โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

พปชร. มองข้ามช็อตตั้งรัฐบาลวาง 'สุชาติ' ประธานสภา 

ฐานเศรษฐกิจ

เผยแพร่ 19 เม.ย. 2562 เวลา 12.32 น.

คอลัมน์ฐานโซไซตี ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3463 หน้า 4 ระหว่างวันที่ 21-24 เม.ย.2562 โดย…ว.เชิงดอย

 

 

พปชร. มองข้ามช็อตตั้งรัฐบาลวาง 'สุชาติ' ประธานสภา 

 

 

          เมื่อวันที่ 17 เมษายน ที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญ คณะเล็ก จำนวน 4 คน จากทั้งหมด 9 คน ได้มีการประชุมกันเพื่อพิจารณากรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ส่งหนังสือมาให้พิจารณาวินิจฉัยว่า กกต.จะสามารถคำนวณหาจำนวน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ (ปาร์ตี้ลิสต์) ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 128 ซึ่งจะมีผลทำให้พรรคการเมืองที่มีจำนวน ส.ส.ที่จะพึงมีได้ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ส.ส. 1 คน ได้รับการจัดสรร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 1 คน ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 หรือไม่ ซึ่งผลปรากฏว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคณะเล็ก 4 คน เสียงแตกว่าจะรับหรือไม่รับเรื่อง กกต.ไว้วินิจฉัย

          สำหรับผู้ที่เห็นว่า “ไม่ควรรับวินิจฉัย” มองว่า กกต.จะต้องเลือกแนวทางปฏิบัติเอง หากมีผู้ร้องว่าแนวทางนั้นไม่ชอบตามรัฐธรรมนูญ แล้วจึงจะเป็นหน้าที่ของศาลวินิจฉัยว่าชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ ขณะนี้ยังถือว่าไม่มีปัญหาเรื่องความชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ ส่วนผู้ที่เห็นว่า “ควรรับวินิจฉัย” เห็นว่าการเขียนกฎหมายลูก มีข้อความไม่สอดคล้องต่อรัฐธรรมนูญ หากศาลรับวินิจฉัยก็จะทำให้ กกต.ไม่ต้องเสียเวลาในการพิจารณาปัญหาข้อกฎหมาย… เมื่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคณะเล็กมีความเห็นไม่เป็นเอกฉันท์ ตามขั้นตอนก็จะต้องส่งเรื่องให้ที่ประชุมใหญ่ศาลรัฐธรรมนูญ 9 คน วินิจฉัยตามระเบียบการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งที่ประชุมใหญ่ศาลรัฐธรรมนูญ จะประชุมวินิจฉัยกันในวันพุธที่ 24 เมษายนนี้

          ต่อเรื่องดังกล่าว ชาติชาย ณ เชียงใหม่ อดีตกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) บอกกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า มีแนวโน้มออกได้ทั้ง 2 แนวทาง คือ รับไว้พิจารณา หรือไม่รับไว้ก็ได้ กรณี “ไม่รับเรื่อง” ไว้ เพราะศาลอาจจะเห็นว่า “เหตุยังไม่เกิด” และในฐานะที่กกต.เป็นผู้ปฏิบัติ สามารถที่จะขอรายละเอียดที่ได้พูดคุยหารือกันไว้เกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ และรัฐธรรมนูญได้เขียนเป็นหลักให้แล้ว ขณะที่ในพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 128 ก็เขียนไว้ชัดเจน ไม่ได้คลุมเครือ มีรายละเอียดในทางปฏิบัติ แต่ถ้าศาล “รับไว้วินิจฉัย” คงเป็นเรื่องที่กฎหมายออกมาขัดรัฐธรรมนูญ หรือไม่ชอบโดยรัฐธรรมนูญ คือ เขียนเกินกว่าที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้

