วันนี้ Rabbit Today อาสาพาไปชิมร้านอร่อยห้ามพลาด!! ในโซนเดอะ วีรันดา (The Veranda) ซึ่งอยู่บริเวณชั้น G ของไอคอนสยาม (ICONSIAM) และถือเป็นโซนที่รวบรวมเชฟที่กำลังมาแรงจากทั่วเอเชียให้มาอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ด้วยจำนวนร้านอาหารที่มากถึง 10 ร้าน และร้านของหวานจากทั่วโลก 12 ร้าน ที่หมุนเวียนสับเปลี่ยนกันมามอบรสชาติอันแสนล้ำเลิศให้กับนักชิมในคอนเซ็ปต์ Midsummer Night Dream ท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่นกับสวนสวยๆ แนวตั้ง น้ำตกจำลอง พร้อมแสงธรรมชาติที่ส่องเข้ามาตลอดทั้งวันตั้งแต่เช้าจรดค่ำ
เอาละ วันนี้เราขอแนะนำ 3 ร้านอร่อยที่ต้องลองให้ได้เมื่อมาที่ ‘ไอคอนสยาม’ เพื่อเป็นการเรียกน้ำย่อยให้นักชิมทั้งหลายแบบเบาๆ ไปก่อน (ร้านอื่นไว้มาตามเก็บทีหลัง) ไปดูซิว่ามีร้านอะไรบ้าง
1. Ramen Bankara
เริ่มด้วยร้านราเมนชื่อดังอย่าง ‘ราเมน บังคาระ’ (Ramen Bankara) ซึ่งมีชื่อเสียงเป็นอย่างดีสำหรับคนที่ชื่นชอบเมนูเส้นสไตล์ญี่ปุ่น ภายในร้านมีที่นั่ง 2 ชั้น ทั้งบริเวณชั้น G และส่วนที่เป็นชั้นลอย สไตล์การตกแต่งร้านจะเน้นกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่น โดยใช้วัสดุประเภทไม้สีน้ำตาลเอิร์ธโทนเป็นหลัก ออกแบบจัดวางโต๊ะ-เก้าอี้ได้เหมาะสมลุกนั่งสะดวกสบาย ด้วยฝีมือการออกแบบของดีไซเนอร์ชาวญี่ปุ่น ทำให้บรรยากาศร้านดูโปร่งสบายน่านั่งเป็นที่สุด
เมนูแนะนำ : แน่นอนว่าร้านนี้ขึ้นชื่อเรื่องราเมน ก็ต้องไม่พลาดชิมเมนูสุดอร่อยซึ่งเป็นที่นิยมของร้านแน่นอน เริ่มจาก ชาชูเมน ‘Chashumen’ (ราคา 265 บาท) เมนูนี้โดดเด่นด้วยน้ำซุปกระดูกหมูสูตรต้นตำรับของบังคาระจากญี่ปุ่น ปรุงรสด้วยโชยุ เคี่ยวจนได้รสชาติหวานเค็มกลมกล่อม ทานคู่กับราเมนเส้นกลมยาวจะยิ่งอร่อยมากขึ้น ต่อด้วย ซังโคอิจิ ‘Sankoichi’ (ราคา 295 บาท) ทีเด็ดอยู่ที่น้ำซุปกระดูกหมูแบบ Tonkotsu Soup ที่เคี่ยวจนละลายกลายเป็นซุปสีขาวข้นสูตรของญี่ปุ่น รสชาติหวานเค็มมัน อุดมด้วยคอลลาเจน วิตามินอี และโปรตีน ดีต่อผิวพรรณ ทานคู่กับเส้นกลมเล็กๆ และต้นหอมซอย อร่อยเริ่ด!! นอกจากนี้ยังมีเมนูอื่นให้เลือกอีกเพียบ
นอกจากราเมนแล้วที่นี่ยังมีเมนูไซด์ดิชซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของบังคาระให้ชิมด้วย นั่นคือ คาคุนิ ซาระโมริ ‘Kakuni Saramori’ (ราคา 240 บาท) หมูสามชั้นตุ๋นสูตรพิเศษราดด้วยซอสเข้มข้น เสิร์ฟร้อนๆ พร้อมต้นหอมญี่ปุ่น เป็นความอร่อยที่ยากจะลืมและหาทานที่ไหนไม่ได้ เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่ใช้เวลาตุ๋นจนเปื่อยนานถึง 3 วัน จนเนื้อหมูหวานนุ่มละลายในปาก ไซด์ดิชอีกเมนูคือ ชิคเก้น นัมบัง ‘Chicken Namban’ (ราคา 125 บาท-ราคานี้ถึงวันที่ 30 ก.ย.62) ไก่ทอดแสนอร่อยที่สามารถเลือกซอสราดได้ 2 สูตรคือ ‘ซอส ชิคเก้น นัมบัง’ รสชาติอร่อยเหมาะกับคนไม่กินเผ็ด และ ‘ซอส ชิคเก้น นัมบัง สไปซี่’ ได้รสชาติเผ็ดแซ่บอร่อยเข้มข้นไปอีกแบบ
