วันที่ 19 ม.ค. ที่ซิลิคอน วัลเล่ย์ สหรัฐอเมริกา นายพุทธิพงษ์ ปุณณกัณต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และคณะ เข้าหารือความร่วมมือกับผู้บริหารระดับสูงของ Facebook ในประเด็นต่างๆ ที่ประเทศไทยได้เคยเสนอในเชิงลึก 4 ด้าน คือ
1. ด้าน Privacy (ความเป็นส่วนตัว) การร่วมมือกันระหว่าง Facebook และกระทรวงดีอีเอสเพื่อสร้างความตระหนักให้ ประชาชน มีความรู้ความเข้าใจเรื่อง privacy ของตนเอง จะทําอย่างไรให้ปลอดภัยในโลกออนไลน์ และ ให้ความรู้ SMEs ในเรื่อง protocol ที่จําเป็น
2. ด้าน DigitalInclusion เน้นการใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยผู้พิการทางสายตาพิการทางการได้ยินพิการทาง ร่างกาย และผู้ที่มีความยากลําบากในการเรียนรู้ ให้สามารถใช้เทคโนโลยีเป็น ซึ่งหลายโครงการประสบ ความสําเร็จเป็นอย่างสูงและกําลังอยู่ระหว่างการขยายผล และมีแนวคิดในการร่วมกันจัด Hackathon เพื่อประดิษฐ์เทคโนโลยีเพื่อช่วยเหลือคนพิการ
3. ด้าน Commercial Experience โดยมีแนวทางในการทํางานร่วมกัน เช่น เรื่องการเก็บภาษีจาก Facebook สําหรับการซื้อขายโฆษณาในประเทศไทย เรื่องการควบคุมสินค้าปลอมหรือไม่ถูกกฎหมายที่ ขายผ่านช่องทาง Facebook
4. ด้าน Fakenews โดยได้หารือแนวทางความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาข่าวปลอมกับเนื้อหาที่ไม่ เหมาะสมบน Facebook รวมถึงการสร้างขั้นตอนในการทํางานร่วมกันอย่างชัดเจน และ timeline ของ กระบวนการแจ้งลบแอ็คเค้าท์ปลอม หรือข้อมูลเท็จได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้สามารถอธิบายให้ประชาชน รับทราบได้
นายพุทธิพงษ์ เปิดเผยว่า ทาง Facebook แจ้งว่าเป็นครั้งแรกที่มีรัฐมนตรีจากประเทศไทยมาเข้าพบจึงให้ความสำคัญมาก นัดหมายให้พูดคุยกับผู้บริหารระดับสูงหลายคน ซึ่งตนได้ให้ข้อมูลและหารือประเด็นต่างๆ ที่ประเทศไทยเคยเสนอไป แบบลึกซึ้งและมีข้อสรุปที่ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องข่าวปลอม
"ผมได้หารือเรื่องมาตรการจัดการข่าวปลอม ข้อมูลปลอม หรือเพจที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสม ผิดกฎหมาย เป็นปัญหาหนักของประเทศไทย ซึ่งเฟซบุ๊กถูกใช้เป็นพื้นที่เผยแพร่ข่าวปลอม และถูกแชร์ออกไปอย่างรวดเร็ว โดยใช้แอคเคาท์อวตาร ไม่ใช่คนจริง แอคเคาท์ปลอมที่แอบอ้างเป็นผู้อื่นปล่อยข่าวปลอม ทำให้ประชาชนหลงเชื่อ สร้างความเสียหายแก่บ้านเมืองและประชาชนหลายๆ ด้าน ไม่ว่าด้านสุขภาพ เงินทอง ภัยพิบัติ หรือความมั่นคง"
"ทาง Facebook ได้ตกลงตั้งคณะทำงานเพื่อทำงานร่วมกันอย่างเต็มที่ จัดการเนื้อหาที่เป็นเท็จ มีขั้นตอนในการทำงานร่วมกันอย่างชัดเจน และ timeline กระบวนการแจ้งลบแอคเคาท์ปลอม หรือข้อมูลเท็จได้อย่างรวดเร็วกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ ที่ผ่านมาแจ้งไปหลายหมื่นเรื่องก็ไม่ได้ดำเนินการ เราก็ทำอะไรไม่ได้เพราะเป็น platform ของเอกชน ต้องให้ทาง Facebook ดำเนินการเท่านั้น เป็นปัญหาและอุปสรรคในการทำงานอย่างมาก จากนี้คงจะแก้ปัญหาได้ดีขึ้นเร็วขึ้นตามที่ได้หารือกันครับ"
