หลังเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายบุกยิงพระสงฆ์ มรณภาพในวัด 2 รูป ที่ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ล่าสุดพระสงฆ์ในพื้นที่ ยังคงออกบิณฑบาตตามปกติ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจชาวบ้าน ท่ามกลางการดูแลความปลอดภัยจากฝ่ายความมั่นคง
(21 ม.ค.) เช้าตรู่วันนี้ พระสงฆ์วัดชลเฉลิมเขต อ.สุไหงโก-ลก ออกบินฑบาตตามปกติ โดยมีตำรวจ สภ.สุไหงโก-ลก และ อาสารักษาดินแดน อ.สุไหงโก-ลก ร่วมกันจัดกำลังดูแลความปลอดภัย ตั้งแต่บริเวณหน้าประตูวัด กระจายกำลังกันยืน รปภ. พระสงฆ์ที่ยืนรอรับบาตรจากประชาชนตามรายทางที่พระสงฆ์ผ่าน เพื่อเป็นการป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น
พระปลัดธัมมานันโท หรือ หลวงพี่บิลลี่ สำนักสงฆ์ราษฎร์บำรุง อ.เจาะไอร้อง บอกว่า แม้เกิดเหตุร้ายขึ้นในพื้นที่ ชาวบ้านก็มีกำลังใจที่จะอยู่ต่อเพราะนี้คือบ้านเกิด ไม่จำเป็นต้องทิ้งถิ่นฐานไปอยู่ที่อื่น เพราะทุกศาสนา สอนให้เป็นคนดี ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ไม่ทำร้ายผู้อื่น หากพระไม่อยู่จำวัด กำลังใจของชาว 3 จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่เปราะบาง ทั้งทาง วัฒนธรรม และความเชื่อ จะได้ผลกระทบ
ดังนั้นพระจึงยังอยู่ในพื้นที่ต่อไป ส่วนบรรยากาศภายในวัดยูปาราม อ.เมืองยะลา มีประชาชน และกำลังพลของทหาร เข้ามาตั้งฐานปฏิบัติการ ช่วยกันทำความสะอาด
พระครูนันทนาภิวัฒน์ เจ้าอาวาสวัด และเจ้าคณะตำบลบอกว่า ในพื้นที่ต้องดูแล 7 วัด ที่พักสงฆ์ 1 แห่ง มีพระสงฆ์รวมกัน 34 รูป ส่วนวัดยุปาราม มีพระสงฆ์ รวมเจ้าอาวาส 5 รูป ไม่ให้พระออกบิณฑบาต มาตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ ตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา โดยจะมีญาติโยมนำอาหารเพลมามอบให้กับพระทุกวัน หลังจากนี้ วัดก็ต้องระมัดระวังมากขึ้น
ด้านพลโทพรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผอ.รมน.ภาค 4 ขอให้ทุกฝ่ายอดกลั้น ไม่ใช้ความรุนแรง หรือมาตรการนอกกฎหมายตอบโต้ เพราะไม่อยากให้หลุมพราง ซึ่งจะทำให้เกิดความยุ่งยากในการแก้ปัญหายิ่งขึ้น ขอให้ทุกภาคส่วนโดยเฉพาะอย่างยิ่งทุกองค์กรศาสนาในพื้นที่ ได้ร่วมกันประกาศจุดยืนถึงพลังบริสุทธิ์ ต่อต้านพฤติกรรมอันโหดร้ายป่าเถื่อนโดยเร็วที่สุด
ซึ่งเหตุการณ์หดหู่สังหารพระสงฆ์ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้นี้ อาจเป็น “สงครามทางความรู้สึก" อย่างที่ ดร.ศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี ผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ มอ.ปัตตานี เคยตั้งข้อสังเกตไว้ โดยผู้ก่อการร้ายหวังสร้างเงื่อนไขให้เกิดความแตกแยกทางความรู้สึกระหว่างพี่น้องพุทธและมุสลิม เพื่อหวังผลในระดับชาติ.