พระมหาไพรวัลย์ ให้ความเห็นมุมมองพุทธศาสนา ต่อกรณีประหารชีวิตนักโทษ ชี้พระพุทธเจ้าไม่ได้พูดเห็นด้วยหรือไม่ เตือนสังคมควรวางตัวเป็นกลาง อย่าใช้ความรู้สึกอยู่เหนือกฎหมาย
ประหารชีวิต / กรณีที่กรมราชทัณฑ์ ประหารชีวิตนักโทษเด็ดขาดชายธีรศักดิ์ อายุ 26 ปี ผู้ต้องขังในคดีฆ่าผู้อื่นอย่างทารุณโหดร้ายเพื่อชิงทรัพย์ด้วยการฉีดยา เหตุเกิดที่จ.ตรัง โดยทำร้ายและบังคับให้เอาทรัพย์สิน คือ โทรศัพท์มือถือ และกระเป๋าสตางค์ รวมทั้งใช้มีดแทงผู้ตาย รวม 24 แผล จนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 17 ก.ค.55
หลังมีคำสั่งดังกล่าวออกมา ผู้คนในสังคมต่างออกมาแสดงความคิดเห็นกันอย่างหลากหลาย โดยส่วนมากต่างเห็นชอบให้มีการนำตัวนักโทษไปประหารชีวิต อย่างไรก็ดียังมีคนอีกส่วนหนึ่งที่เห็นว่าการประหารชีวิตไม่ช่วยให้อาชญากรรมในประเทศลดลง ทั้งในสังคมพุทธอย่างไทย ที่ไม่ควรใช้การฆ่าเพื่อเป็นทางออกในการแก้ปัญหาสังคม
ต่อเรื่องดังกล่ว พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ วัดสร้อยทอง ให้ความเห็นในกรณีดังกล่าวว่า
ต้องแยกระหว่างกฏหมายกับวิถีชิวิต แน่นอนว่าพุทธศาสนาไม่สนับสนุนการฆ่าด้วยวิธีใด ตั้งแต่สมัยโบราณพุทธศาสนาไม่ได้เข้าไปยุ่งกับกับโทษในทางกฏหมายเลย ถึงวิธีการประหารจะโหดร้ายขนาดไหน
ส่วนเรื่องของโทษในทางโลก พุทธศาสนาไม่ได้แสดงบทบาทหรือเข้าไปตัดสินในแบบของรัฐ พุทธศาสนาจะไม่มีความเห็นในเรื่องการฆ่าแบบสังคม มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะเอามุมมองของปัจเจกไปจับกับเรื่องที่เกี่ยวกับกฏหมาย เพราะพระพุทธเจ้าไม่ได้พูดในลักษณะที่ชัดเจนขนาดนั้น
พระพุทธเจ้าไม่ได้วิพากษ์การลงโทษในแบบรัฐที่เกี่ยวกับเรื่องโทษหรืออัตราโทษ แต่พระพุทธเจ้าพูดแน่นอนว่ามนุษย์เราไม่ควรจะไปฆ่ากัน ในอนาคตก็อาจจะมีการยกเลิกการประหารได้ต้องลองไปหาข้อดีข้อเสีย ว่าทำไมในบางประเทศถึงยกเลิกการประหารชิวิต มันสะท้อนอะไร
ส่วนในเรื่องมุมมองที่ว่าชีวิตแรกด้วยชีวิต ในสมัยนี้ใช้ไม่ได้ บ้านเมืองมีกฏหมายที่จะเอาไว้ลงโทษคนซึ่งทำผิด เราไม่ได้อยู่ในยุคที่ใช้กำลังในการแก้แค้น ถึงจะเรียกร้องเกี่ยวกับเรื่องนี้กันมาก ก็ไม่ได้มีผล เพราะกระบวนการยุติธรรมก็ต้องพิจรารณาไปตามกฏหมาย
แต่ถ้าวิธีคิดคุณจะนำไปสู่ศาลเตี้ยที่แก้แค้นกัน อาตมาไม่เห็นด้วย เราต้องเคารพสองอย่าง คือคนที่เขาคิดว่าการประหารชีวิตยังควรมีอยู่ อาจเพราะกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ ที่เอาโทษคนบางคนน้อยไป การรับโทษยังไม่สมควรกับความผิด
แต่ยังก็มีกระบวนการยุติธรรมที่ควรตั้งคำถาม ว่าการทำความผิดบางครั้งทำไมถึงยังเป็นนักโทษคนเดิม แสดงว่าพอเข้าไปอยู่ในเรือนจำแล้วคนรู้สึกว่าโทษมันเบาไป
อาตมาอยากจะเตือนทุกคนว่าเราควรวางตัวเป็นกลาง อาตมาชอบคำของนักวิชาการคนนึงว่า “บ้านเมืองเราปกครองด้วยกฏหมาย ไม่ได้ปกครองด้วยความรู้สึก”
เพราะฉะนั้นเราจะเอาความรู้สึกไปตัดสินไม่ได้ คนกระทำผิดก็ต้องเข้าสู่กระบวนการบุติธรรมอยู่แล้ว แต่เราสามารถตั้งคำถามกับกระบวนการยุติธรรมได้ ว่ามีช่องโหว่ตรงไหนหรือไม่
ภาณุวัฒน์ เคหะทอง/รายงาน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
อ่าน คนแรกในรอบ 9 ปี! ประหารแล้ว หนุ่มฆ่าชิงทรัพย์ทารุณ แทงเหยื่อ 24 แผล
อ่าน แอมเนสตี้ ค้านโทษประหาร นักโทษชิงทรัพย์แทง 24 แผลรายล่าสุดในรอบ 9 ปี!
อ่าน องค์กรสิทธิเห็นค้านไทยตัดสินประหารชีวิตนักโทษ ชี้เป็นวิธิการที่ล้าหลัง-น่าอับอาย