โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

พอน้ำลด มองตาปริบๆ อุบลเศร้าบ้านเสียหายยับ กลับไปอยู่ไม่ได้!

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

อัพเดต 22 ก.ย 2562 เวลา 17.28 น. • เผยแพร่ 22 ก.ย 2562 เวลา 22.05 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

นํ้าป่าถล่มปราจีน ตัด 200 ครอบครัว กบินทร์บุรีจ่อจม

“เมืองดอกบัว” ยังไม่พ้นวิกฤติแม้ระดับน้ำ ลดลงแต่สภาพมวลน้ำยังท่วมสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านหลายคนเครียดจัด หลังน้ำลดพบสภาพบ้านเสียหายหนัก จนสุดทำใจ ขณะที่ รมว.เกษตรฯ ลงพื้นที่สั่งเร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อเร่งรัดการจ่ายเงิน ตามระเบียบ ก.คลัง ภายใน 90 วัน นับแต่วันเกิดภัย ขณะที่ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” นำทีมดารานักแสดง ตลก มอบเงินบริจาคของคนไทยทั้งประเทศที่จุดอพยพ 5 ชุมชน 318 ครัวเรือน ท่ามกลางบรรยากาศสุดอบอุ่นของจิตอาสา ภาคประชาชน ทหาร คอยอำนวยความสะดวก

“เอกพัน” ยอมรับมีการหักหัวคิวเงินแจกชาวบ้านจริง ต่อไปจะเข้มงวดมากขึ้น ขณะที่เกษตรกรเลี้ยงปลากระชัง จ.ศรีสะเกษ ครวญน้ำท่วมปลาตายเกลี้ยง 25 กระชัง ทำเอาขาดทุนยับ ส่วน จ.ปราจีนบุรี ฝนถล่มน้ำป่าจากเทือกเขาใหญ่ทะลักท่วมถนนสุวรรณศร รถเล็กสัญจรลำบาก ส่วนชาว อ.นาดี ราว 200 ครัวเรือน ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก มวล น้ำท่วมถนนทางเข้าหมู่บ้านจมมิด ด้านรองอธิบดีกรมชลประทาน เตือนตลาดเก่ากบินทร์บุรีจ่อจมบาดาล ต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด

พายุฝนยังถล่มหนักหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ส่งผลน้ำป่าทะลักท่วมฉับพลัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมกำลังช่วยเหลือเต็มที่ ขณะที่ภาคอีสานบางจังหวัดน้ำลดกลับเข้าสู่ภาวะปกติ หน่วยงานภาครัฐ เร่งฟื้นฟูเยียวยาผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน ส่วน จ.อุบลราชธานี แม้ระดับน้ำลดลงแล้ว แต่สภาพน้ำที่ท่วมขังยังสูงกว่า 1 เมตร ทำเอาชาวบ้านพากันทุกข์ระทมทั่วหน้า

เมืองอุบลฯน้ำลดแต่ยังท่วมสูง

สถานการณ์น้ำท่วม จ.อุบลราชธานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 22 ก.ย. ระดับน้ำแม่น้ำมูล ที่สถานีวัดน้ำ M7 สะพานเสรีประชาธิปไตย เขตเทศบาลนครอุบลฯ วัดได้ 114.84 ม.รทก. ระดับน้ำลดลงจากเช้าวานนี้ 13 ซม. อัตรา การไหล 3,905.59 ลบ.ม./วินาที กรมชลประทานติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำทั้งหมด 310 เครื่อง ประกอบด้วย สะพานข้ามแม่น้ำมูล อ.พิบูลมังสาหาร 100 เครื่อง สะพานข้ามแม่น้ำมูล อ.โขงเจียม 200 เครื่อง และเขื่อนธาตุน้อย อ.เขื่องใน อีก 10 เครื่อง เพื่อเร่งผลักดันน้ำในลำน้ำมูล ลงสู่น้ำโขงให้รวดเร็วยิ่งขึ้น

