โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

พายุฤดูร้อน พัดถล่มอุดรฯ บ้านเสียหายกว่า 300 หลัง โรงเรียนพังราบ บาดเจ็บ 2 คน

Khaosod

อัพเดต 20 เม.ย. 2562 เวลา 15.35 น. • เผยแพร่ 20 เม.ย. 2562 เวลา 15.35 น.
2230tled-1

พายุฤดูร้อน พัดถล่มอุดรฯ บ้านเสียหายกว่า 300 หลัง โรงเรียนพังราบ บาดเจ็บ 2 คน

เมื่อวันที่ 20 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นถึงค่ำวันที่ 19 เม.ย. ได้เกิดพายุฤดูร้อน พัดถล่ม 6 หมู่บ้าน ในพื้นที่ ต.โพนสูง อ.ไชยวาน ส่งผลให้บ้านเรือนราษฎรพังเสียหายเป็นจำนวนมาก พายุได้พัดพาหลังคาบ้านที่เป็นสังกะสี และเมทัลชีส ปลิวหลุดออกจากตัวบ้าน รวมถึงไฟฟ้าดับทั้งหมู่บ้าน ซึ่งทางผู้นำท้องที่เร่งออกสำรวจความเสียหาย โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้แก้ไขและจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ทั้งหมดแล้ว

นอกจากนี้ พายุได้พัดเข้าถล่มอาคารเรียนชั้น ป.1-ป.3 โรงเรียนบ้านห้วยยางชัยพร ต.โพนสูง ซึ่งเป็นอาคารเรียน 2 ชั้น ที่เพิ่งได้งบประมาณปรับปรุงได้ไม่ถึง 1 ปี ในราคา 5 แสนบาท ขณะนี้เหลือแต่เสาและโครงหลังคาเท่านั้น ส่วนอาคารเรียนชั้นเดียวก็ถูกพายุพัดหลังคาหลุดไปทั้งหมด ทำให้อุปกรณ์การเรียนการสอน โต๊ะและเก้าอี้นักเรียน เครื่องคอมพิวเตอร์ ถูกน้ำฝนตกใส่เสียหาย ต้นไม้ที่อยู่ข้างทางเข้าโรงเรียนหักโค่น รวมทั้งเสาธง และบ้านพักครู ถูกพายุพัดจนพังเสียหายหลังคาหลุดไปทั้งแถบ บรรดาเด็กนักเรียนและศิษย์เก่า จึงเข้ามาช่วยเก็บกวาดของทำความสะอาด

นายสุรชัย ภิรมย์เชย ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านห้วยยางชัยพร เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้รายงานไปยังสำนักงานเขตพื้นที่แล้ว และรอการมาสำรวจความเสียหาย ส่วนที่เสียหายหนักจะมีอาคาร 2 หลัง ห้องน้ำ 1 หลัง และบ้านพักครู 1 หลัง อาคารอื่นเสียหายเล็กน้อย เราเป็นโรงเรียนขยายโอกาส เปิดสอนอนุบาล ถึงชั้น ม.3 ซึ่งจะเปิดเรียนในวันที่ 16 พ.ค.นี้ คงไม่สามารถซ่อมแซมอาคารเรียนได้ทัน

นายสุรชัย กล่าวต่อว่า ทางโรงเรียนจึงมีแผนจะเปิดห้องพิเศษในอีก 2 อาคาร อาทิ วิทยาศาสตร์, ห้องคอมพิวเตอร์, ห้องสมุด และห้องอื่นๆ จัดการเรียนการสอนให้เด็ก ป.1-3 และอนุบาล แทนไปก่อน ส่วนอุปกรณ์ สื่อการเรียนการสอน เครื่องใช้ต่างๆ ของแต่ละชั้นเรียน กำลังเร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อดูว่าส่วนไหนจำเป็นต้องใช้ก่อน จะได้เตรียมจัดหาให้เร็วที่สุด

