โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

พปชร. เย้ย ปิยบุตร ไล่อ่านตำรากม.ใหม่ ชี้ไม่รับมติกกต.เป็นตัวอย่างไม่ดี-น่าอับอาย

Khaosod

อัพเดต 13 ธ.ค. 2562 เวลา 02.29 น. • เผยแพร่ 13 ธ.ค. 2562 เวลา 02.29 น.
13-อัด-ปิยบุตร

รองโฆษก พลังประชารัฐ เย้ย ปิยบุตร อ่านตำรากฎหมายใหม่ ซัดน่าอับอาย ชี้ไม่ยอมรับมติกกต. เป็นตัวอย่างไม่ดีของนักการเมือง

วันที่ 13 ธ.ค. น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)กล่าวถึง นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ แถลงไม่เห็นด้วยกับมติคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรค จากกรณีที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค ปล่อยเงินกู้ให้พรรค ว่า ข้อสงสัยของนายปิยบุตร อาจจะไม่อยู่บนหลักเหตุผลของกฎหมาย ไม่พิจารณาจากข้อเท็จจริงและชี้นำสังคมเพื่อกล่าวหาองค์กรอิสระที่มีหน้าที่ตรวจสอบความโปร่งใสของนักการเมือง

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่

เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน

น.ส.ทิพานัน กล่าวต่อว่า ซึ่งตามพรป.พรรคการเมือง มาตรา 62 กำหนดแหล่งรายได้ของพรรคการเมืองไว้ชัดเจนว่ามี 7 ประเภท คือ 1.เงินทุนประเดิม 2.เงินค่าธรรมเนียมและค่าบำรุงพรรค 3.เงินที่ได้จากการจำหน่ายสินค้าหรือบริการ 4.เงิน ทรัพย์สิน และประโยชน์อื่นใดที่ได้จากการจัดกิจกรรมระดมทุน 5.เงิน ทรัพย์สิน และประโยชน์อื่นใดที่ได้จากการรับบริจาค 6.เงินอุดหนุนจากกองทุน และ 7.ดอกผลของเงินดังกล่าว

น.ส.ทิพานัน กล่าวอีกว่า ส่วนเงินกู้ไม่ได้อยู่ใน 7 ประเภท จึงเป็นเงินนอกกฎหมาย เป็นเงินที่มีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะไม่มีกฎหมายข้อใดอนุญาตให้ทำได้ ดังนั้นที่กกต.มีมติว่าเงินกู้ยืม 191 ล้านบาทเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนมาตรา 72 จึงเป็นการวินิจฉัยที่ถูกต้องแล้ว นายปิยบุตรไม่ควรยึดติดมาตราตามพรป. พรรคการเมือง 2550 ซึ่งเป็นกฎหมายเก่าที่ยกเลิกไปแล้ว

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า นายปิยบุตรควรทำความเข้าใจว่าตามพรป. พรรคการเมือง 2560 ระบุถึงแหล่งเงินที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย คือรวมทั้งเงินนั้นได้มาจากการฟอกเงิน คอร์รัปชัน การขายยาเสพติด หรือปล้นมา และยังรวมไปถึงเงินอื่น เช่น เงินที่มีแหล่งรายได้นอกเหนือ 7 แหล่ง เงินบริจาคที่เกิน 10 ล้านบาทต่อปี เงินที่รับมาจากบุคคลที่ไม่มีสัญชาติไทย

รองโฆษก พปชร. กล่าวอีกว่า ดังนั้นการไม่ยอมรับมติกกต. จึงเป็นที่น่าอับอายของนักกฎหมายที่มีความเชี่ยวชาญสูงในสาขามหาชน และควรกลับไปทบทวนอ่านหนังสือความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับกฎหมายทั่วไป ของ นายหยุด แสงอุทัย ก่อนที่จะมาตัดสินกกต.หรือใครว่าสอบตกหรือสอบผ่าน ส่วนที่สงสัยว่ากกต.เร่งรัดคดีจนผิดสังเกต เป็นการชี้นำสังคมและแทกติกการเมืองที่ไม่ใช่ตัวอย่างที่ดี เพื่อกล่าวหาองค์กรอิสระที่มีหน้าที่ตรวจสอบความโปร่งใสของนักการเมืองหรือไม่ เพราะกกต. ได้รับคำร้องตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา และขอเอกสารเพื่อพิจารณา แต่พรรคอนาคตใหม่กลับเพิกเฉยบ่ายเบี่ยงไม่ส่งพยานหลักฐานเอกสารและขอขยายเวลาเรื่อยมา

“ในฐานะนักกฎหมาย นายปิยบุตรต้องทราบดีว่า องค์กรอิสระที่ทำหน้าที่ตรวจสอบ ไม่ควรให้กระแสสังคมเป็นเครื่องชี้นำ กกต. ต้องทำตามหน้าที่คือพิจารณาตัดสินตามข้อตัวบทกฎหมายและพยานหลักฐานเอกสารต่าง ๆ และในฐานะนักการเมือง นายปิยบุตรควรยอมรับฟังความเห็นต่างด้วย ไม่ควรแนะให้คนอื่นเห็นตามตนเองและผู้สนับสนุนของตนเองเท่านั้น เมื่อทีมฟุตบอลของนายปิยบุตรทำฟาล์วเพราะอ่านกติกาผิดเล่ม แทนที่จะเล่นในเกมต่ออย่างสมศักดิ์ศรี แต่ใช้แทกติกพุ่งล้ม ทำออฟไซด์ ให้ผู้ชมเห็นว่าการที่กรรมการเป่าเตือนหรือตัดสินเป็นเพราะกรรมการกลั่นแกล้ง พอผลแข่งแพ้ก็โทษกรรมการไม่ยุติธรรม ถือว่าไม่เคารพกติกา ไร้น้ำใจนักกีฬา เล่นไม่สมศักดิ์ศรี ไม่เคารพแฟนฟุตบอลที่สนับสนุนทีม หากทำต่อไปคงจะมีเพียงกลุ่มฮูลิแกนที่สนับสนุนเท่านั้น” น.ส.ทิพานัน กล่าว


0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0