โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

DITTO เทรดวันแรกราคาพุ่ง 140% ธุรกิจตอบโจทย์ Digital Transformation

Wealthy Thai

อัพเดต 09 ส.ค. 2566 เวลา 22.46 น. • เผยแพร่ 06 พ.ค. 2564 เวลา 12.06 น. • ศุภมาศ ศรีขำ

หลายภาคส่วนในไทยกำลังนำ Digital Transformationเข้ามาปรับใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานภายในองค์กร ซึ่งสิ่งสำคัญที่เป็นเหมือนหัวใจของธุรกิจ คือ ข้อมูล หากบริษัทมีการจัดเก็บข้อมูลอย่างเป็นระเบียบ ค้นหาได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ก็จะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้การดำเนินงานต่างๆ เป็นไปอย่างราบรื่น โดยปัจจุบันก็มีบริษัทที่ตอบโจทย์การบริหารจัดการข้อมูลด้วยเทคโนโลยีอย่างครบวงจร นั่นก็คือ บริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DITTOที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ วันนี้เป็นวันแรก โดยเปิดการซื้อขายที่ราคา 18.00 บาท เพิ่มขึ้น 10.50 บาท หรือ 140%จากราคาไอพีโอที่ 7.50 บาท
นายฐกร รัตนกมลพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DITTO กล่าวว่า เงินที่ได้จากการระดมทุน บริษัทจะนำมาขยายศูนย์บริการให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อรองรับการให้บริการด้านเอกสารและดิจิทัล ที่มีแผนกระจายทีมงานให้ครอบคลุมทุกพื้นที่มากยิ่งขึ้น และลงทุนพัฒนาระบบบริหารจัดการเอกสารเพื่อให้บริการบนระบบคลาวด์ในรูปแบบ Software as a Service (SaaS) ให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงระบบบริหารจัดการเอกสารจากทุกที่ผ่านระบบคลาวด์
“ปัจจุบันบริษัทมีลูกค้าที่จะจายอยู่ต่างจังหวัดต้องส่งพนักงานออกไปให้บริการ หากขยายศูนย์ดังกล่าวแล้วน่าจะลดต้นทุนส่วนนี้ลงได้ ขณะที่การพัฒนาระบบ SaaS จะตอบโจทย์ลูกค้าขนาดกลางที่มีเงินทุนไม่มาก แต่ต้องการบริหารจัดการเอกสาร ซึ่งเรามีบริการตั้งแต่สแกนเอกสารไปจนถึงเก็บเอกสารเข้าสู่ระบบ” นายฐกร กล่าว
สำหรับเป้าหมายรายได้ปี 2564 บริษัทคาดว่าจะเติบโตประมาณ 20-30% โดยมาจากงานในมือที่ยังไม่ได้ส่งมอบ 447 ล้านบาท แบ่งเป็นธุรกิจจำหน่ายและให้บริการระบบบริหารจัดการเอกสารและข้อมูล, ธุรกิจ ให้เช่า จำหน่าย และให้บริการด้านเครื่องถ่ายเอกสาร เครื่องพิมพ์ และสินค้าเทคโนโลยีอื่นๆ 275.38 ล้านบาท และธุรกิจ รับเหมาวิศวกรรมด้านเทคโนโลยีสำหรับโครงการของหน่วยงานราชการต่างๆ จำนวนรวมราว 172 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทได้เข้าประมูลงานงานใหม่รวมกว่า 700 ล้านบาท ซึ่งเป็นงานที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านจึงมั่นใจว่าบริษัทมีโอกาสจะได้รับงาน โดยล่าสุดได้รับงานจากกรมที่ดิน เพื่อจัดเก็บโฉนดที่ดินเข้าระบบประมาณ 3 ล้านแปลง รวมถึงวางแผนจะต่อยอดธุรกิจไปยัง Cyber Securityเพื่อป้องกันข้อมูลของลูกค้าอย่างครบวงจร คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ปลายปีนี้
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าอัตรากำไรสุทธิมีแนวโน้มจะเป็นไปในทิศทางที่ดี ตามขยายตัวของธุรกิจจำหน่ายและให้บริการระบบบริหารจัดการเอกสารและข้อมูล จาก สิ้นปี 2563 อยู่ที่ 11.6%

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0