โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

แฟชั่น บิวตี้

พาเที่ยวเซียงไฮ้ 6 วัน 5 คืน

Jeban.com

เผยแพร่ 17 ก.พ. 2562 เวลา 17.00 น. • RV

สวัสดีค่า กลับมาพบกับฝนอีกแล้วนะคะ
คราวที่แล้วกานพาไปเที่ยวสิงค์โปรไปแล้วคราวนี้ฝนจะพาไปเที่ยวเมืองจีนเซี่ยงไฮ้บ้างค่ะ

รีวิวเที่ยวเซี่ยงไฮ้, Xitang 6 วัน 5 คืน

งบประมาณ

  • ค่ากิน,ค่าช้อป 12,000.-
  • ค่าตั๋วประมาณ 11,000.-
  • ค่า Airbnb 5 คืน 4,000.- / ต่อคน
  • ค่า Disneyland คนละ 2,650.- (จองผ่าน KKday)
  • ค่า sim2fly 399.- (ตอนนี้เค้าเปิด route จีนแล้วค่ะคุณ – เล่นเนทไม่ต้องมี VPN แล้วจ้า)
  • ค่าวีซ่า 1,500.-ไปกันมาเมื่อ 22 ส.ค. –  26 ส.ค. ทริปนี้เกิดขึ้นได้เพราะพลอยเพื่อนของฝน เรียนอยู่ที่ Tianjin ปิดเทอมฤดูร้อนพอดี เราเลยตกลงว่าไปเที่ยวเซี่ยงไฮ้กัน!
    เอาจริงๆไปแล้วร้อนมากกกกก และวันสุดท้ายฝนก็ตกจ้า เหมือนมีพายุเข้าอยู่ เยี่ยมไปเลย เพราะฉะนั้นเพื่อนๆถ้าจะไปเที่ยวเซี่ยงไฮ้แนะนำเป็นหน้าอื่นดีกว่า ให้หาข้อมูลไปดีๆ ช่วงที่พายุไม่เข้า และเนื่องจากเป็นปิดเทอมฤดูร้อน ใครไปดีสนีย์ช่วงนี้จะราคาตั๋วแพง และเด็กเยอะมาก ใครอยากไปดีสนีย์ชิวๆ ไปช่วง low season น่าจะดีกว่า ต้องคอยเชคในหน้าเว็บดีสนีย์เพราะแต่ละปีราคาไม่เท่ากันค่ะ

DAY 1

เราไปขึ้นเครื่องบินที่สุวรรณภูมิ

บินด้วยสายการบิน Spring Airlines (https://en.ch.com/) เป็นสุดยอด low cost ของ low cost อีกทีของจีน 5555 ผู้โดยสารประมาณ 99% เป็นคนจีนจ้าาาา นึกว่าอยู่จีนตั้งแต่สุวรรณภูมิ โดยรวมก็ดีนะคะ แต่แนะนำให้จองตั๋วแบบจองที่นั่ง fixed ไว้เลยไม่งั้นจะงงมากตอนเชคอิน
เครื่องกำหนดออกตอนตีสามกว่าๆ แต่เนื่องจากพายุเข้าเซี่ยงไฮ้ ทำให้เครื่องดีเลย์มาถึงสุวรรณภูมิตอนตีห้า!!! รอกันยาวๆไปจ้า ฝนกับพลอยไม่ได้นอนกันมาเลยพอขึ้นเครื่องก็คือหลับเลย ไม่รู้ว่าบินนิ่มมั้ย 5555
เครื่องถึงประมาณเที่ยงๆบ่ายๆ ก็นั่งรถไฟฟ้าความเร็วสูง Maglev เข้าเมืองใช้เวลาประมาณ 8 นาที ราคา 50 หยวนต่อเที่ยว (มีแบบ round trip 80 หยวน ใช้ภายใน 8 วัน) Maglev จะพาพวกเราไปที่ใจเมืองในสถานี Longyang Road ค่ะ
จากนั้นพวกเราตัดสินใจไปแท็กซี่ ถึงพี่พักเลย ที่พักที่เลือกอยู่ใน Airbnb ย่าน XiZang North Road ถือว่าดีนะ โฮสน่ารัก ตอบไว ช่วยเหลือเราดีมาก ที่พักขนาดกำลังดี สี่คนยังไหวเลย แต่ติดอย่างนึงคือ ถ้าจะมาพักย่านนี้ ควรจะเข้าใจภาษาจีนนิดนึง เพราะย่านนี้เป็น residental area ของจริง ไม่เห็นชาวต่างชาติเลย แม้แต่คนเดียว

