โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

พิษมหันตภัย ไวรัสอู่ฮั่น เศรษฐกิจโลกซมไข้

Businesstoday

เผยแพร่ 25 ก.พ. 2563 เวลา 05.24 น. • Businesstoday
พิษมหันตภัย ไวรัสอู่ฮั่น เศรษฐกิจโลกซมไข้

https://youtu.be/tvh2SKFTSWw

มาตรการการเงินสู้ไวรัสรวดเร็วดีแต่ยังไม่เพียงพอ
สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาจากนครอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย สาธารณรัฐประชาชนจีน ตลอดกว่า 1 เดือนที่ผ่านมา น่าจะกำลังผ่านพ้นจุดเลวร้ายที่สุดไปในอีก
ไม่นานนี้ แม้ว่าอัตราการแพร่ระบาดของผู้ติดเชื้อในนครอู่ฮั่นและเมืองอื่นๆ ในมณฑลหูเป่ยยังไม่สามารถบอกได้ชัดเจนว่าจะเริ่มเห็นทิศทางชะลอตัวลงอย่างชัดเจนหรือยัง แต่ด้วยการตัดสินใจที่เด็ดขาดของรัฐบาลจีน การมองเห็นอนาคตสถานการณ์ที่เคยมีประสบการณ์อันเจ็บปวดของการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคซาร์สของประเทศจีน
ทำให้รัฐบาลจีนสามารถรับมือเพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพพอสมควร จนสร้างความเชื่อมั่นให้กับองค์การอนามัยโลก ที่แม้ได้ตัดสินใจประกาศภาวะฉุกเฉินทางด้านสาธารณสุขในระดับโลกไปแล้ว แต่ยังยืนยันถึงความเชื่อมั่นในขีดความสามารถของรัฐบาลจีนในการบริหารวิกฤติจากการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาได้อย่างแน่นอน
ผลกระทบทางเศรษฐกิจของจีนต่อเนื่องจากการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาได้ส่งผลสะเทือนไปทั่วโลกแล้ว นักท่องเที่ยวชาวจีนที่เป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้ชะลอตัวลงทั่วโลก รัฐบาลจีนขอร้องไม่ให้บริษัททัวร์จัดกรุ๊ปทัวร์ไปต่างประเทศเป็นการชั่วคราว ได้ส่งผลให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วโลกซบเซาลงทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศไทยที่เป็นตลาดใหญ่ของนักท่องเที่ยวจีนได้รับผลกระทบอย่างฉับพลัน กลุ่ม
นักท่องเที่ยวจีนหายไปมากกว่า 70-80%
ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่มีการใช้วัตถุดิบจากประเทศจีน หรือมีการเปิดกิจการในประเทศจีนต่างอยู่ในสถานการณ์หยุดชะงักชั่วคราว มาตรการของหลายๆ บริษัทได้นำออกมาใช้ เช่น ร้านแอปเปิลสโตร์ปิดชั่วคราวทั่วประเทศจีน ฯลฯ สำหรับประเทศไทยเองเริ่มเห็นผลกระทบต่อเนื่องจากภาวะไวรัสโคโรนาที่ยืดเยื้อแล้ว เช่น ผลไม้ไทยที่บริษัทในจีนสั่งนำเข้าไว้ถูกสั่งชะลอหรือยกเลิกคำสั่งซื้อ การนำเข้าสินค้าจากจีนมาขายบนออนไลน์ที่ยากลำบากขึ้น ธุรกิจขนาดกลางและเล็กที่เกี่ยวเนื่องกับลูกค้านักท่องเที่ยวจีนเริ่มปิดตัวเองชั่วคราว ฯลฯ
ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาได้เห็นรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และภาคธนาคารได้ออกมาตรการช่วยเหลือภาคธุรกิจ โดยยังไม่ได้มีการร้องขออย่างเป็นทางการจากภาคธุรกิจในหลายๆ มาตรการที่ถือได้ว่าพอจะช่วยเยียวยาได้บ้าง เช่น กรมสรรพากรเลื่อนระยะเวลายื่นภาษีเงินได้นิติบุคคลออกไป 3 เดือน ธนาคารแห่งประเทศไทยกระตุ้นให้ธนาคารพาณิชย์ออกมาตรการ
เลื่อนการชำระหนี้ของลูกค้ารายย่อยและรายกลาง การตัดสินใจของคณะกรรมการนโยบายการเงินลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเหลือ 1% ที่ต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้ธนาคารพาณิชย์เกือบทุกแห่งประกาศโดยทันทีลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลง 0.25% เพื่อช่วยลดภาระลูกค้าและพยุงธุรกิจไว้ก่อน ฯลฯ
แต่อย่างไรก็ตาม มาตรการต่างๆ ของรัฐบาลที่ออกมามากพอสมควรแล้ว แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะเพียงพอช่วยพยุงภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติไวรัสโคโรนาได้มากแค่ไหน เพราะยังไม่มีใครบอกได้ว่าการแพร่ระบาดของไวรัสอู่ฮั่นจะชะลอตัวลงเมื่อไหร่ จึงได้แต่หวังว่าด้วยความสามารถและประสิทธิภาพในการบริหารงานในสถานการณ์วิกฤติของรัฐบาลจีน
จะทำให้ฤทธิ์เดชของไวรัสโคโรนาอ่อนแรงลงโดยเร็วที่สุด เพื่อลด
ผลกระทบเป็นลูกโซ่กับเศรษฐกิจโลกได้ โดยรัฐบาลไทยไม่ต้องออกมาตรการช่วยเหลือทางเศรษฐกิจที่เข้มข้นมากกว่านี้

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0