ส่วนในตัวเมืองอุบลฯแม้ระดับน้ำจะลดลงกว่า 1 เมตรแล้ว แต่สภาพน้ำที่ท่วมขังบ้านเรือนประชาชนยังสูงอยู่กว่า 1 เมตร บางหลังคาเรือนยังปริ่มชั้น 2 ของตัวบ้าน ประชาชนต้องใช้เรือพายเข้าไปตรวจดูแลทรัพย์สินภายในบ้านทุกวัน เช่นเดียวกับชาวบ้านชุมชนห้วยวังนอง ซึ่งได้รับผลกระทบจากแม่น้ำมูลหนุนเข้าอ่างเก็บน้ำห้วยวังนอง จนเอ่อเข้าท่วมชุมชนรุนแรง ชาวบ้านพากันทุกข์หนัก กำลังพลทหาร 30 นาย พร้อมเรือพลังลม 4 ลำ ให้การช่วยเหลืออย่างทุลักทุเล พร้อมออกลาดตระเวนดูแลทรัพย์สินภายในบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วมด้วย

ชาวบ้านเครียดบ้านเสียหาย

ขณะที่ชาวบ้านผู้ประสบภัยหลายคนเริ่มเครียดจัด เมื่อน้ำลดมองเห็นสภาพบ้านได้รับความเสียหายอย่างหนักจนสุดที่จะทำใจรับได้ โดยเฉพาะ น.ส.รัตติการ แสงงาม อายุ 32 ปี ชาวบ้านชุมชนบูรพา 2 เทศบาลนครอุบลฯ เผยว่า แม้ตนอาศัยอยู่ชุมชนริมน้ำมูลมาตั้งแต่เกิด แต่น้ำท่วมครั้งนี้รุนแรงกว่าทุกครั้ง เพราะน้ำขึ้นเร็วมาตั้งแต่เช้ามืดวันที่ 5 ก.ย.ชาวบ้านเก็บทรัพย์สินไม่ทัน ต้องอพยพขึ้นมาอยู่ในจุดที่เทศบาลจัดให้ภายในเต็นท์อพยพ เวลาแดดออกก็ร้อนมาก ฝนตกน้ำก็ไหลเข้าเต็นท์ ยิ่งช่วงกลางคืนไม่ได้นอน ผู้สูงอายุบางคนถึงกับความดันขึ้น ตอนนี้แม้น้ำลดลงบ้างแล้ว แต่บ้านตนยังท่วมสูงจากที่เคยท่วมถึงชั้น 2 ก็ลดลงมาชั้นล่าง ต้องเข้าไปดูแลทำความสะอาดบ้านตลอด เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้รอเข้าไปทำครั้งเดียว คราบดินโคลน และคราบน้ำจะแห้ง ทำความสะอาดยาก ตอนนี้อยากได้อุปกรณ์ทำความสะอาด และอุปกรณ์เตรียมซ่อมแซมบ้านจากผู้ใจบุญ ส่วนถุงยังชีพนั้นได้มากพอสมควรแล้ว

รมว.เกษตรฯลงพื้นที่ช่วยเหลือ

สายวันเดียวกันนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ พร้อมนายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน และคณะลงพื้นที่สถานีวัดระดับน้ำ M7 สะพานเสรีประชาธิปไตย เขตเทศบาลนครอุบลฯ ติดตามสถานการณ์และการบริหารจัดการน้ำ โดยมีนายสมชาย คณาประเสริฐกุล ผอ.สำนักชลประทานที่ 7 บรรยายสรุปภาพรวมในพื้นที่ให้รับทราบ จากนั้นนายเฉลิมชัยเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์น้ำปัจจุบัน จ.อุบลราชธานี มีปริมาณน้ำฝนสะสม 1,547.60 มิลลิเมตร น้อยกว่าปีที่แล้ว 0.26% โดยอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ เช่น เขื่อนสิรินธร ปัจจุบันมีปริมาณน้ำ 1,842.34 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนปากมูล มีปริมาณน้ำ 40.03 ล้าน ลบ.ม. สำหรับอ่างเก็บน้ำขนาดกลางมี 13 อ่าง ความจุที่ระดับเก็บกักรวม 130.02 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันมีปริมาณน้ำ 132.80 ล้าน ลบ.ม. มากกว่าปีที่แล้วคิดเป็น 38.35% เกษตรกรได้รับผลกระทบทั้งด้านพืช ปศุสัตว์ และประมง ตนสั่งเร่งให้สำรวจความเสียหาย เพื่อเร่งรัดการจ่ายเงินทดรองราชการ ตามระเบียบ ก.คลัง ภายใน 90 วันนับแต่วันที่เกิดภัย

