การแข่งขันเทควันโด เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ สนาม 3 ที่เถาหยวน เขตปกครองพิเศษไต้หวัน เมื่อ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา จอมเตะไทยมีคิวลงสนาม รุ่น 49 ก.ก. หญิง 2 คนคือ “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ จอมเตะสาวเหรียญทองเอเชี่ยนเกมส์ และเหรียญทองแดงโอลิมปิกเกมส์ และ “มินต์” นภาพร จรณวัฒน์ จอมเตะรุ่นน้อง เจ้าของเหรียญทองแดงชิงแชมป์โลกปีก่อน

โดย “เทนนิส” ได้บายในรอบแรกไปเจอ “มินต์” นภาพร จรณวัฒน์ จอมเตะรุ่นน้อง ที่เอาชนะ หวัง ติง หลิน จากไต้หวัน 22-9 โดยในรอบ 16 คน เทนนิส เก๋ากว่าเยอะเอาชนะไปขาดลอย 19-3 ทะลุเข้าถึงรอบ 8 คนสุดท้ายต้อน มิยุ ยามาดะ 19-2 กรุยทางเข้าไปสู่ตัดเชือก พบ คริสติน่า โทมิช มือ 5 ของโลกจากโครเอเชีย และเทนนิสพลิกสถานการณ์เอาชนะสาวโครเอเชีย 10-7 ผ่านเข้ารอบชิงฯไปเจอคู่ปรับเก่า คิม โซ ฮุย จากเกาหลีใต้ ซึ่งเทนนิสเคยแพ้ในโอลิมปิกเกมส์ 2016
โดยจบยก 2 เทนนิส ตามห่างถึง 0-6 เข้าสู่ยก 3 เทนนิสเดินหน้าบุกแหลกไล่มาเป็น 1-7 และใช้เวลาช่วง 48 วินาทีสุดท้ายเตะ 6 แต้มรวดไล่ตีเสมอเป็น 7-7 ต้องลุ้นต่อยก 4 และเทนนิสเป็นฝ่ายเดินหน้าเข้าใส่และมีคะแนนดิบเหนือกว่า และเป็นฝ่ายคว้าแชมป์เวิลด์กรังด์ปรีซ์ในที่สุด

หลังการแข่งขันโค้ชเช กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่สามารถทำได้ และเก็บคะแนนสะสมเพื่อโอลิมปิกเกมส์ได้ ช่วงนาทีสุดท้ายของยก 3 พยายามบอกให้ เทนนิส สู้ต่อเพราะยังมีเวลา ยังไม่จบ อย่าเพิ่งท้อแท้ และเทนนิส  สามารถทำได้

ด้าน “เทนนิส” พาณิภัค เผยว่า ดีใจที่สามารถคว้าแชมป์ได้และเก็บคะแนนสะสมสำหรับโอลิมปิกเกมส์ 2020 ได้มากถึง 40 คะแนน “หนูมีอาการบาดเจ็บตลอด ยกขาได้ลำบาก แต่ช่วงรอบรองฯ ไม่ได้คิดอะไรแล้ว ใส่เต็มที่ เจ็บค่อยกลับไปรักษา ส่วนรอบชิงฯตอนจบยก 2 แต้มตามถึง 6 คะแนน แต่โค้ชบอกให้ใจเย็นๆ ยังมีเวลา และก็สามารถเล่นได้ตามเกมที่วางไว้ จากนี้ไปจะต้องปรับปรุงอีกมากก่อนจะเดินทางไปแข่งขันรายการต่อไปที่ประเทศอังกฤษ”

สำหรับแชมป์เวิลด์กรังด์ปรีซ์ สนามที่ 3 ถือเป็นแชมป์ระดับนานาชาติลำดับที่ 19 ในการเล่นระดับประชาชน พร้อมได้รับเงินรางวัลไป 5,000 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 1.6 แสนบาท

– กองทัพอากาศ ติดยศ “เทนนิส” พาณิภัค จอมเตะสาวทีมชาติ ขึ้นเป็น เรืออากาศตรีหญิง

– พาณิภัค เผยสุดสะใจ 88 วันที่รอคอยล้างแค้น คัง โบรา คว้าเหรียญทอง เอเชี่ยนเกมส์