โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

พี่สาวเมีย "เฮียตี๋" เสี่ยเต็นท์รถพิษณุโลก เชื่อสมัครใจรมควันตายยกครัว

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

อัพเดต 23 ก.พ. 2563 เวลา 07.49 น. • เผยแพร่ 23 ก.พ. 2563 เวลา 07.49 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

พี่สาวเมีย "เฮียตี๋" เสี่ยเต็นท์รถรมควันตายยกครัว เผย น่าจะเป็นการสมัครใจตายยกครัว ดูจากโน้ตที่เมียเฮียตี๋ทิ้งไว้ ขณะที่ตำรวจพิษณุโลก ชี้ คดีไม่ซับซ้อน หลักฐานบ่งชี้เป็นการฆ่าตัวตาย

จากกรณี นายกัณตภณ แป้นวงศ์ อายุ 38 ปี หรือ เฮียตี๋ เจ้าของเต็นท์รถยนต์มือสอง กัณตภณออโต้ ที่ จ.พิษณุโลก ที่กินยานอนหลับและยาแก้แพ้พร้อมกับแม่ พี่สาว ภรรยา และบุตรชาย ก่อนจุดเตาอั้งโล่จำนวน 2 เตาในห้องน้ำ เพื่อรมควันฆ่าตัวตายพร้อมกัน ภายในห้องนอนของแม่ที่เปิดแอร์ทิ้งไว้ทำให้เสียชีวิต รวมกับสุนัขอีก 6 ตัว ที่บ้านพักด้านหลังเต็นท์รถ โดยตำรวจคาดสาเหตุเกิดจากความเครียดเรื่องหนี้สินที่ยืมเพื่อนมา รวมทั้งเงินของเพื่อนอีกส่วนหนึ่งที่มาร่วมลงทุนทำธุรกิจเต็นท์รถและสถานตรวจสภาพรถเอกชน รวมแล้วเกือบ 20 ล้านบาท แล้วหมุนเงินไม่ทัน ไม่มีเงินปันผลให้เพื่อน และส่งดอกเบี้ยเงินกู้ โดย นายธงชัย แป้นวงศ์ อายุ 61 ปี หรือ ตี๋สั้น พิษณุโลก บิดาของเฮียตี๋ ยังไม่ปักใจเชื่อว่าบุตรชายตนเองจะลงมือฆ่าตัวตายพร้อมกับครอบครัว และไม่เชื่อว่าไปยืมเงินเพื่อนมามากมายถึงสิบล้านบาท ตามที่เสนอข่าวไปตามลำดับแล้วนั้น

ล่าสุด เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 23 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.อัจฉรา พานนาค อายุ 43 ปี ปลัดอำเภอเมืองพิษณุโลก พี่สาวของ นางยอดขวัญ แป้นวงศ์ ภรรยาของเฮียตี๋ ซึ่งนำร่างของน้องสาวกับลูกชายมาตั้งสวดพระอภิธรรมศพที่วัดธรรมจักร ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า ขณะนี้ทั้งสองครอบครัวยังมีเรื่องที่ยังติดใจและเข้าใจไม่ตรงกัน แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด ส่วนใหญ่เจอน้องสาวก็จะพูดคุยไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบกันตามประสาพี่น้อง ระยะหลังสังเกตเห็นน้องสาวมีสีหน้าไม่สู้ดี เมื่อถามน้องสาวก็ตอบเพียงว่าไม่สบายเป็นไข้เป็นหวัดติดกันทั้งบ้าน ไม่ได้มีเรื่องเครียดเรื่องอื่น