ราคาต่อหัว : 300-500 บาท
พิกัด : โซนเดอะ วีรันดา บริเวณชั้น G ไอคอนสยาม เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 10.00-22.00 น. โทร.0-2288-0054,
FB : Bankara Ramen
2. Brown Café & Eatery
เมนูชานมไข่มุกยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และร้านชานมไข่มุกชื่อดังอย่าง ‘บราวน์’ (Brown Café & Eatery) ก็เป็นอีกหนึ่งร้านที่เราอยากแนะนำให้คุณลอง บราวน์สาขาไอคอนสยาม ตกแต่งสไตล์โมเดิร์นเจแปนนิส ให้ความรู้สึกเรียบง่าย ตัวร้านเน้นโทนสีน้ำตาลอ่อนๆ เหมาะกับชื่อร้านเลยละ
เมนูแนะนำ : เมนูซิกเนเจอร์ขึ้นชื่อของร้านคือ ‘ชานมไข่มุก’ ที่คัดสรรชาอย่างดีมาปรุงเป็นเมนูสูตรเฉพาะของทางร้าน โดยวัตถุดิบซึ่งเป็น ‘ชา’ นั้นส่วนใหญ่นำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่นและไต้หวัน สำหรับวัตถุดิบอีกส่วนหนึ่ง เช่น ‘ไข่มุก’ ทางร้านจะผลิตเองทั้งหมดเลย
เครื่องดื่มแนะนำเริ่มจาก เมนูชานมไข่มุกซึ่งมีสองชนิดคือ ‘มิลค์ที เครมบรูเล่’ และ ‘เฟรชมิลค์ เครมบรูเล่’ (ราคา 90-95 บาท) เมนูนี้ได้ไอเดียมาจากเครมบรูเล่ซึ่งเป็นของหวานจากฝรั่งเศสที่ถูกนำมาสร้างสรรค์ให้เป็นชาสูตรพิเศษ ที่มีกลิ่นหอมๆ จากการเผาไหม้น้ำตาลในแบบฉบับของเครมบรูเล่ รสชาติของชาจะมีความหวานเบาๆ ตามด้วยความหนึบอร่อยจากไข่มุก ต่อด้วยเมนู ‘ลาล่าโรส มิลค์ ที’ (ราคา 80/85/90 บาท) เมนูชากุหลาบแก้วสีชมพูเมนูใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน คัดสรรชากุหลาบอย่างดี กินคู่กับไข่มุกออริจินัลบับเบิ้ล+บราวน์เจลลี่ อร่อยมาก ลูกค้าสามารถเลือกระดับความหวานได้สามระดับคือ 50, 70 หรือ 100% แล้วแต่ความชอบ อีกแก้วคือ ‘โลว์ แคลอรี บับเบิ้ล’ เครื่องดื่มซีรี่ส์นี้จะมี 5 เมนู สำหรับเมนูสีเขียวอ่อนที่แนะนำนี้ จะเป็น เมล่อนลาเต้ (ราคา 85 บาท) แก้วนี้ใช้ผงเมล่อนเข้มข้นผสมกับนมสด กินคู่กับโลว์แคลอรีเมล่อนบับเบิ้ล รสพีช เมล่อน สตรอเบอร์รี่ มันม่วง และมะม่วง โอ๊ย! อร่อยฟินเชียวละ นอกจากนี้ยังมีเมนูชานมออริจินัล ชานมน้ำผึ้ง ชานมคาราเมล ชานมเฮเซลนัต ชานมลาเต้ ชาเขียว โกโก้ ชามันม่วง และอื่นๆ ให้เลือกได้ตามความพอใจ
ราคาต่อหัว : 80-100 บาท++
