โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

กีฬา

"พรีเมียร์ลีก" ปีนี้ต้องยกให้ “เดอะ เบลด” เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด

Manager Online

เผยแพร่ 16 ก.พ. 2563 เวลา 06.47 น. • MGR Online

ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2019-2020 เหลือโปรแกรมอีกราว 12-13 นัด ซึ่งนอกจากว่าที่แชมป์อย่าง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล อีกทีมที่โดดเด่นสุดๆ หนีไม่พ้น "ดาบคู่" เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด

ต้นฤดูกาล เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด คือหนึ่งในตัวเต็งตกชั้น เพราะเพิ่งเลื่อนชั้นคืนลีกสูงสุด โดยหนสุดท้ายที่เล่น พรีเมียร์ ลีก ต้องย้อนไปฤดูกาล 2006-07 หรือเมื่อ 12 ปีก่อนเลยทีเดียว ขณะที่กุนซืออย่าง คริส ไวล์เดอร์ ก็โนเนมเหลือเกิน สมัยเป็นนักเตะเล่นแบ๊กขวา ก่อนจะมาคุม "ดาบคู่" นั้นก็กุมบังเหียนสโมสรเล็กๆ ทั้ง อัลเฟรตัน ทาวน์, ฮาลิแฟ๊ก ทาวน์, อ็อกซ์ฟอร์ด ยูไนเต็ด และ นอร์ทแฮมตัน ทาวน์

แต่ตอนนี้พ้นโปรแกรม 26 นัด เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ยึดที่ 5 มี 39 แต้มอันดับเหนือกว่า ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์, เอฟเวอร์ตัน, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ อาร์เซนอล โดยตามท็อปโฟร์ เชลซี แค่ 2 แต้ม แม้ "ดาบคู่" จะแข่งมากกว่า 1 นัด ทว่าชัดเจนเลยว่ากำลังลุ้นไปเตะ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

ไม่ฟลุ๊กแน่นอน เพราะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ยืนระยะมาได้ตลอดทั้งฤดูกาล ด้วยสไตล์การเล่นที่ไม่มีบิ๊กเนม แต่ทุกคนช่วยกันเล่นวิ่งสู้ฟัดเข้าถึงบอลแบบถึงลูกถึงคนทุกจังหวะ ถือเป็นสไตล์อังกฤษแท้ๆ ที่ยืนหยัดอยู่ได้ในปัจจุบัน แต่ละนัดชนะสกอร์ไม่เยอะ 1-0 หรือ 2-1 รวมจึงยิงไปได้แค่ 28 ประตูเท่านั้น มีเพียงแค่ 5 ทีมเท่านั้นที่ยิงได้น้อยกว่า แต่ให้มองเกมรับที่เสียไปแค่ 24 ประตู ทีมเดียวที่เสียมากกว่าคือ ลิเวอร์พูล 15 ประตู

ขณะที่ทีมเลื่อนชั้นขึ้นมาพร้อมกันอย่าง แอสตัน วิลลา ซัมเมอร์ 2019 เสริมทัพไปถึง 140 ล้านปอนด์ (ประมาณ 5,320 ล้านบาท) ตอนนี้ต้องหนีตกชั้นอยู่เลย แต่ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด แทบจะไม่ได้ทุ่มซื้อนักเตะเลย

ย้อนไปเดือนกันยายนที่ผ่านมา เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด คือทีมที่เกือบหยุด ลิเวอร์พูล ได้สำเร็จ โดยเตะกันที่ บรามอลล์ เลน กว่าที่ "หงส์แดง" จะเฉือนชนะ 1-0 ต้องรอจนถึงนาทีที่ 70 จากการยิงของ จอร์นิจิโอ ไวจ์นัลดุม ที่ตรงตัว แต่ ดีน เฮนเดอร์สัน รับกระฉอกเข้าประตูไป

หากจะขุดพงศาวดาร พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2000-01 เคยมี อิปสวิช ทาวน์ ที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาก่อนที่จะจบซีซันในอันดับที่ 5 ที่สำคัญเลยคือตามหลังรองแชมป์อย่าง อาร์เซนอล เพียงแค่ 4 แต้มเท่านั้น ซึ่งยุคนั้นโควต้ายังเอาเพียงแค่ 3 ทีมไปเตะ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยดาวเด่นก็คือ มาร์คัส สจ๊วร์ต กองหน้าที่กดไปถึง 19 ประตูในปีนั้น ทว่าฤดูกาลถัดมา "ม้าขาว" ดันพลาดท่าตกชั้น

พวกทีมอย่าง เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด หรือ อิปสวิช ถูกเรียกว่า Underdog ซึ่งที่ผ่านมา พรีเมียร์ ลีก ก็มีทีมแบบนี้อีกหลายทีมอย่างฤดูกาล 1999-2000 ทุกคนประหลาดใจกับ ซันเดอร์แลนด์ ภายใต้การคุมทัพของ ปีเตอร์ รีด เลื่อนชั้นขึ้นมาก่อนจบที่ 7 โดยมีกองหน้าที่โด่งดังอย่าง เควิน ฟิลลิปส์ ปีนั้นกดไปถึง 30 ประตูมากกว่า อลัน เชียเรอร์ ของ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ซึ่งคู่ขาก็คือ ไนออลล์ ควินน์ หอกร่างโย่งชาวไอริช

แม้ว่า เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด จะไม่อาจสร้างเซอร์ไพรส์ได้เท่า เลสเตอร์ ซิตี้ ที่ก้าวไปคว้าแชมป์ พรีเมียร์ ลีก ฤดูกาล 2015-16 แต่ "ดาบคู่" ก็ถือว่าพุ่งขึ้นมาทำได้อย่างยอดเยี่ยมในยุคที่ลีกอังกฤษมีแต่ทีมระดับเขี้ยวลากดินและเต็มไปด้วยทีมที่ทุ่มเงินเสริมทัพ แต่ทีมเล็กๆ ที่แทบไม่จ่ายเงินอะไรเลยทว่ากำลังจะได้ไปเล่นถ้วยยุโรปฤดูกาลหน้าไม่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็อาจจะเป็น ยูโรปา ลีก

ส่วนปีนี้รางวัลกุนซือดีเด่นประจำปีคงไม่ใช่ เจอร์เกน คล็อปป์ ของ ลิเวอร์พูล แต่น่าจะเป็น ไวลเดอร์ มากกว่า ทว่าก็หวังว่าทีมอย่าง เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด จะยืนระยะได้ดีต่อไปในฤดูกาลหน้า เพราะในอดีตเคยมีหลายทีมที่พุ่งขึ้นมาแบบนี้ แต่ว่าปีถัดมาก็ต้องถอยกลับไปตั้งหลักใหม่

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0