศาลาซึ่งอยู่ในลักษณะลาดเอียง จึงต้องการให้นักประดาน้ำลงไปใช้เชือกผูกทุ่นลอยตามมุมของศาลาทั้ง 4 มุมไว้เพื่อจะได้ทราบถึงทิศทางของอาคาร
โดยนายธนิต กรรณบูรพา นักประดาน้ำอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง กล่าวว่า จากการสำรวจด้านล่าง พบว่าศาลาถล่มลงไป เสาหักทั้งหมด เหลือเพียงหลังคา ซึ่งตั้งลาดเอียงอยู่บนพื้น มีช่องว่างซึ่งเป็นทางเข้าโถงศาลา ที่สามารถเข้าไปได้ โดยตนได้เข้าไปสำรวจจุดดังกล่าวพบว่ามีทั้งโต๊ะ เศษไม้ และถังแก๊สอยู่ด้านใน ซึ่งนักประดาน้ำไม่สามรถเข้าไปตรวจสอบโดยรอบได้ เนื่องจากค่อนข้างมืดและมีความเสี่ยง หากพลาดท่าเชือกหลุดจะไม่สามารถหลุดออกมาจากบริเวณดังกล่าวได้ ส่วนกระแสน้ำด้านล่างยังคงแรงเป็นอุปสรรคต่อการค้นหา
ด้านนายวินัย เสือเล็ก พ่อของ น.ส.พรพิไล ผู้สูญหาย กล่าวว่า ตนเป็นอาสาสมัครของหมู่บ้าน ช่วงบ่ายลูกสาวคนโตโทรแจ้งว่ามีเหตุศาลาถล่ม จึงรีบเดินทางมาที่เกิดเหตุ เมื่อมาถึงก็ช่วยอำนวยความสะดวกเจ้าหน้าที่ จนตอนหลังทราบว่าลูกสาวของตนเป็นหนึ่งในผู้ที่สูญหายด้วยก็รู้สึกหมดแรง ไม่คิดว่าลูกจะอยู่ในเหตุการณ์ โดยทราบว่าลูกสาวมากินข้าวช่วงพักกลางวันกับเพื่อนอีก 2 คน ก่อนเกิดเหตุนั่งกินข้าวได้ยินเสียงดังลักษณะศาลาร้าวก่อนจะร่วงลงไปในน้ำ ซึ่งเพื่อนลูกบอกว่าทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก
ส่วนตัวยอมรับว่าความหวังในตอนนี้เหลือน้อยมาก แต่ก็ขอแค่ให้เจ้าหน้าที่ช่วยนำร่างลูกตนขึ้นมาให้ได้ ไม่ว่าจะในสภาพใด ทั้งนี้ นายวินัยกล่าวทั้งน้ำตาว่า ตอนแรกตนมีหวังว่าลูกจะรอดชีวิต และได้ไปดูรายชื่อที่โรงพยาบาลถึง 3 รอบ แต่ก็ไม่มีรายชื่อ ตอนนี้ทางครอบครัวก็พยายามปลอบใจกันแม้จะไม่มีกำลังใจเลยก็ตาม
https://youtu.be/YT4Z3XhoBE0