          เดี๋ยวพุธที่ 24 เมษายนนี้ ก็รู้ว่า “ศาลรัฐธรรมนูญ” จะ “ผ่าทางตัน” ให้“กกต.” หรือไม่ หรือจะต้องโยนปัญหากลับมาที่ กกต. ให้ กกต.ลุยไปเลย เมื่อเกิด “เหตุ” ขึ้นแล้ว และมีคน “ร้องเรียน” ก็ค่อยส่งเรื่องกลับไปที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยให้ แต่ปัญหาคือกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะได้มีคำวินิจฉัยออกมา ก็ใกล้ “เดดไลน์” วันที่ 9 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่กกต.จะต้องจัดการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จ และประกาศผลเลือกตั้งอย่างเป็นทางการออกมา แถม “66 ว่าที่ส.ส.” ที่ถูกร้องเรียน จนกระทั่งบัดนี้ ก็ยังไม่เห็น กกต. ชัก“ใบเหลือง-ส้ม-แดง” ออกมาสักใบ หากเกิดปัญหาจัดการเลือกตั้งไม่แล้วเสร็จตามที่กฎหมายกำหนด แล้ว “7 อรหันต์กกต.” จะรับผิดชอบไหวรึ… ระวังนะ “กกต.” ติดคุกก็เคยมีตัวอย่างให้เห็นมาแล้ว

          ดูเหมือน “พลังประชารัฐ” จะมอง “ข้ามช็อต” การจัดตั้งรัฐบาลไปแล้ว เพราะขณะนี้เริ่มมีการวางตัว “ประธานสภาผู้แทนราษฎร” ไว้แล้ว ซึ่งก็ไม่ใช่ใครอื่น สุชาติ ตันเจริญ อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร นั่นเอง สำหรับ สุชาติ เป็นส.ส.ฉะเชิงเทรา มาแล้ว 8 สมัย เลือกตั้งล่าสุด 24 เมษายน 2562 ก็ได้รับเลือกตั้งเข้ามาเป็นอันดับ 1 ในเขตเลือกตั้งที่ 3 ฉะเชิงเทรา สุชาติ เคยสังกัดพรรคการเมืองหลายพรรค ทั้ง ประชาธิปัตย์ พรรคไท พรรคชาติไทย พรรคไทยรักไทย เคยเป็นรมช.มหาดไทย ในปี 2535 และต่อมาในปี 2538 ได้เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร

          อ่อ…แต่มีเงื่อนไขเหมือนกันว่าหาก “ประชาธิปัตย์” ที่คาดว่าจะมาร่วมรัฐบาลกับพลังประชารัฐ ถ้าสนใจเก้าอี้ “ประธานสภาฯ” ทางพลังประชารัฐ ก็พร้อมยกเก้าอี้ให้ เห็นในประชาธิปัตย์ก็มีหลายคนที่เหมาะสมกับตำแหน่งนี้

          หันไปดูสถานที่รองรับสำหรับการประชุมสภาฯ ชัดเจนแล้วว่า ยึดห้องประชุมของทีโอที ย่านแจ้งวัฒนะ เป็นสถานที่จัดประชุมรัฐสภาชั่วคราว และเตรียมพร้อมสำหรับการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 30โดย พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานรัฐสภา ออกมาบอกว่าต้องจ่ายค่าเช่าห้องประชุมให้ทีโอทีราวเดือนละ 11,690,000 บาท แต่เห็นว่ากำลังตกที่นั่งลำบาก เพราะสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรมีงบประมาณไม่เพียงพอสำหรับการเช่าตั้งแต่เดือนพฤษภาคมไปจนถึงเดือนธันวาคม จึงเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีขอใช้งบกลางจำนวน 60 ล้านบาท เพื่อใช้เช่าพื้นที่เป็นการชั่วคราวระหว่างรออาคารรัฐสภาใหม่ก่อสร้างแล้วเสร็จ บวกลบคูณหารแล้วต้องของบกลางให้ได้ 60 ล้านบาท เท่ากับต่ออายุไปได้ประมาณ 5 เดือนเศษๆ ก่อนที่อาคารรัฐสภาแห่งใหม่จะเสร็จสมบูรณ์ในสิ้นปี 2562 ตามที่ พรเพชร คาดการณ์เอาไว้ ว่าแต่ว่า…รัฐสภาใหม่จะทันกำหนดหรือเปล่าเท่านั้น เพราะเห็นเลื่อนแล้วเลื่อนอีก แต่สิ่งที่อยากตั้งข้อสังเกตคืองบค่าเช่าเดือนละ 11 ล้านแพงไปมั้ย นี่คือคำถาม

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0