“สนธิรัตน์” นั่งเรือพบชาวบ้าน

ด้านนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วม ที่จุดพักพิงชั่วคราว อ.วารินชำราบ พร้อมมอบถุงยังชีพกับไฟฉายโซลาร์เซลล์ให้แก่ประชาชน 7 ชุมชน รวม 1,500 ชุด จากนั้นนั่งเรือท้องแบน นำถุงยังชีพถวายแด่พระสงฆ์และประชาชนชุมชนดอนงิ้ว พื้นที่เขตเทศบาลเมืองวารินชำราบ ที่ถูกน้ำท่วมนานร่วม 2 สัปดาห์แล้ว ประชาชนบางส่วนยังเป็นห่วงทรัพย์สินในบ้าน ไม่ยอมออกไปอยู่จุดอพยพ อาศัยอยู่บนชั้น 2 ของบ้าน โดยนายสนธิรัตน์ ได้สอบถามความต้องการเพิ่มเติม เพื่อจัดเจ้าหน้าที่มาให้การช่วยเหลือ

ทหารเร่งสร้างสะพานแบรี่

ส่วน พล.ต.ชาญชัย เอมอ่อน รองแม่ทัพภาคที่ 2 ในฐานะรอง ผอ.ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยภาค ที่ 2 พร้อม พ.อ.นรธิป โพยนอก รองเสนาธิการกองทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินการจัดสร้างสะพานแบรี่ข้ามลำห้วยเรือ ต.ห้วยเรือ อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี หลังถูกมวลน้ำที่ไหลมาจากตอนบนในลำน้ำห้วยเรือ ซึ่งเป็นลำน้ำสาขาแม่น้ำชี เอ่อล้นตลิ่งซัดคอสะพานขาดตั้งแต่วันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา ทำให้ชาวบ้านต้องขับรถอ้อมไปอีก หมู่บ้าน เป็นเส้นทางเปลี่ยวและระยะทางไกลกว่าปกติกว่า 20 กม. สร้างความยากลำบากให้กับชาวบ้าน เพราะเส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางหลัก ที่เชื่อมระหว่าง ต.ห้วยเรือ ต.นาคำใหญ่ ต.เขื่องใน ไปยังตัว อ.เขื่องใน รวมทั้งสามารถเชื่อมกับ อ.กันทรารมย์ กับ อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษด้วย

“บิณฑ์” นำทีมดาราตลกแจกเงิน

เวลา 11.00 น. วันเดียวกัน นายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ กับนายเอกพัน บรรลือฤทธิ์ สองพี่น้องฝาแฝด นักแสดงชื่อดัง พร้อมด้วยดารานักแสดงตลก “กล้วย-เชิญยิ้ม” “ยาว ลูกหยี” เดินทางมามอบเงินบริจาคของคนไทยทั้งประเทศ ที่จุดอพยพชุมชนวัดกุดคูณ อ.เมือง อุบลราชธานี จำนวน 5 ชุมชน 318 ครัวเรือน ท่ามกลางบรรยากาศอันอบอุ่นของจิตอาสา ภาคประชาชน ทหาร ที่มาคอยอำนวยความสะดวก และปรุงอาหารส่งศูนย์อพยพในพื้นที่ใกล้เคียง ทั้งนี้ นายบิณฑ์ได้มีพูดคุยกับชาวบ้านถึงความอึดอัดที่ถูกกล่าวหาว่าเปิดบัญชีมาทำการฟอกเงิน เป็นไปไม่ได้ที่เพียงข้ามคืนที่จะมีเงินเข้ามามากมายหลายล้านบาท และอีกหลายข้อกล่าวหาที่ไม่เป็นความจริง ทั้งหมดสามารถที่จะตรวจสอบกับทางธนาคารได้ มีสลิปการโอนเป็นแสนๆใบ ขณะนี้ความดีใจของตน ก็ตามมาด้วยความทุกข์ แต่ความทุกข์ของตนก็หายไปด้วยความสำเร็จที่สามารถช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้ เป็นเงินของพี่น้องประชาชนทั้งหมด และตนจะไม่ยอมให้เงินใครแม้แต่บาทเดียว