และเนื่องจากฝนกับพลอย ชอบออกกำลังกายมาก เลยไปทดลองเล่นยิมกับเพื่อนที่เซี่ยงไฮ้ที่ Z&B fitness ค่ะ ดีมากเลยนะ แบบสนุกและเหนื่อยดี คนในยิมพูดภาษาอังกฤษได้หมดเลยค่ะ โค้ชก็เป็นต่างชาติไม่ก็ ABC (American Born Chinese)

จากนั้นก็นัดกันไปกิน Ao Ba Nian เป็นร้านอาหาร Taiwanese style hotpot อร่อยดีนะคะ มีเมนูหลายอย่างมาก ที่ไม่คิดว่าจะใส่ในหม้อได้ด้วย แต่ได้กินแล้วอร่อยดี อิ่มมากด้วย 5555

Day 2

วันที่ 2 ฝนก็ไปออกกำลังกายที่ Z&B แต่เป็นอีกสาขาที่ใกล้กับที่พักกว่าเมื่อวานค่ะ
จากนั้นตอนสายๆ เราก็ออกเดินทางไป Yuyuan Garden เป็นจุดทัวร์ลงที่ไม่ว่าใครไปเที่ยวเซี่ยงไฮ้ก็ไปกัน มีค่าเข้านะคะ คนละ 30 หยวนค่ะ

ที่นี่มี Xiao Long Bao เจ้าดังอยู่ด้วย มีแบบจิ๋วกับแบบยักษ์ เดินไปอีกหน่อยจะเป็นแบบทอด 5555 อร่อยดีนะ นี่พูดถึงก็อยากกินอีกเลย 555

จากนั้นก็ไปเที่ยวจุดทัวร์ลงอีกที่คือ The Bund (เดอะบันด์) ด้วยความที่ไม่ได้ทำการบ้านฝนกับพลอยเรียกว่า เดอะบุ้น ทั้งทริป 555555
ฝนไปขึ้น ใต้ดินที่สถานี Nanjing East Road ขึ้นมาแล้วแบบ โอ้วมายกอต อะไรมันจะยิ่งใหญ่เบอร์นี้เลย เหมือนมีห้างชนห้างกันสี่ห้าห้าง ฟีลแบบเอาสยามพารากอน เซ็นทรัลเวิลด์ ไอค่อนสยาม เอมควอเทียร์ มารวมกันในที่เดียวอะ แล้วคนก็จะเดินไปชมวิว the bund กัน คนเยอะมากๆๆ
ฝนกับพลอยไปเวลาเหมาะพอดี คือเหมือนพระอาทิตย์กำลังจะตก แล้วจะเปลี่ยนจากวิวกลางวันเป็นกลางคืน พวกเราเลยรอดูไฟตอน 1 ทุ่มไปด้วยเลย

