นายทศพล เพ็งส้ม หัวหน้าทีมต่อสู้คดีกรณี 27 ส.ส.พรรคประชารัฐ ถูกร้องถือครองหุ้น และเป็นเจ้าของกิจการสื่อ แถลงภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้อง 32 ส.ส. ฝ่ายรัฐบาล ถือครองหุ้น และเป็นเจ้าของกิจการสื่อว่า จากนี้จะให้ ส.ส. 21 คนของพรรคทำการรวบรวมเอกสาร โดยเฉพาะในส่วนของงบดุลของบริษัทเพื่อมาพิจารณา เพราะได้เห็นแล้วว่าศาลรับฟังข้อเท็จจริงมากกว่า ดังนั้นต้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญนำคำพิพากษาของศาลฎีกา 2 คดีก่อนหน้านี้มาเปรียบเทียบว่าแตกต่างจากกรณีของพรรคอย่างไร จากนั้นพรรคจะขอคัดสำนวนเพื่อมาใช้ในการต่อสู้อีกครั้ง ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณศาลที่ให้โอกาส ไม่สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่
ในส่วนของพรรค พปชร. ที่จะยื่นฟ้อง ส.ส. ของ 7 พรรคการเมืองฝ่ายค้านนั้น นายทศพลกล่าวว่า จากผลของศาลรัฐธรรมนูญ ทางทีมทนายต้องมาปรับกลยุทธ์ เพราะจากที่ศาลมีคำสั่งไม่รับพิจารณาบางราย ทำให้พรรคต้องตัด ส.ส. ที่ข่ายเดียวกับที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องออก ทำให้การตรวจสอบจากเดิม 55 คน เหลือ 32 คนที่เข้าข่าย โดยพบว่าบางคนมีการประกอบธุรกิจสื่อมวลชนจริง ซึ่งในจำนวนดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นของพรรคเพื่อไทย รวมถึงบางคนเป็นถึงระดับหัวหน้าพรรค ซึ่งจะใช้วิธียื่นผ่าน นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา คาดว่าจะยื่นอย่างเร็วที่สุดภายในสัปดาห์นี้ หรืออย่างช้าต้นสัปดาห์หน้า