ยอมรับผู้นำชุมชนหักหัวคิว

กรณีเพจดังในอุบลฯมีการแชร์ข้อความถึงความไม่โปร่งใสของผู้นำชุมชนในบางพื้นที่ มีการหักหัวคิวจากชาวบ้านรายละ 300-500 บาท เพื่อ แลกกับการได้รับเงินบริจาค 5,000 บาท เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายเอกพันกล่าวยอมรับว่ามีการกระทำดังกล่าวจริง เป็นการสมยอมกันระหว่างผู้ประสบภัย กับผู้นำชุมชนเอง ที่เกรงว่าจะไม่ได้รับเงิน ถือว่าเป็นพฤติกรรมที่แย่มากที่ไปหักหัวคิว ถามว่าเงิน 5,000 บาทมากไหม ก็ไม่ถือว่ามาก แต่ยังไปหักเงินชาวบ้านอีก ตอนนี้ทราบตัวผู้ที่ดำเนินการแล้ว แต่ให้ทางราชการเป็นผู้ดำเนินการ ทีมงานไม่มีสิทธิ ที่จะไปจัดการอะไร ต่อจากนี้ไปจะมีมาตรการที่เข้มขึ้น โดยการประสานไปยังนายอำเภอ นายก อบต. ตรวจสอบเข้มงวดในเรื่องนี้ อย่าให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อของคนที่เห็นแก่ได้ ฝากถึงผู้ที่คิดจะทำว่า มนุษย์คนเรามีรัก โลภ โกรธ หลง ถ้าตัดสิ่งเหล่านี้ ออกไปได้ ชีวิตจะเจริญรุ่งเรืองมากขึ้น และขอให้ผู้นำชุมชนมีจิตสำนึกที่ดี นึกถึงชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน เห็นใจอย่าไปเบียดเบียนเขาเลย

ชาวบ้านโวยไม่ได้รับเงินช่วย

นางประภัสสร ผลรักษ์ อายุ 44 ปี ชาวบ้านชุมชนกุดแสนตอ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า นายกวาง เหงี่ยน อายุ 61 ปี บิดาของตน มีบ้านพักอยู่ในชุมชนแสนตอเช่นเดียวกับคนอื่น แต่ได้ย้ายออกไปมีภรรยาใหม่ที่ อ.วารินชำราบ ถูกน้ำท่วมเช่นกัน แต่ไม่ได้ขอใช้สิทธิในเขต อ.วารินชำราบ กลับมาใช้สิทธิขอรับเงิน 5,000 บาท ตามทะเบียนบ้าน แต่ผู้นำชุมชนไม่ยอมรับรองให้ อ้างว่าไม่ได้อยู่ในชุมชนแล้ว จึงอยากจะมาสอบถามนายบิณฑ์และทีมงานให้ชัดเจน ว่าพ่อของตนมีสิทธิที่จะได้รับเงินหรือไม่

ยันไม่เข้าข่ายหลักเกณฑ์แจก

ด้าน น.ส.เดือนเต็ม ดวงศรี ผู้นำชุมชนกุดแสนตอ กล่าวว่า หลังได้รับการติดต่อจากทีมงานของนายบิณฑ์ แล้วมีการเข้าไปประชุมเพื่อรับทราบกฎกติกาของการรับเงินช่วยเหลือ จากเงินบริจาคครอบครัวละ 5,000 บาท แล้วพบว่าบ้านของนายกวาง เหงี่ยน อดีตเคยพักอาศัยในชุมชนจริง แต่ได้ย้ายออกไปจากชุมชนหลายปีแล้ว บ้านหลังดังกล่าวจึงกลายเป็นบ้านร้าง ไม่มีคนพักอาศัย แต่ถูกน้ำท่วมด้วย กรรมการชุมชนมีการพิจารณาร่วมกัน มีมติเป็นเอกฉันท์ที่จะไม่ให้ครอบครัวของนายกวาง ถ้าได้ก็ไม่เป็นธรรมกับคนอื่น และผู้นำชุมชนจะต้องรับผิดชอบด้วย อย่างไรก็ตาม กรณีนี้จะตรวจสอบร่วมกับผู้นำชุมชนอีกครั้งว่าจะได้รับสิทธิหรือไม่อย่างไร เนื่องจากมีหลักการที่ชัดเจนอยู่แล้ว

ส่งวงดนตรีปลอบ “ชาววารินฯ”

ส่วนนายไตรเทพ งามกมล ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย ร่วมกับนายยุทธนา พิทยานันทกุล นอภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ปล่อยขบวนรถช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย จ.อุบลราชธานี กว่า 50 คัน พร้อมรถแห่เวทีคอนเสิร์ต “วงลูกหล่าวาทศิลป์” เพื่อไปเล่นดนตรีปลอบใจผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ศูนย์อพยพ บ้านหนองกินเพล อ.วารินชำราบ