ส่วนเรื่องการดูแลรายรับรายจ่ายของเต็นท์รถนั้น เท่าที่ทราบจะเป็นหน้าที่ของ น.ส.สุธิพร แป้นวงศ์ พี่สาวของเฮียตี๋เป็นคนดูแลบัญชี แต่น้องสาวของตนจะดูแลการเงินด้วยหรือไม่นั้นไม่ทราบแน่ชัด แต่ก็มั่นใจว่าเรื่องการฆ่าตัวตายที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นการสมัครใจของแม่ พี่สาว นายกัณตภณ และน้องสาวของตน เพราะว่าพบโน้ตสั่งเสียเอาไว้ในโทรศัพท์มือถือของน้องสาว ส่วนน้องวินเนอร์บุตรชายของน้องสาวกับนายกัณตภณคงไม่รู้ตัว

ขณะที่ ลูกน้องที่ดูแลเต็นท์รถยนต์มือสองให้กับเฮียตี๋ เปิดเผยว่า ธุรกิจเต็นท์รถของเฮียตี๋นั้นเริ่มแรกขายดีมาก เดือนหนึ่งจะขายรถได้มากถึง 20 คัน มีกำไรเข้ามาเป็นกอบเป็นกำ แต่ก็ต้องจ่ายเป็นค่าจ้างค่าลูกน้อง ค่าดูแลธุรกิจอื่นๆ ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ที่เฮียตี๋ลงทุน คือ ร้านกาแฟ สถานตรวจสภาพรถเอกชน และส่งน้ำแข็ง ต่อมาธุรกิจเต็นท์รถมือสองเริ่มส่อเค้าว่าไปไม่ไหวเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา เพราะขายรถออกไม่ได้เลยสักคัน เฮียตี๋เครียดมาก มักจะบ่นว่าไม่มีลูกค้ามาติดต่อขอซื้อรถ ทำให้ไม่มีเงินหมุนเวียนในธุรกิจ และเงินขาดสภาพคล่องอย่างหนัก ไหนจะต้องจ่ายเป็นค่าดอกเบี้ยที่กู้ยืมมาจากกลุ่มเพื่อนอีกหลายคน รวมทั้งจ่ายเงินปันผลให้กับเพื่อนๆ ที่มาร่วมลงทุนทำธุรกิจด้วยกันอีกด้วย

ส่วน พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก เปิดเผยว่า คดีนี้ไม่มีความซับซ้อน เพราะทุกอย่างที่เก็บหลักฐานได้ในที่เกิดเหตุบ่งชี้แล้วว่าเป็นการฆ่าตัวตายเอง ทั้งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และผลนิติเวช ทุกคนมีการเตรียมการตั้งแต่ซื้อเตาอั้งโล่ และซื้อถ่านไว้ สำหรับกล้องวงจรปิดที่ถูกถอดออกตั้งแต่วันที่ 19 ก.พ. ที่ผ่านมา จากการสอบสวนพบว่าทางเฮียตี๋เป็นคนให้ลูกน้องไปถอดออกเอง ซึ่งปกติจะถอดปลั๊กกล้องวงจรปิดทุกวันเสาร์ แต่ก่อนเกิดเหตุได้สั่งให้ลูกน้องถอดออกวันที่ 19 ก.พ. และสั่งปิดร้านในวันพฤหัสฯ โดยสั่งให้ลูกน้องมาทำงานในวันศุกร์จนทราบว่าเกิดเหตุดังกล่าว
นอกจากนี้บ้านก็ถูกล็อกจากข้างใน ทั้งประตู หน้าต่าง ห้องนอนที่เกิดเหตุก็มีกลอนล็อกข้างใน จึงไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะมีคนนอกเข้าไปก่อเหตุในลักษณะเป็นการฆาตกรรมอำพราง ส่วนเรื่องหนี้สินที่เฮียตี๋ไปขอยืมเงินจากกลุ่มเพื่อนฝูง และมรดกทรัพย์สินอื่นๆ ที่ยังเหลืออยู่ คงต้องเรียกให้ทั้งสามฝ่าย คือ ครอบครัวเฮียตี๋ ครอบครัวภรรยาเฮียตี๋ และกลุ่มเพื่อนๆ มาพูดคุยหาข้อสรุปกันอีกครั้ง.

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0