พ่อค้าข้าวมันไก่ ท่องคาถายามท้อ "วันนี้ขายไม่ได้ พรุ่งนี้ต้องได้ พรุ่งนี้ไม่ได้ มะรืนก็คงจะได้”

พ่อค้าข้าวมันไก่ ท่องคาถายามท้อ “วันนี้ขายไม่ได้ พรุ่งนี้ต้องได้ พรุ่งนี้ไม่ได้ มะรืนก็คงจะได้”

หลายวันก่อน “เส้นทางเศรษฐีออนไลน์” มีโอกาสพูดคุยกับ พ่อค้าข้าวมันไก่ท่านหนึ่ง ที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ซึ่งมีจิตอาสา ทำข้าวมันไก่หลายสิบห่อ ไปมอบให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติภารกิจช่วย 13 ชีวิต ออกจากถ้ำหลวงฯ  เลยถือโอกาสถามไถ่ถึงประวัติความเป็นมา

คุณตีตี้ – ฐิติภัทร ง่วนหอม ออกตัวยิ้มๆ เรื่องราวของเขาไม่มีอะไรน่าสนใจเท่าไหร่ แต่เมื่อถูกคะยั้นคะยอ ขอให้ถ่ายทอดประสบการณ์ จึงยินดีเล่าให้ฟังแบบกันเองด้วยการย้อนประวัติ  ครอบครัวเป็นคนไทยเชื้อสายมอญ พื้นเพอยู่ตำบลนครชุมน์ อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี  เรียนจบม.ปลายที่โรงเรียนบวรนิเวศฯ กรุงเทพฯ จบปริญญาตรีนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา

ก่อนหน้านี้ เคยผ่านงานมาหลายแห่ง ส่วนใหญ่เกี่ยวกับงานบริการในเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ชื่อดังย่านสุขุมวิท ทำอยู่หลายปี รู้สึกเบื่อชีวิตมนุษย์เงินเดือน เลยเบนเข็มสู่เส้นทางธุรกิจส่วนตัว ด้วยการลงหุ้นเปิดร้านขายวัสดุก่อสร้างกับเพื่อนที่จังหวัดเพชรบูรณ์ แต่อาจเพราะประสบการณ์น้อย บวกกับ เงินทุนไม่หนา ประกอบกับช่วงเวลานั้น ราวพ.ศ.2540  เศรษฐกิจอยู่ในช่วงขาลง ธุรกิจจึงไปไม่รอด เขาเลยกลับเข้าเมืองหลวงมาทำงานประจำอีกครั้ง แต่นานวันเข้าก็เบื่อ จึงตัดสินใจย้ายมาอยู่จังหวัดเชียงราย เพราะหลานชายชวนมาทำบริษัททัวร์

“ช่วงย้ายมาอยู่เชียงราย พอมีเงินทุนอยู่บ้าง จึงเปิดร้านอินเตอร์เน็ต แต่ทำได้ไม่นานต้องปิดตัว เพราะคนเริ่มมีสมาร์ตโฟนกันทุกคน  ส่วนรายได้หลักจากการรับเป็นสต๊าฟในบริษัททัวร์เริ่มไม่พอใช้ เพราะไม่ได้มีงานทุกวัน บางที 3 เดือนไม่ได้ไปเลย สภาวะขาดเงินหมุนในการดำรงชีวิตเริ่มไม่คล่อง เคยอดข้าว 3 วันเพราะเงินไม่มี ขอใครก็ไม่ได้เพราะอยู่คนเดียวในพื้นที่ที่ไม่รู้จักใคร จนต้องโทรไปขอเงินจากเพื่อนสนิทคนหนึ่งที่กรุงเทพฯ จึงอยู่รอดไปได้ระยะหนึ่ง” คุณตีตี้ เล่าเสียงหม่น

เมื่อความจริงตรงหน้า บอกว่า หากรอแต่งานทัวร์ คงต้องอดตาย เขาจึงหาช่องทางทำมาหากินในยามเว้นว่างจากทัวร์   เริ่มต้นด้วยขายของปิ้งย่าง แต่ทำได้ไม่นานก็ไปไม่รอด เพราะคนขายปิ้งย่าง หรือที่เขาเรียกกันว่า “หม่าล่า” นั้น ทำกันแทบทั่วอำเภอแม่สาย

พอดีมีคนแนะนำให้ขายข้าวมันไก่ โดยจะสอนสูตรไหหลำให้.และมีรุ่นพี่ที่รู้จักอีกคนหนึ่ง จะออกทุนให้  แบ่งเป็นลงทุน-ลงแรง คนละครึ่ง ได้ผลกำไรจึงนำมาแบ่งปันกัน  เริ่มต้นช่วงแรกเปิดขายที่หน้าบ้านพักตัวเองไม่เวิร์กเท่าไหร่ เพราะคนสัญจรผ่านไปมาน้อย