พิกัด : โซนเดอะ วีรันดา บริเวณชั้น G ไอคอนสยาม เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 10.00-22.00 น. โทร.09-9241-5885, 09-8996-5220
FB : Brown Café ブラウン
IG : @browndessert
3. D’ARK
ร้านอาหารชื่อดังสาขาล่าสุดที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งเป็นสาขาที่ 4 ที่ไอคอนสยามแห่งนี้ ตกแต่งร้านได้สวยงามสไตล์ร้านกาแฟบวกร้านอาหาร เพราะได้แรงบันดาลใจมาจากร้านแรก (ในซอยสุขุมวิท 49) ที่เน้นการตกแต่งร้านโดยใช้เอเลเมนต์ เช่น เมล็ดกาแฟ ใบกาแฟ มาออกแบบเป็นเสา ผนัง และลวดลายเหล็กดัด เป็นต้น ดาร์ค (D’ARK) สาขานี้มีพื้นที่กว้างขวางถึง 2 ชั้น ชั้นล่างอยู่บริเวณชั้น G มีโต๊ะเก้าอี้ให้เลือกนั่งมากมาย ส่วนอีกชั้นจะเป็นชั้นลอยที่ค่อนข้างจะเป็นส่วนตัวหน่อย แถมยังมีมุมที่ตกแต่งสไตล์ไลบรารี่เก๋ๆ ให้เลือกนั่งชิลอีกด้วย
เมนูแนะนำ : คอนเซ็ปต์ของร้านจะเน้นเมนูแบบ All Day Dinning & Comfort Food พูดง่ายๆ ว่าทานได้ทุกเวลาตลอดทั้งวัน เริ่มที่จานแรก ‘Crispy Greens Salad’ (ราคา 390 บาท) สลัดที่ประกอบด้วยผักหลากชนิด ราดด้วยน้ำสลัดใส ท็อปปิ้งด้วยชีสสูตรพิเศษ ความอร่อยอยู่ที่ความสดหวานของผัก ตามด้วย ‘Truffle Mayo Chicken Sourdough’ (ราคา 490 บาท) เมนูนี้ใช้อะโวคาโดสุกบด สะโพกไก่อบ และชีสพาร์เมซาน ท็อปปิ้งลงบนขนมปัง Sourdough อบสุกใหม่ ได้ความหอมอร่อยสุขภาพดี อีกเมนู ‘Spaghetti Aglio Olio With Mussels’ (ราคา 390 บาท) สปาเกตตี้ผัดกับหอยแมลงภู่ออสเตรเลีย กระเทียม พริก โรยหน้าด้วยเกล็ดขนมปังและใบพาสลีย์ ได้รสชาติเผ็ดอร่อย ไม่เลี่ยน เป็นอีกเมนูที่ต้องลอง
ด้วยความที่ร้านนี้มีชื่อเสียงมาจากเมนูกาแฟที่นำเข้าเมล็ดกาแฟชั้นดีจาก 4 ประเทศคือ โคลอมเบีย, นิคารากัว, เคนย่า และเอธิโอเปีย ฉะนั้นเมนูเครื่องดื่มกาแฟจึงต้องดีจริง แนะนำ ‘Iced Latte’ (ราคา 125 บาท) ใช้เมล็ดกาแฟที่คั่วแบบดาร์ค ผสมนมจนได้รสชาตินุ่มละมุนแบบลาเต้ อีกเมนู ‘Piccolo Latte’ (ราคา 115 บาท) แก้วนี้กาแฟจะรสชาติเข้มกว่าแก้วแรก เพราะใช้ปริมาณนมที่น้อยกว่า แต่รสชาติก็ยังละมุนอยู่ดี
ราคาต่อหัว : 500-800 บาท++
พิกัด : โซนเดอะ วีรันดา บริเวณชั้น G ไอคอนสยาม เปิดทุกวัน อาทิตย์-พฤหัสฯ ตั้งแต่ 10.00-22.00 น. ศุกร์-เสาร์ 10.00-23.00 น. โทร.0-2010-1879
FB : D'ARK
IG : @darkbangkok
เป็นไงบ้าง กับ 3 ร้านเก๋ๆ เมนูล้ำๆ ที่ Rabbit Today หยิบมานำเสนอ แหม…แต่ละเมนูและบรรยากาศช่างยั่วยวนชวนรับประทานซะจริงเชียว ถ้ามีโอกาสผ่านไปผ่านมาแถวไอคอนสยาม ก็อย่าลืมปักหมุดเช็กอินทั้งสามร้านนี้ให้ได้นะ บอกเลยว่า ถ้าไม่ลองแล้วจะเสียดาย
