คราวที่แล้วเราได้นำเสนอ หุ้น TOP5 สำหรับการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน หรือ DCA (dollar-cost averaging) ที่โบรกเกอร์เลือกตรงกันมากที่สุดไปแล้ว วันนี้ Wealthy Thai จะมานำเสนอหุ้น DCA ที่บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด แนะนำไว้ เผื่อใครที่กำลังวางแผนการลงทุนอยู่ในช่วงนี้ หรือมีแผนเก็บเงินในปี 2563 จะนำวิธีนี้ไปใช้ก็ได้ รับรองว่าผลตอบแทนคุ้มค่าแน่นอน
สำหรับหุ้น TOP5 DCA ที่บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) แนะนำ ประกอบด้วย ADVANC, CPF, PTT, TISCO และ TTW และเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วน Wealthy Thai ได้ทำ Back Test ในรายชื่อหุ้นดังกล่าว โดยตั้งงบลงทุนเดือนละ 5,000 บาท ต่อเนื่องเป็นเวลา 5 ปี เพื่อเช็คว่าผลตอบแทนเป็นอย่างไรบ้าง มาดูกันเลย
เหตุผลที่บล.หยวนต้าเลือกเป็นหุ้นที่ควร DCA
·บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC
ให้ราคาเป้าหมาย 2563 ไว้ที่ราคา 260 บาท
ADVANC นักวิเคราะห์คาดการแข่งขันในตลาดมือถือลดลงในช่วงครึ่งปีหลัง 2562 ต่อเนื่องครึ่งปีแรก 2563 หนุนกำไร ADVANC เติบโตรอบใหม่ ประเมินกำไรปีนี้ 3.26 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) ทั้งนี้คาดว่าบริษัทยังรักษาการจ่ายปันผลระดับสูงได้ แม้ยังต้องลงทุนในคลื่น 5G จึงคาดผลตอบแทนเงินปันผลเฉลี่ย 3.8% ในปี 2562-2563
·บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF
ให้ราคาเป้าหมาย 2563 ไว้ที่ 37.50 บาท
ต่อมาคือ CPF มองว่าบริษัทให้ความสำคัญกับการเติบโตที่ยั่งยืน เพิ่มสัดส่วนรายได้จากอุตสาหกรรมต้นน้ำถึงปลายน้ำ รวมถึงการกระจายความเสี่ยงโดยการลงทุนทั่วโลก ทั้งนี้เนื้อสัตว์ได้รับผลบวกจาก ASF ที่ระบาดทั่วเอเชีย เนื่องจากส่งผลให้ราคาหมูในไทยและเวียดนามปรับตัวดีขึ้น ขณะที่การขาดแคลนหมูในจีนเป็นบวกต่อการส่งออกไก่ ซึ่ง CPF ได้ประโยชน์มากกว่าทุกผู้ประกอบการ
·บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT
ให้ราคาเป้าหมาย 2563 ไว้ที่ 48 บาท
PTT เป็นผู้นำธุรกิจพลังงานของประเทศ มี Portfolio ครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ทำให้ผลประกอบการผันผวนน้อยกว่าคู่แข่ง และมีการเติบโตในระยะยาวอย่างต่อเนื่อง จากการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ เช่น ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ และแผน Spin off ธุรกิจค้าปลีก โดยการนำหุ้นบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ PTTOR เข้าตลาด ช่วงปลดล็อคมูลค่าและสร้างความคล่องตัวให้กับการเติบโตทั้งในและต่างประเทศ
·บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO
ให้ราคาเป้าหมาย 2563 ไว้ที่ 107 บาท
TISCO ระยะยาวมีแรงหนุนจากแผนรุกสินเชื่อจำนำทะเบียนภายใต้ “สมหวัง เงินสั่งได้” ซึ่งมียีลด์สูงกว่าค่าเฉลี่ยของพอร์ตเดิม และยังมีความต้องการใช้สินเชื่ออยู่มาก นอกจากนี้ทิสโก้ยังมีระดับการตั้งสำรองที่ค่อนข้างสูง รองรับมาตรฐานบัญชีใหม่ และสามารถรักษาระดับการจ่ายปันผลในระดับสูงได้ต่อเนื่อง
·บริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน) หรือ TTW
ให้ราคาเป้าหมาย 2563 ไว้ที่ 15 บาท
และสุดท้าย TTW บริษัทลูกของบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM มีมีปัจจัยพื้นฐานจากธุรกิจประปาที่สร้างรายได้มั่นคง พร้อมกำลังการผลิตที่มากเพียงพอรองรับช่วง 3-5 ปีหลังจากนี้ และอัตราปันผลที่ 0.74 บาทต่อหุ้นในปี 2563 หรือคิดเป็นอัตราปันผลตอบแทน (Dividend Yield) ที่ประมาณ 5% ต่อปี