จัดบ่อบาดาลรองรับหลังน้ำลด

ขณะที่นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ และคณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจชาวบ้านประสบอุทกภัย ที่หอประชุม ร.ร.เสลภูมิวิทยาคม อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด พร้อมมอบถุงยังชีพ อาหารสัตว์ มีประชาชนผู้ประสบอุทกภัยมาร่วมรับถุงยังชีพและอาหารสัตว์กว่า 1,000 คน โดยมีนายวันชัย คงเกษม ผวจ.ร้อยเอ็ด พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ให้การต้อนรับ ทั้งนี้ นายประภัตรเผยว่า จากการรับรายงานทราบว่า อ.เสลภูมิ มีพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายเกือบสิ้นเชิงประมาณ 3 แสนกว่าไร่ จะต้องเร่งฟื้นฟู อย่างแรกคือ จัดหาแหล่งน้ำหลังจากที่น้ำลดแล้ว เพราะภาคอีสานหลังน้ำลดจะไม่มีน้ำคือจะแล้งเหมือนเดิม จะให้กรมทรัพยากรน้ำดำเนินการหาน้ำบาดาลเพื่อให้เป็นแหล่งน้ำต่อไป

รมว.คลังจ่ายเงินช่วยชาวนา

ที่ จ.ขอนแก่น นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง และคณะ ลงพื้นที่ อ.บ้านไผ่ เยี่ยมเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วม พร้อมมอบเงินสนับสนุนต้นทุนการผลิตให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ในปีการผลิต 2562/63 จำนวน 2,000 ราย และมอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบภัย 1,000 ราย จากนั้นนายอุตตมเผยว่า รัฐบาลมีความห่วงใยพี่น้องเกษตรกรที่ประสบภัยทั้งภัยแล้งและอุทกภัย ที่ส่งผลกระทบต่อรายได้และเศรษฐกิจโดยรวม ต่อจากนี้ไปหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลังและกระทรวงอื่นๆจะร่วมกันทำงานโดยยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง จะออกมาตรการที่ให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุดอย่างต่อเนื่อง เพื่อจะได้ช่วยเหลือเต็มที่

น้ำลดเสาสะพานลำเซบายพัง

จ.ยโสธร สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มน้ำเซบายเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติและปริมาณน้ำในลำเซบายได้ลดลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ริมตลิ่งลำเซบายบริเวณเชิงสะพานข้ามลำเซบาย บ้านเซ ต.เชียงเพ็ง อ.ป่าติ้ว เกิดดินสไลด์และทรุดตัวเป็นทางยาวกว่า 50 เมตร ทำให้เสาคอนกรีตขนาดใหญ่มีความสูงกว่า 10 เมตร เป็นเสาสะพานแขวนเก่าที่เลิกใช้งานไปแล้วเกิดการทรุดตัวเอียงไปทับกับราวสะพานจนเกิดการแตกร้าวเกือบที่จะหักโค่นล้มลงมา จนเป็นที่น่าหวาดเสียวให้กับประชาชนที่สัญจร ข้ามสะพานเป็นอย่างมาก

ครวญปลากระชังตายเกลี้ยง

ส่วนน้ำในลำน้ำมูลที่เขื่อนหัวนา ต.หนองแก้ว อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ลดลงทุกวันแต่ระดับยังสูงกว่าตลิ่ง ส่งผลทำให้บ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรจมอยู่ใต้บาดาล โดยเฉพาะต้นข้าวในนาไม่มีทีท่าว่าจะโผล่พ้นน้ำ ด้านนายบุญเลิศ รุ่งแสง อายุ 56 ปี ชาวบ้านหัวนา หมู่ 2 ต.หนองแก้ว กล่าวว่า เลี้ยงปลาในกระชัง 25 กระชัง ตอนนี้น้ำท่วมปลาตายหมด เนื่องจากน้ำที่หลากมาท่วมสูงแถมน้ำขุ่นเน่าเหม็น ในน้ำไม่มีออกซิเจน ปลาเลยตายเสียหายหมด กลุ่มชาวบ้านที่เลี้ยงปลาต้องหยุดเลี้ยงไปอีกหลายเดือน ทำเอาขาดทุนยับ