จากนั้นเลยหาร้านอาหารทานกัน ไปจบที่ Qing Hua Jiao Sha Guo Yu (青花椒砂锅鱼) เป็นร้านอาหารสไตล์เสฉวน ที่จานหลักจะเป็น เมนูซุปปลาที่ใส่พริก และเครื่องเทศพิเศษจากเสฉวนค่ะ อร่อยและแปลกดี ปลาไม่คาวเลย พลอยสั่งไก่ที่ใส่ในน้ำมันพริกมาด้วย อันนั้นก็อร่อยมาก เนื้อไก่แน่นๆ แล้วมันเผ็ดๆดี แต่เป็นเผ็ดที่อยากกินต่อไปเรื่อยๆ รู้ตัวอีกทีคือหมดและ 555

Day 3

และแล้ววันที่ฝนรอคอยมากที่สุดในชีวิตวัยเด็ก แต่ไม่ได้มาก็มาถึง ตอนนี้โตเป็นผู้ใหญ่ก็เลยได้มาสานฝันสักที นั่นก็คือ Disneyland Shanghai นั่นเองค่ะ
มันคือความดีงามไปแล้วรู้สึกเหมือนฝันไปเลย ถ้าไม่ติดตรงที่ว่า เอลซ่าพูดภาษาจีนจะเพอร์เฟคมาก 5555
ฝนซื้อบัตรผ่านแอป KKDay ดีนะไม่ต้องต่อคิวซื้อตั๋วเลย แล้วราคาก็พอๆกับไปซื้อในเว็บดีสนีย์อ่ะ
ซื้อกับ KKDay ปริ้นบัตรเข้าไปรอทางเข้าได้เลยแล้วพอไปเห็นคิวตรงซื้อตั๋วบอกเลยคนเยอะมากกกกกก
ตอนก่อนไปก็ไปอ่านรีวิววิธีการไปดีสนีย์แลนด์ให้คุ้มจากกระทู้พันทิบนี้มา https://pantip.com/topic/36945493 รีวิวไว้ละเอียดดีเราแนะนำให้ไปอ่านกันค่ะ แต่พอถึงวันจริง FastPass ก็ไม่ได้ใช้ เพราะหมดตั้งแต่สวนเปิดเลยจ้า

แต่ก็ได้เล่นหลายเครื่องอยู่นะ ที่แน่ๆที่ต้องไปคือ  Tron Lightcycle Power Run ในโซน Tomorrowland
ตอนเราไปใช้จังหวะคนไปดูพาเรดแล้วไปต่อก็รอไม่นานเท่าที่คิด

แนะนำว่าถ้าใครไม่อินกับดีสนีย์​ หรือชอบเครื่องเล่นน่ากลัวๆ ขอบอกว่าที่นี่ไม่ใช่ที่ของคุณค่ะ เพราะเครื่องเล่นส่วนใหญ่ทำมาเพื่อเด็กๆได้มาเล่นกันมากกว่า 555

ฝนก็ได้รอดูพลุด้วย ไปนั่งรอกันนานมากกกก ตั้งแต่ประมาณ 6 โมง มันเริ่มประมาณ  8:30 ถึงแม้จะเป็น 20 นาทีรู้สึกขนลุกอะตอนที่ได้ดู เป็น disney magic ที่แท้ทรู 5555

Day 4

วันรุ่งขึ้นก็ไปที่ Starbucks Reserved Roastery  ซึ่งเป็น starbucks ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในขณะนี้ ด้วยพื้นที่กว่า 30,000 ตารางฟุตค่ะ

มีโรงคั่วอยู่มันกันในร้านเลยจ้า 555 มี บาร์ให้จิบกาแฟที่ยาวมากๆ , teavana bar, เบเกอรี่จาก rocco princi etc. มีเมล็ดกาแฟให้เลือกหลากหลายกว่าสตาร์บัคปกติด้วยค่ะแต่ด้วยความเป็นคนไม่ดื่มกาแฟเท่าที่ควรเลยสั่งเมนูนี้มาแทน

ดูรีวิวแบบเต็มๆ จากคอมมูนิตี้จีบัน : fxxkbeauty กดเลย
สอบถามข้อสงสัย คุย LINE@ กับ Jeban.com

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0