ด้านนายชาลี หล่อวงศ์โคตร อายุ 62 ปี อยู่บ้านห้วยยางชัยพร ม.11 ต.โพนสูง อ.ไชยวาน กล่าวว่า ในช่วงเกิดเหตุเวลาประมาณ 16.00 น. มีลมพัดมาอย่างแรง ก่อนเห็นเป็นพายุหมุน ตนกับภรรยาและหลานก็ไปหลบในห้อง ลมพัดมาทางบ้านและมีฝนตกลงมาประมาณ 30 นาที และมีฝนตกลงมา ตนจึงออกมาจากห้องน้ำ พบว่าหลังคาบ้านถูกแรงลมพัดปลิวออกไปจนหมด

ขณะที่ศาลากลางบ้าน บ้านห้วยยาง ต.โพนสูง นางวรินธร ศิลปะวายะ รองปลัดเทศบาลตำบลโพนสูง รักษาการนายกเทศบาลตำบลโพนสูง นำเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายบ้านเรือน ครอบคลุมพื้นที่ 6 หมู่บ้าน คือ บ้านห้วยยา ม.4, บ้านป่าก้าว ม.4 และ ม.8, บ้านโคกสง่า ม.7 และบ้านชัยพร ม.11 พร้อมเปิดศูนย์รับแจ้งความเสียหายจากพายุฤดูร้อนครั้งนี้ โดยมีประชาชนเข้ามาแจ้งความเสียหายของบ้านตนเองจำนวนมาก ที่ส่วนใหญ่หลังคาบ้านถูกลมพัดหลุดออกไป

ซึ่งบ้านโคกสง่า ม.7 เพิ่งถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่ม เมื่อวันที่ 14 เม.ย. จำนวน 11 หลังคาเรือน และทางราชการเพิ่งนำสังกะสี อุปกรณ์ มาแจกจ่ายให้ประชาชนที่บ้านโคกสง่า เมื่อวานนี้ และมาถูกพายุซ้ำอีกครั้งในช่วงเย็น

นอกจากนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บขณะที่เกิดพายุหมุน 2 ราย คือ คือ นายเจนี่ แสนจ้ำ อายุ 40 ปี ถูกไม้ล้มทับ ขณะจะเข้าไปช่วยลูกสาวในบ้านป่าก้าว ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี และนางใส ภูสมศรี อายุ 65 ปี ถูกตู้ล้มทับ ได้รับบาดเจ็บที่แขนซ้าย เพราะหนีพายุไม่ทัน

ขณะที่ทหารชุดปฏิบัติการพื้นที่ ร.13 พัน 1 เข้าร่วมสำรวจความเสียหาย เพื่อรายงานต่อผู้บังคับบัญชา ในการส่งกำลังเข้ามาช่วยเหลือเก็บซากสังกะสีหลังคา ทำความสะอาด เพื่อรออุปกรณ์ในการซ่อมแซมบ้านเรือนที่เสียหาย

นายธีระภัทร์ ผิวสวัสธ์ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า พายุหมุนมาเร็วและแรงมาก โดยมาเพียงแค่ 10 นาที ทำให้หลังคาโรงเรียนหลายหลังปลิวว่อนไปไกลเกือบ 1 กิโลเมตร ต้นไม้ใหญ่หักโค่น เสาไฟฟ้าแรงสูงหัก 6 ต้น และแรงต่ำอีก 20 ต้น ส่วนบ้านเรือนของชาวบ้านที่เสียหายตอนนี้มี 6 หมู่บ้าน รวมประมาณ 121 หลังคาเรือน ส่วนใหญ่หลังคาบ้านเปิด บางหลังถูกพัดเหลือแต่เสาบ้าน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บขณะที่เกิดพายุหมุน 2 คน ซึ่งตอนนี้ได้มีการรายงานให้ทางอำเภอทราบแล้ว เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อน

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่

เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน

นายธีระภัทร์ กล่าวอีกว่า นอกจากพายุฤดูร้อนพัดถล่มที่ อ.ไชยวาน แล้ว ยังสร้างความเสียหายให้แก่บ้านเรือนของประชาชนที่ อ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี เสียหายมากกว่า 200 หลังคาเรือน จึงสั่งการให้ทีมประสานงาน และให้ความช่วยเหลือ ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ พร้อมเตรียมการให้ความช่วยเหลือเร่งด่วนแล้ว

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0