ด้วยปฏิบัติการพิเศษของ กองบังคับการปราบปราบ โดยชุดปฏิบัติการสนับสนุน บก.ป. หรือ ชุดปฏิบัติการพิเศษ “หนุมาน” ภายใต้การบัญชาการของ “พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช” ผู้บังคับการปราบปราม สั่งการผ่าน พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผู้กำกับการ 2 กองปราบปราม พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผู้กำกับการ 3 กองปราบปราม และ พ.ต.อ.วิจักษ์ ตารมย์ ผู้กำกับการสนับสนุน กองบังคับการปราบปราม นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการกองปราบ ลงพื้นที่แกะรอยผู้ต้องหาปล้นร้านทอง ใน จ.ลพบุรี
เพียง 7 วันเท่านั้นทีม“หนุมาน” ก็ได้เบาะแสและนำไปสู่การจับกุม“ประสิทธิชัย เขาแก้ว” ผู้ต้องหาได้ในที่สุด
“พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช” รับตำแหน่งผู้บังคับการปราบปราม (บก.ป.) เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2562
บิดาของ “พล.ต.จิรภพ ภูริเดช” คือ พล.ร.อ.สมภพ ภูริเดช นายทหารราชองครักษ์พิเศษ
มารดาคือ นางรสสุคนธ์ ภูริเดช อดีตวุฒิสมาชิก
เป็นน้องเล็กในครอบครัว “ภูริเดช” มีพี่ชายคนโต คือ ณัฐภพ ภูริเดช ทำธุรกิจ
พี่ชายคนที่ 2 พลเอกจักรภพ ภูริเดช รองผู้บัญชาการ หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์/ผู้บัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์
และพี่สาว รศ.พญ.ดร.ภฑิตา ภูริเดช สมรสกับ พลเอก ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ (อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง) ปัจจุบันตำแหน่งนายทหารราชองครักษ์, รองผู้บัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ (อัตราพลเอก)
ในวันรับตำแหน่งผู้บังคับการปราบปราม“พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช” ผ่านพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกองบังคับการปราบปราม อาทิ พระพุทธพิทักษ์ธรรมนำชัย พระพุทธรูปประจำ บก.ป. ศาลสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) และพระภูมิเจ้าที่
“ผมขอให้คำสัตย์ปฏิญาณต่อหน้าธงประจำกองปราบและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายว่าผมจะนำพากองปราบให้เป็นที่ยอมรับและที่ศรัทธาของประชาชนให้สมกับความว่าที่พึ่งสุดท้ายที่หมายพึ่งอย่างแท้จริง รวมถึงจะดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาให้ได้ทำงานที่นี่อย่างมีความสุขฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ให้สำเร็จลุล่วงไปเพื่อประโยชน์ของหน่วยงานและประชาชน” พ.ต.อ.จิรภพ กล่าว
“พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช” หรือ“ก้อง” นับว่าเป็นนายตำรวจมีโปรไฟล์ดีพิเศษอย่างยิ่ง เขาเกิดเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2518 อายุ 44 ปี เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 34 นักเรียนนายร้อยรุ่นที่ 50 จบปริญญาโท คณะ MIS Management Information System (การบริหารข้อมูลสารสนเทศ) Central Michigan University สหรัฐอเมริกา จบปริญญาเอกวิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาธุรกิจเทคโนโลยีและกาาจัดการนวัตกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จบหลักสูตรเอฟบีไอรุ่นที่ 271 จากสหรัฐอเมริกา หลักสูตรวิเคราะห์ข่าวกรองอาชญากรรม ฯลฯ
เริ่มรับราชการตำแหน่งแรกเป็นรองสารวัตรฝ่ายปฏิบัติการ 3 กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ (บก.ปปป.) เป็นรองสารวัตร แผนก 2 กก. 1 บก.ป. ก่อนติดยศ พ.ต.ต. เป็นสารวัตรตำรวจท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต จากนั้นก็ขึ้นเป็น รอง ผกก.ท่องเที่ยวภูเก็ต และได้ขึ้นเป็น ผกก.ท่องเที่ยวภูเก็ต ต่อมาได้ย้ายกลับถิ่นเก่ามาเป็น ผกก.1 บก.ป. เมื่อปี 2557 ขึ้นเป็นรอง ผบก.ป.เมื่อเดือนมิถุนายน 2560
“คดีดังกล่าวถือเป็นคดีอุกฉกรรจ์ คนร้ายลงมืออย่างเหี้ยมโหด ไม่เกรงกลัวกฎหมายและเคารพสิทธิเสรีภาพความปลอดภัยของประชาชน สร้างความสะเทือนใจให้กับพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก” พล.ต.ต.จิรภพ กล่าวในวันที่ได้รับมอบหมายเข้าปฏิบัติการคดีดัง
ในที่สุดสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้อย่างเบ็ดเสร็จ เช่นเดียวกับในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ที่ “พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช” มีผลงานจับกุมคดีใหญ่ๆ ระดับประเทศ หลายคดี อาทิ คดียักยอกเงินของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.), คดีหลอกลวงผู้เสียหายหลายรายซื้อหุ้น IPO, คดีปล้นรถขนเงิน บริษัทโพรเกรส กันภัย จก. (เหตุเกิดโลตัส พระราม 1)
และคดีการเสียชีวิตของ นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง ซึ่งคดีนี้ถูกแบ่งออกเป็น 2 คดี ประกอบด้วย คดีปลอมเอกสารโอนหุ้น และคดีฆาตกรรมนายชูวงษ์, คดียิงนายสมยศ สุธางค์กูร เจ้าพ่อพระราม 9 คาเฟ่, คดีจับหญิงไก่, คดีน้ำมนต์ ลวงแต่งงานเชิดสินสอด, คดีทอมโชกุน หลอกลูกทัวร์, คดีฆ่าโบกปูนเพื่อนร่วมชาติอิสราเอล ซุกไว้บ้านพักบางบัวทอง เป็นต้น