โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

พาเหยื่อหมอสูติ พึ่งผบ.ตร. ทนายอ้างมี 50 คน ลือทำกิฟต์-ท้อง ดีเอ็นเอไม่ใช่ผัว

Khaosod

อัพเดต 18 พ.ย. 2561 เวลา 02.48 น. • เผยแพร่ 18 พ.ย. 2561 เวลา 02.48 น.
Untitl25ed-1

หมอข่มขืนคนไข้ / ทนายนิด้าอ้างเหยื่อหมอสูติฯ ขืนใจ มากถึง 50 ราย แต่คดีขาดอายุความเกือบหมด เผยผู้เสียหายหลายคนพร้อมเป็นพยานให้ ระบุที่เหยื่อเลือกใช้บริการคลินิกนี้เพราะราคาไม่แพง เตรียมพาผู้เสียหายร้อง “บิ๊กแป๊ะ” ทนายเดชาเตือนระวังเงิบ เชื่อแบล็กเมล์หมอ กล่าวหาใครต้องมีหลักฐาน ชี้เป็นไปไม่ได้เหยื่ออื้อแต่ไม่มีการแจ้งความ ระวังโดนฟ้องกลับ เลขาธิการแพทยสภาระบุรอถกตั้งสอบจริยธรรม หวั่นวงการแพทย์ เสียหาย ประชาชนขาดความเชื่อมั่น อาจตั้งอนุกรรมการชุดเฉพาะกิจขึ้นมาแก้ปัญหาในภาพรวม

จากกรณีเพจ“ทนายนิด้า” เผยแพร่เรื่องหมอข่มขืนคนไข้สาว ขณะเข้ารับการตรวจภายในที่คลินิกแห่งหนึ่งใน จ.นครสวรรค์ โดยหมอได้อ้างกับสาวผู้เสียหายวัย 29 ปี ซึ่งเป็นคนไข้ว่าได้ใช้ของปลอมสอดใส่อวัยวะเพศเพื่อปลุกอารมณ์ทางเพศ อ้างว่าเวลาตรวจจะได้ไม่เจ็บ ต่อมาผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ ขณะเดียวกันหมอคนดังกล่าวได้พยายามขอไกล่เกลี่ย โดยโอนเงินให้ผู้เสียหาย 3 แสนบาท แลกกับการไม่ดำเนินคดี จนกระทั่งตำรวจ สภ.เมืองนคร สวรรค์ ได้ออกหมายเรียก นพ.จักรพงษ์ ลีลาพร อายุ 53 ปี แพทย์สูตินรีเวช ร.พ.แห่งหนึ่งใน จ.นครสวรรค์ และเป็นเจ้าของคลินิกจักรพงษ์ ให้มารับทราบข้อกล่าวหากระทำอนาจาร และข่มขืนกระทำชำเรา แต่ นพ. จักรพงษ์ ให้การปฏิเสธ และขอให้การในชั้นศาล นอกจากนี้ยังมีผู้เสียหายหลายรายออกมาแฉหมอคนดังกล่าว ซึ่งกระทำแบบเดียวกัน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 17 พ.ย. เฟซบุ๊กเพจ “ทนายนิด้า” ได้โพสต์ข้อความว่า “1 ในคนที่โดนลวนลาม ในบรรดา 30-40 คนที่ติดต่อให้ข้อมูลมาตอนนี้ มีคลิปเสียงแต่โพสต์ยัง ไม่เป็น รอก่อนค่ะ” พร้อมเผยข้อความที่แช็ตคุยกับหญิงสาวที่อ้างตัวเป็นหนึ่งในผู้เสียหาย

ซึ่งถูกนายแพทย์คนดังกล่าวลวนลาม ลักษณะคล้ายกับเหยื่อรายอื่นๆ ก่อนหน้า โดยเหตุเกิดเมื่อปี 2560 ทั้งนี้ หลังจากที่มีการโพสต์เรื่องราวดังกล่าว ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กคอมเมนต์แสดงความคิดเห็นจำนวนมาก บางรายก็ให้กำลังใจทนายนิด้าอีกด้วย

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยังมีข่าวลือในคอมเมนต์ของเพจดังเพจหนึ่งระบุข้อความว่า “คน จ.นครสวรรค์ ที่มีลูกยากไปทำผสมเทียมเช็กดีเอ็นเอ ปรากฏว่าไม่ใช่ของสามีเค้ากว่า 30 ราย คาดว่าหมอมันเอาอาสุจิมาผสมเทียมให้” อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครสวรรค์ ได้ความว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้เสียหายเดินทางเข้ามาแจ้งความในเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด

ด้าน น.ส.ศรันยา หวังสุขเจริญ หรือทนายนิด้า เปิดเผยว่า จนถึงตอนนี้มีผู้มาร้องเรียนกับตนว่าเป็นผู้เสียหายแล้วจำนวน 40-50 ราย มีตั้งแต่ปี 2545 จนถึงปี 2561 โดยรายล่าสุดที่ตนโพสต์ในเพจก็จะเป็นหนึ่งในพยานด้วย แต่เนื่องจากคดีลักษณะนี้มีอายุความแค่ 3 เดือน

