พบละอง! สัตว์ป่าสงวน ใกล้สูญพันธุ์ ที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ปล่อยคืนสู่ป่า เมื่อปี 2560 ขาขาด ที่ อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ โดยนายธนิตย์ หนูยิ้ม ผอ. สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12(นครสวรรค์) เปิดเผยว่า
เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าแม่เรวา พบละอง ซึ่งเป็นสัตว์ป่าสงวน ใกล้สูญพันธุ์ บาดเจ็บ ขาหน้าขวา และขาหลังขวาขาด ได้จับไว้ ให้ช่วยประสานเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจช่วยเหลือประชาชนด้านสัตว์ป่า มารับและให้การช่วยเหลือด่วน ด้าน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ได้รายงานให้สำนักงานพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 ได้มอบหมายให้นางสาวพิมพ์ชนก สรงมงคล นายสัตวแพทย์ชำนาญการ และนางสาวลลิตา อำนวยผล นักวิชาการสัตว์บาล ออกไปตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้ง และประสานเจ้าหน้าที่และสัตว์แพทย์จากสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เข้าร่วมรับและตรวจสอบละอง ตัวดังกล่าว จากการตรวจสอบ พบเป็นละอง ตัวผู้ อายุประมาณ 4-5 ปี มีแท็กติดมี่หู รหัส tt15 ได้รับบาดเจ็บ
ตรงขาหน้าขวา และขาหลังขวาขาดในลักษณะที่มีบางส่วนของขาห้อยติดอยู่ สูงจากข้อขาประมาณ 10 เซนติเมตร ลักษณะบาดแผลพบขาหน้า และขาหลังขวาขาดกระดูกฝ่าเท้า และกระดูกนิ้วเท้า (metacarpal and etatarsal) แตกเป็นหลายชิ้น (multi fracture) แตกละเอียด จึงคาดว่า น่าจะถูกยิงสถานที่พบละอง ตัวดังกล่าว ขณะพบกำลังวิ่งอยู่นอกแนวเขตอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ (ม.ว 4 แม่เรวา) พิกัดที่ X0536074 Y1758926 จึงได้ทำการล้อมจับและนำละมั่งมาปฐมพยาบาลเบื้องต้น ที่หน่วยพิทักษ์ฯ ม.ว 4 (แม่เรวา )หลังจากนั้น คณะสัตวแพทย์ได้ให้ยาลดอักเสบ แก้ปวด และยาปฏิชีวนะ เป็นการเบื้องต้น แล้วเคลื่อนย้ายไปไว้ที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง
โดยเมื่อเช้านี้ (วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2563 ) เวลา 9.30 น. คณะสัตวแพทย์ประจำสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 สัตวบาล และสัตวแพทย์ประจำสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ร่วมกันผ่าตัด ละอง ที่ได้รับบาดเจ็บ โดยได่ทำการตัดขาหน้าขวาบริเวณข้อเท้า (carpal joint) หลังจากตัดขาหน้าเสร็จ ความดันของสัตว์ลดต่ำลง เสี่ยงต่อภาวะช็อก คณะสัตวแพทย์ ประเมินสภาพแล้ว จึงยังไม่ตัดขาหลัง ได้ทำแผล ให้ยา และให้ยาฟื้นสลบ ขณะนี้เฝ้าดูการฟื้นสลบ หากสภาพร่างกายสัตว์พร้อม แผลไม่ติดเชื้อลุกลาม และประเมินการใช้ขาของละอง จะวางแผนตัดขาหลังที่ตำแหน่งข้อเท้าหลัง (tarsal joint) อีกครั้งต่อไปละอง ตัวนี้ เป็นละอง ตัวที่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ ตามแผนปฏิบัติงานของ สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เมื่อปี 2560 เป็น 1 ใน จำนวน 30 ตัว ส่วนการดำรงชีวิตหลังการผ่าตัด อาจจะต้องอยู่ในกรงเลี้ยง ตลอดไป