น้ำป่าเขาใหญ่ทะลักท่วมถนน

ที่ จ.ปราจีนบุรี ตลอดคืนที่ผ่านมาเกิดฝนตกหนัก รวมทั้งพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ทำให้ปริมาณน้ำฝนสะสมจำนวนมากจากเทือกเขาใหญ่ไหลทะลักเข้าท่วมถนนสุวรรณศร บริเวณ กม.168 บ้านโง้ง หมู่ 2 ต.โพธิ์งาม อ.ประจันตคาม ระดับน้ำสูง 10-20 ซม. เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงนำป้ายมาปักตามแนวขอบถนน เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่ เช่นเดียวกับพื้นที่หน้าบริษัทเครือสหพัฒน์กบินทร์บุรี น้ำทะลักท่วมถนนสุวรรณศรทั้ง 4 ช่องจราจร ระดับสูง 10-20 ซม.รถเล็กสัญจรลำบาก เจ้าหน้าที่ติดตั้งป้ายบอกทางน้ำท่วม และนำกรวยยางวางเป็นแนวเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ คาดหากฝนถล่มไม่หยุดน้ำไหลท่วมทุกพื้นที่ของ จ.ปราจีนบุรี โดยเฉพาะพื้นที่ติดเขาใหญ่ ท่วมหนักแน่นอน

ชาวบ้าน 200 ครอบครัว ถูกตัดขาด

บ่ายวันเดียวกัน นายนภดล งามเหลือ นายอำเภอนาดี จ.ปราจีนบุรี พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบถนนภายในหมู่บ้านหมู่ 3 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี หลังถูกมวลน้ำทะลักท่วมสูง พบพื้นที่ดังกล่าวมีกระแสน้ำไหลเชี่ยวน้ำมีสีแดงขุ่น ประชาชนกว่า 200 ครัวเรือน ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ไม่สามารถเดินทางเข้าออกจากหมู่บ้านได้ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน จึงประสานหน่วยงาน ปภ.จังหวัด สนับสนุนเรือท้องแบนมาให้ประชาชนใช้เป็นพาหนะในการเดินทางเข้าออกหมู่บ้านเป็นการชั่วคราว พร้อมขอเสาไฟฟ้าจากการไฟฟ้า อ.นาดี นำเสาไฟฟ้ามาวางพาดเพื่อเชื่อมเส้นทางให้ประชาชนสามารถเดินทางเข้าออกได้เป็นการชั่วคราวไปก่อน ส่วนมวลน้ำในพื้นที่ อ.นาดี กำลังไหลลงสู่แควหนุมานในพื้นที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี จะส่งผลกระทบกับพื้นที่ตลาดเก่ากบินทร์บุรี ถูกมวลน้ำดังกล่าวไหลเข้าท่วมในช่วงค่ำของวันเดียวกัน

กรมชลฯระวังน้ำถล่มกบินทร์

นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เผยว่า จากการติดตามสภาพฝนช่วงวันที่ 19-22 ก.ย. มีฝนตกหนักถึงหนักมาก ใน จ.ปราจีนบุรี และ จ.สระแก้ว ทำให้ปริมาณน้ำและระดับน้ำทางตอนบนทั้งแม่น้ำแควหนุมาน แม่น้ำพระปรง และลำน้ำสาขาของแม่น้ำปราจีนบุรีเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับยังคงมีฝนตกบริเวณตอนบนของลุ่มน้ำสาขาทุกสายอย่างต่อเนื่อง โดยวันเดียวกันระดับน้ำในแม่น้ำปราจีนบุรีที่สถานีวัดน้ำ KGT.3 อ.กบินทร์บุรี มีระดับน้ำ 8.47 เมตร ต่ำกว่าตลิ่ง 2 เมตร ระดับน้ำสูงขึ้นเฉลี่ยชั่วโมงละ 6 ซม.คาดว่าระดับน้ำจะเพิ่มขึ้นจนส่งผลให้เกิดน้ำล้นตลิ่งบริเวณตลาดเก่ากบินทร์บุรีได้ จึงให้โครงการชลประทานปราจีนบุรี เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์เต็มที่

เมืองชลฝนตกถนนสุขุมวิทจม

ทางด้าน จ.ชลบุรี เกิดฝนตกหนักอย่างรุนแรงนานกว่า 5 ชม.รวมทั้งมีลมกระโชกแรง ส่งผลทำให้มีหลายพื้นที่ใน อ.ศรีราชา เกิดน้ำท่วมขังเอ่อล้นขึ้นมาท่วมถนนและตรอกซอกซอยต่างๆเนื่องจากท่อระบายน้ำไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน เพราะมีเศษขยะไปปิดบังรูระบายน้ำ โดยเฉพาะบริเวณถนนสุขุมวิท ขาเข้าเมืองพัทยา ใต้สะพานต่างระดับหน้าบริษัทเคอรี่ สยามซีพอร์ต ถูกน้ำขังสูงกว่า 40-50 ซม. รถเล็กสัญจรลำบาก