เลยคิดจะไปขายตรงหน้าด่านแม่สาย ตอนแรกกะจะใช้เป็นรถเข็น แต่เพราะเป็นคนรูปร่างเล็กคงเข็นรถไม่ไหว จึงเกิดแนวคิดที่จะใช้รถกระบะต่อเป็น “ฟู้ดทรัก” แต่กว่าจะได้ที่จอดขายริมฟุตปาธที่แม่สาย ก็ยากอยู่ เพราะไปตรงไหนก็เต็มไปหมด สุดท้ายมาได้ที่หน้าร้านโทรศัพท์เฟื่องฟ้า ซึ่งเป็นทำเลดีมาก

คุณตีตี้ เล่าให้ฟังต่อ แม้จะได้ทำเล “พอได้ขาย” แล้ว แต่ปัญหาใหม่ก็ตามมา นั่นคือ ต้องเจอกับคู่แข่งรายสำคัญ ซึ่งเป็น “เจ้าตลาด” ที่มียอดขายเป็นอันดับหนึ่งในอำเภอแม่สาย อยู่ก่อนแล้ว

“วันแรกๆ ขายแทบไม่ได้เลย เหลือทิ้งทุกวัน เพราะคนกินติดอยู่กับเจ้าเดิม และที่สำคัญเราอยู่ห่างเขาแค่สิบก้าว ลูกค้าเลยมองเราเป็นตัวสำรอง” คุณตีตี้ เล่าก่อนส่งยิ้มเศร้าๆ

และว่า ช่วงเวลานั้น ข้าวมันไก่ในแบบของเขา หากพอจะขายได้ ก็ต่อเมื่อ “เจ้าตลาด” ขายหมดแล้ว หรือวันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันหยุดของร้านค้าส่วนใหญ่ เมื่อลูกค้าบางคนมาเห็นร้านของเขาเปิดขายอยู่ จึงลองมาชิม

“ข้าวมันไก่สูตรของผมมีความแตกต่าง เมื่อลูกค้าที่ชอบสูตรของผม ก็ย้ายมากินบ้าง จนสามารถดึงลูกค้าบางส่วนมาได้บ้างแต่ไม่ถึงกับดีอะไร แค่พออยู่ได้ จากวันนั้นถึงวันนี้ ขายมาเป็นเวลากว่า 4 ปีแล้ว” คุณตีตี้ บอก อย่างนั้น

ก่อนเผย สูตร “ข้าวมันไก่รามัญ” ในแบบของเขานั้น ไม่ใช้ “ไก่ทั้งตัว”  แต่เลือกเฉพาะส่วนที่คนชอบทานมากที่สุด คือ น่อง กับ สะโพก ส่วน “ข้าวมัน” นั้น มีสูตรเฉพาะ คือ ต้องเลือกข้าวมะลิเก่า 1 ปี ก่อนหุงต้องนำ “มันไก่” มาเจียวแล้วผัดด้วยกระเทียม-ขิง-รากผักชี ให้เหลือง นำน้ำมันไก่ที่ต้มใส่ลงไปรอจนเดือดแล้วนำข้าวมะลิเก่า 1 ปีใส่ลงไปผัดปรุงรสด้วยเครื่องปรุง เช่น น้ำตาล ผงชูรส ซีอิ๊วขาว ผัดจนข้าวแห้งเป็นเม็ดเลื่อม จึงเอามาหุงด้วยน้ำซุปไก่

“ถามว่า ทุกวันนี้ ขายดีมั้ย ก็ไม่ถึงกับดี แค่พออยู่ได้ เพราะไม่ได้จ้างใคร ทำกันเองสองคนกับแฟน” คุณตีตื้ ว่าอย่างนั้น

ก่อนตอบคำถาม ยามท้อแท้ ไม่มีลูกค้า  ใช้คาถาอะไรปลุกปลอบใจ

“นึกถึงคุณครูบาอาจารย์ ให้ช่วยบ้าง แต่สุดท้ายก็ได้แต่บอกตัวเอง วันนี้ขายไม่ได้ พรุ่งนี้ต้องได้ พรุ่งนี้ไม่ได้มะรืนก็คงจะได้”

……..

“ข้าวมันไก่รามัญ” เปิดขายทุกวัน หยุดวันจันทร์ ตั้งแต่ห้าโมงเย็นถึงสี่ทุ่ม ราคาตั้งไว้ จานละ 40 บาท ให้น้ำจิ้มกันแบบไม่อั้น ท่านใดมีโอกาสไปเที่ยวอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย  อย่าลืมไปอุดหนุกันบ้าง  หากไปไม่ถูกหรืออยากออร์เดอร์มาลองชิม สอบถามไปก่อนได้ที่ Facebook/รามัญ ฐิติภัทร