ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพของสหรัฐฯ แนะนำสิ่งที่จะทำให้ ภูมิคุ้มกัน ร่างกายตกลง ตั้งแต่การพักผ่อน สุขภาพจิต หรือแม้แต่การกินอาหาร ล้วนมีผลต่อร่างกาย
พักผ่อนไม่เพียงพอ
การพักผ่อนไม่เพียงพอทำให้ความเป็นไปได้ที่จะติดเชื้อไวรัสหรือเชื้อโรคอื่นสูงขึ้น และถ้าป่วย ก็จะทำให้ใช้เวลาในการฟื้นฟูร่างกายนานขึ้น นั่นเป็นเพราะร่างกายไม่สามารถสร้างเซลล์ที่จะมาสู้กับการติดเชื้อได้พอ รวมถึงสร้างโปรตีนที่เรียกว่าแอนติบอดีย์ที่จะช่วยป้องกันการเจ็บป่วย
ความวิตกกังวล
ความเครียดและความกังวลไม่ช่วยในการต่อสู้กับเชื้อโรค แค่มีความวิตกกังวล ก็ทำให้ ภูมิคุ้มกัน ตกลงได้ ความเครียดต่อเนื่องยิ่งส่งผลนานกว่า และทำให้ยากที่จะสู้กับโรคหวัด โรคเริม โรคงูสวัด และโรคจากเชื้อไวรัสชนิดอื่นๆ คุณต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ หากความวิตกกังวลเริ่มส่งผลกับชีวิตประจำวัน
ระดับวิตามิน D ต่ำ
นอกจากจะช่วยทำให้กระดูกและเซลล์เม็ดเลือดแข็งแรงแล้ว วิตามิน D ยังช่วยเสริมระบบภูมิคุ้กันด้วย วิตามิน D พบได้ในไข่ ปลาที่มีไขมันสูง และอาหารอย่างซีเรียลและนม นอกจากนี้ แสงแดดก็เป็นแหล่งวิตามิน D อย่างดี ให้แสงแดดถูกหน้าและแขน นาน 5 ถึง 15 นาที สัปดาห์ละ 2 ถึง 3 ครั้งก็เพียงพอ
ยาบางชนิด
ยาบางชนิดทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำ อย่างยาภูมิแพ้ โรคข้อต่ออักเสบ โรคผิวหนังลูปัส โรคลำไส้แปรปรวน (IBS) และยาสำหรับผู้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ ยากลุ่มสเตียรอยด์ อย่างยาที่ใช้ในคีโมบำบัดสำหรับรักษาโรคมะเร็ง แต่ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนปรับยาทุกชนิด
ทานผักและผลไม้น้อยไป
ผักและผลไม้ช่วยให้ร่างกายผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ต้องใช้สู้การติดเชื้อ อาหารประเภท ผักสด ผลไม้สด ถั่ว และธัญพืช มีธาตุอาหารอย่าง สังกะสี เบต้าแคโรทีน วิตามิน A, C และ E และอีกหลายอย่างที่ทำให้สุขภาพดี นอกจากนี้ยังมีไฟเบอร์ที่ช่วยลดไขมันในร่างกาย ซึ่งจะทำให้ ภูมิคุ้มกัน ตอบสนองได้ดีขึ้น
กัญชา
การสูบกัญชาทำให้ปอดอักเสบได้ ถ้าสูบเป็นประจำ อาจทำให้มีปัญหาหายใจอย่างเดียวกับที่สูบบุหรี่ที่มีนิโคติน ทำให้เกิดเสมหะ และมีโอกาสเป็นปอดอักเสบมากขึ้น
อาหารไขมันสูง
ไขมันสามารถขัดขวางการทำงานของเม็ดเลือดขาว และหากทานอาหารที่มีไขมันสูงเป็นประจำ จะทำให้เสียสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ ที่จะช่วยเสริมการตอบสนองของภูมิคุ้มกัน ควรเลือกอาหารไขมันต่ำที่ไม่ใส่น้ำตาล อย่างอาหารทะเล ไก่งวง ไก่ หรือเนื้อส่วนที่ไขมันน้อย
ไม่ค่อยได้ทำกิจกรรมกลางแจ้ง
แสงอาทิตย์ช่วยเสริมสร้างพลังงานให้กับเซลล์บางชนิดในระบบภูมิคุ้มกันที่ช่วยต่อสู้การติดเชื้อ การทำกิจกรรมกลางแจ้งยังมีประโยชน์อื่นอีกมากมาย ต้นไม้หลายชนิดผลิตสารที่เรียกว่าไฟทอนไซด์และสารอื่นๆที่ ที่เมื่อร่างกายหายใจเขาไป จะช่วยเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
สูบบุหรี่
นิโคตินจากบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า จากการเคี้ยวยาสูบ ฯลฯ ทำให้ความสามารถในการสู้กับเชื้อโรคต่ำลง ไม่ใช่แค่นิโคติน แต่สารเคมีอื่นๆ อย่างน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าก็กดการตอบสนองของภูมิคุ้มกันเช่นเดียวกัน
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ดื่มมากเกินไปเพียงครั้งเดียว จะทำให้การตอบสนองของภูมิคุ้มกันช้าลงไป 24 ชั่วโมง ถ้าดื่มมากๆ ตลอดเวลา จะไปทำลายความสามารถของร่างกายในการซ่อมแซมตัวเอง นั่นหมายความว่า โอกาสที่จะป่วยก็สูงขึ้น อย่างโรคตับแข็ง ปอดบวม วัณโรค และมะเร็งบางชนิด ถ้าเป็นคนชอบดื่ม พยายามให้ดื่มวันละไม่เกิน 1 ถึง 2 แก้ว
ความเศร้าโศก
ความรู้สึกเศร้าโศกเป็นเวลานานจะกดภูมิคุ้มกันร่างกายได้นานถึง 6 เดือน และอาจนานยิ่งกว่านั้นหากความเจ็บปวดทางใจลึกมากๆ และไม่ดีขึ้นง่ายๆ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตเพื่อความช่วยเหลือจัดการกับความรู้สึกจากการสูญเสียหรือเหตุการที่ทำให้เกิดบาดแผลในใจ
ออกกำลังกายไม่พอ
การออกกำลังกายเป็นประจำ ช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อไวรัสและแบคทีเรียได้ดีขึ้น นั่นเป็นเพราะการออกกำลังกายทำให้เลือดหมุนเวียนในร่างกายดีขึ้น ทำให้เซลล์ที่จะไปต่อสู้กับเชื้อโรคอยูในที่ที่ควรอยู่
ห่างไกลเพศสัมพันธ์
ข่าวดี การมีเพศสัมพันธ์สัปดาห์ละ 1 ถึง 2 ครั้ง ก็สร้างความแตกต่างให้กับระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ค่อยได้มีเพศสัมพันธ์ เซ็กซ์ทำให้ระดับอิมมิวโนโกลบูลินเอสูงขึ้น สารตัวนี้เป็นตัวต่อสู้กับเชื้อโรค แต่มากเกินไปก็ไม่ใช่ว่าดี เพราะคนที่มีเพศสัมพันธ์เกินสัปดาห์ละสองครั้ง ก็ทำให้ระดับสารตัวนี้ลดลงเช่นกัน
ข้อมูล: webmd