ชี้ฝนตกหนักภาคตะวันออก

นายสำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการน้ำเฉพาะกิจ ได้ออกประกาศศูนย์อำนวยการน้ำเฉพาะกิจว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศสภาพอากาศแปรปรวนบริเวณประเทศ ไทยตอนบนมีผลกระทบถึงวันที่ 26 ก.ย.ส่งผลให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลยังคงมีสภาพอากาศแปรปรวน โดยมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมแรง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณภาคตะวันออก ได้แก่ จ.นครนายก จ.ปราจีนบุรี จ.สระแก้ว จ.ฉะเชิงเทรา จ.ชลบุรีจ.ระยอง จ.จันทบุรี และ จ.ตราด

ระวังสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง

ศูนย์อำนวยการน้ำเฉพาะกิจ ได้วิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ พบว่ามีพื้นที่เสี่ยงน้ำล้นตลิ่ง บริเวณแม่น้ำปราจีนบุรี อ.กบินทร์บุรี และ อ.เมืองปราจีนบุรีนั้นจึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวัง ติดตามสภาพอากาศ และประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมพิจารณาเตรียมความพร้อมรับมือการเร่งระบายน้ำในลำน้ำต่างๆ เพื่อรองรับปริมาณฝนตกหนักในระยะต่อจากนี้ จัดเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือในการให้ความช่วยเหลือ เพื่อป้องกันการเกิดอุทกภัยในพื้นที่ดังกล่าว รวมถึงประกาศแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบให้รับทราบต่อไป

เขื่อนเจ้าพระยาทยอยปล่อยน้ำ

นายสุชาติ มาลาศรี ผอ.สำนักงานชลประทานที่ 12 เผยว่า เนื่องจากพื้นที่ตอนบนของประเทศมีปริมาณฝนที่ตกหนัก และฝนที่ตกสะสมมากขึ้น ส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลหลากลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยามากขึ้น ล่าสุดเที่ยงวันเดียวกัน ปริมาณน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ที่ 16.30 ม.รทก.ระดับน้ำท้ายเขื่อนอยู่ที่ 9.44 ม.รทก. และปริมาณการระบายอยู่ที่ 639 ลบ.ม./วินาที ค่อยขึ้นเป็นขั้นบันไดตามความเหมาะสม การบริหารจัดการน้ำตอนนี้เป็นไปตามที่มีการคาดการณ์ไว้ แม้ฝนจะตกลงมาต่อเนื่อง แต่ทางกรมชลฯ มีการวางแผนจัดการไว้แล้วเหมือนก่อนหน้ามีมวลน้ำก้อนมหาศาลมาจากภาคเหนือ ก็ค่อยๆลดลง จนมาตอนนี้ค่อยๆเพิ่มการระบาย เนื่องจากมีน้ำมากขึ้น ลดหย่อนกันไปเป็นขั้นบันไดตามทฤษฎี ขณะที่ ปภ.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่ยังไม่น่าเป็นห่วง อาจมีพื้นที่ต่ำมีน้ำเอ่อล้นจากแม่น้ำเข้าท่วมบ้านเรือนเล็กน้อยในพื้นที่ ต.หัวเวียง อ.ผักไห่

กรมอุตุฯเตือนอากาศแปรปรวน

นายภูเวียง ประคำมินทร์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศ บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ยังคงมีสภาพอากาศแปรปรวน โดยมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมแรง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีฝนลดลง โดยจังหวัดที่มีผลกระทบฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง รวม 35 จังหวัด สำหรับในช่วงวันที่ 23-26 ก.ย.ประเทศไทยตอนบนปริมาณฝนลดลง และอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส จะเริ่มจากภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ภาคกลางตอนบนจะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากสภาพอากาศแปรปรวนที่มีฝนตกหนัก อุณหภูมิลดลงในช่วงเวลาดังกล่าว และดูแลรักษาสุขภาพในระยะนี้ไว้ด้วย

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0