ดังนั้นขณะนี้จึงหมดอายุความไปแล้ว จึงเป็นได้เพียงพยาน เท่าที่พูดคุยผู้เสียหายพร้อมที่จะเป็นพยานให้ อย่างรายหนึ่งที่คุยอยู่ตอนนี้แต่งงานย้ายไปอยู่กับสามีที่ต่างประเทศและจะเดินทางกลับมาเมืองไทยในเร็วๆ นี้ ก็ส่งข้อมูลเข้ามาว่าถูกกระทำในลักษณะกระทำอนาจารเช่นเดียวกันเมื่อ 7-8 ปีก่อน

“โดยหมอรายนี้จับ ล้วง อ้างว่าเป็นการกระตุ้นฮอร์โมน ผู้เสียหายรายนี้แสดงความจำนงว่ายินดีจะเป็นพยานให้ ทั้งนี้เท่าที่พูดคุยกับผู้เสียหายหลายๆ ราย พบว่าที่เลือกใช้บริการหมอรายนี้เพราะราคาไม่แพง และเท่าที่ตนประเมิน หมอเลือกที่จะล่วงเกินกับรายที่ไม่มีศักยภาพจะเอาเรื่อง

อย่างรายหนึ่งที่ตนคุยมา เป็นสาวโรงงานต้องการแก้หมัน โดยหมอรายนี้คิดราคาถูกที่สุดแล้วคือ 20,000 บาท ก็ไปรวบรวมเงินจนได้ครบก็นำไปรักษากับหมอรายนี้ แล้วก็ถูกกระทำชำเรา ถามว่าทำไมไม่แจ้งความ แต่กลับได้รับคำตอบว่าไม่มีต้นทุน” น.ส.ศรันยากล่าว

น.ส.ศรันยากล่าวต่อว่า ตอนนี้เท่าที่ดูเบื้องต้นน่าจะมีอยู่ 2 รายที่ยังไม่หมดอายุความ คือรายที่เป็นข่าวอยู่ในตอนนี้ กับอีกรายที่เพิ่งได้คุยเป็นรายที่ 3 ซึ่งตนยังไม่ได้พูดคุยรายละเอียด จึงยังตอบอะไรมากไม่ได้ อย่างไรก็ตามในวันที่ 20 พ.ย.นี้ตนกับ บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ประธานขององค์กรทำดี จะพาผู้เสียหายเข้าพบ พล.ต.อ.จักรทิยพ์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เพื่อร้องเรียน โดยจะรวบรวมผู้เสียหายให้มากที่สุดพาเข้าไปพร้อมกัน

วันเดียวกัน พล.อ.ต.นพ.อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า แพทยสภาได้รวบรวมข้อมูลจากสื่อที่เกี่ยวข้องไว้แล้ว เพื่อรอข้อเท็จจริงจากพนักงานสอบสวนหรือผู้เสียหายร้องเรียนแจ้งมา เพื่อเริ่มเข้าสู่การดำเนินคดีจริยธรรมตามกฎหมาย และดำเนินการสอบสวนผู้เกี่ยวข้องต่อไป

โดยคณะอนุกรรมการจริยธรรมผ่านความเห็นของราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์ฯ ซึ่งขั้นตอนดังกล่าวจะผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการแพทยสภา เนื่องจากกรณีดังกล่าวสร้างความเสียหายต่อวงการแพทย์ ทำให้ประชาชนเสียความเชื่อมั่น อาจตั้งอนุกรรมการชุดเฉพาะกิจขึ้นมาแก้ปัญหาในภาพรวม ซึ่งอยู่ในดุลพินิจของกรรมการแพทยสภา

ขณะที่ นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนาย ความชื่อดัง ได้ออกมาไลฟ์เฟซบุ๊กระบุว่า เราเป็นทนายความ จะกล่าวหาใครมันต้องมี หลักฐาน ถ้าไม่มีหลักฐาน สิ่งที่ตามกลับมานี่เยอะ ทนายความเป็นผู้รู้กฎหมาย กล่าวหาใครต้องมีหลักฐาน ถ้ามีแต่คำพูด คนนั้นมาร้องเรียนว่าเจอหมอจับหน้าอก ไซ้ซอกคอ เป่าลมที่หู จับอวัยวะเพศ เลียอวัยวะเพศ ไม่มีหลักฐานก็ต้องระวัง

ถ้าเรื่องจริงก็แล้วไป ถ้าไม่ใช่เรื่องจริงอย่าออกตัวแรง จะเตือนไว้ก่อนในฐานะที่เป็นรุ่นพี่ เตือนไว้ก่อนอย่าออกตัวแรงระวังจะเงิบ มันจะเป็นไปได้ไหมมีคนถูกหมอคนนี้ข่มขืน-จับหน้าอก 20-30 ราย แล้วไม่เคยแจ้งความเลย เวลาผ่านมาตั้งนานเป็นเดือนเป็นปี

ตนเป็นทนายความมา 33 ปี เคยทำคดีประเภทนี้มาหลายคดีเลย คดีเกี่ยวกับหมอโดนแบล็กเมล์เนี่ยเยอะ ทำไมผู้หญิงชอบแบล็กเมล์หมอ หมอรวย เงินเดือนเดือนนึงประมาณ 3-4 แสนบาท บางคน 8-9 แสนบาท แต่ถามว่ามันมีหมอหื่นกามมีไหม ก็มี แต่ที่ตนทำคดีพวกนี้มาส่วนมากก็แบล็กเมล์หมอ เรียกเงินเป็น สิบล้านก็มี เอาไปฟ้องศาล จนศาลยกฟ้องก็มี สุดท้ายหมอฟ้องกลับ ออกหมายจับผู้หญิง หนีเลย

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0