เปิดเผยโดย นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์จากการแถลงข่าวความต้องการกัญชาทางการแพทย์ การนำมาใช้ และวิธีการดูแลผู้ป่วยอย่างเหมาะสม
อธิบดีกรมการแพทย์บอกว่า ในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาส่งห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี เพราะไปทดลองใช้ผลิตภัณฑ์น้ำมันกัญชา ด้วยตนเอง 7 คน มีทั้งอาการคลื่นไส้อาเจียน บ้านหมุน ความดันขึ้น เวียนศีรษะไปถึงอัมพาตครึ่งซีก ด้วยความที่เข้าใจผิดว่า น้ำมันกัญชารักษาได้ทุกโรค
รายที่เป็นผู้ป่วยมะเร็งติดเตียง หลานเป็นคนหยดให้ ปรากฏว่าคราวนี้ปลุกเท่าไรก็ไม่ตื่น แต่ไม่ถึงกับเสียชีวิต บางรายไม่มีโรคประจำตัว ได้น้ำมันกัญชามาจากเพื่อน ลองหยดแก้อาการเครียดดู และดื่มเบียร์เข้าไปด้วย ก็เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียนหนัก
กรมการแพทย์จึงขอให้ประชาชนเข้าใจว่า กัญชาไม่ใช่ยาวิเศษที่จะรักษาได้ทุกโรค และอย่าไปซื้อมาใช้เอง เสี่ยงอันตราย และตอนนี้มีคนแสวงหาประโยชน์หลอกขายน้ำมันกัญชาเป็นจำนวนมาก
ขณะที่ ศาสตราจารย์นายแพทย์ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุข ระบุ ต้องเข้าใจว่า ถ้าใช้ยากัญชาอย่างผิดๆ ใช้เกินขนาด ใช้ไม่ถูกกับโรค และก็ไม่ได้ตรวจสอบว่า ยากัญชาที่นำมาใช้นั้น ปลอดภัยหรือไม่ ก็จะเกิดปัญหา เกิดอาการข้างเคียง เตือนว่าต้องปรึกษาแพทย์ที่ผ่านการขึ้นทะเบียนเป็นผู้สั่งใช้กัญชาทางการแพทย์ก่อนเสมอ
ด้าน นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยาหรือ อย.เผย ตอนนี้ยังไม่มีการนำเข้ายากัญชา จากต่างประเทศ และขอให้เชื่อมั่นว่า การดำเนินการใดๆ เรื่องกัญชาไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ขณะนี้มีมาตรการเตรียมการในการจัดหากัญชาไว้แล้ว หลังจาก 3 เดือน และช่วงรอยต่อ อย.ได้ประสาน ป.ป.ส.เพื่อตรวจสอบของกลางกัญชา ที่ตรวจยึดได้ ว่ามีคุณภาพได้มาตรฐานเพียงพอ ถ้าไม่พบการปนเปื้อนสารโลหะหนัก ยาฆ่าแมลง และมีสารสำคัญตามที่กำหนด ก็จะนำไปผลิตยากัญชา
ขณะนี้มีทั้งองค์การเภสัชกรรม มหาวิทยาลัยรังสิต กำลังผลิตอยู่ ส่วนโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ก็กำลังจะขออนุญาตเร็วๆ นี้
โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์
เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด
