โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาในไทย รายที่ 5 เข้มงวดเพิ่มมาตรการคัดกรอง

TODAY

อัพเดต 24 ม.ค. 2563 เวลา 12.05 น. • เผยแพร่ 24 ม.ค. 2563 เวลา 11.25 น. • Workpoint News
พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาในไทย รายที่ 5 เข้มงวดเพิ่มมาตรการคัดกรอง

ตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ในไทยขยับเป็นรายที่ 5 เป็นหญิงชาวจีนอายุ 33 ปี จากเมืองอู่ฮั่น ยืนยันยังไม่มีการระบาดในไทย ปลัด สธ. สั่งเพิ่มมาตรการตรวจคัดกรอง นักท่องเที่ยวที่มาจากเมืองที่มีการแพร่ระบาดนอกจากเมืองอู่ฮั่นด้วย

ที่โรงพยาบาลราชวิถี วันที่ 24 มกราคม นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังเยี่ยมผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ว่า ได้รับแจ้งจากทีมสอบสวนโรคว่าพบผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค จึงส่งผู้ป่วยมารับการรักษาที่โรงพยาบาลราชวิถี เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2563 ผู้ป่วยเป็นนักท่องเที่ยวหญิงชาวจีนจากเมืองอู่ฮั่น อายุ 33 ปี มีไข้ไอเล็กน้อย ไม่มีน้ำมูก ปวดกล้ามเนื้อ ขณะนี้อยู่ในห้องแยกความดันลบ

(นายสาธิต ปิตุเตชะ ที่รพ.ราชวิถี 24 ม.ค. 63)

โดยนักท่องเที่ยวรายนี้ได้เดินทางมาเที่ยวเมืองไทยเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2563 ส่วนลูกสาวอายุ 7 ขวบ เด็กสบายดี เช้าวันนี้ผู้ป่วยมีไข้ต่ำๆ อาการทั่วไปดี มีอ่อนเพลียเล็กน้อย ไอเล็กน้อย มีเสมหะให้การรักษาตามอาการ ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการพบเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 นับเป็นผู้ป่วยยืนยันรายที่ 5 ของประเทศ และผู้ป่วยทุกรายเดินทางมาจากเมืองที่มีการระบาดของโรค ไม่ได้มีการติดเชื้อในประเทศ

“ขอให้ประชาชนมั่นใจ การพบผู้ป่วยเพิ่ม แสดงถึงระบบการเฝ้าระวังโรคที่มีประสิทธิภาพ ผู้ป่วยรายนี้ขอเข้ารับการรักษาเมื่อป่วย ตามใบแจ้งเตือนที่แจกผู้เดินทางจากพื้นที่เสี่ยงทุกคน ขณะนี้เราได้ยกระดับการเฝ้าระวังตามสถานการณ์ของโรค โดยโรงพยาบาลศูนย์ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทุกแห่ง รวมทั้งในสังกัดกรมการแพทย์ สังกัดกรมควบคุมโรคได้มีการซักซ้อม เตรียมความพร้อม เพื่อให้การดูแลรักษาผู้ป่วยและควบคุมป้องกันการแพร่เชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ ดร.เทดรอส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ได้ออกแถลงการณ์หลังจากได้รับฟังข้อเสนอจากที่ประชุมคณะกรรมการฉุกเฉินด้านกฎอนามัยระหว่างประเทศ 2 ครั้ง ก็ยังไม่ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินทางด้านสาธารณสุขที่มีผลกระทบระหว่างประเทศ (PHEIC) จากข้อมูลที่มีในปัจจุบัน ด้วยความรุนแรงและมาตรการในปัจจุบันยังไม่ถึงขั้นดังกล่าว” ดร.สาธิต กล่าว

สธ.เพิ่มมาตรการคัดกรอง ตรวจเที่ยวบินที่มาจากเมืองที่แพร่ระบาดนอกจากอู่ฮั่น

นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ยังคงเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แม้องค์การอนามัยโลก จะยังไม่ประกาศให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เป็นภาวะฉุกเฉินทางด้านสาธารณสุขที่มีผลกระทบระหว่างประเทศ (PHEIC) แต่ยังคงมาตรการเฝ้าระวังเข้มข้นสูงสุดเช่นเดิม โดยมีการประสานไปยังสายการบิน รวมทั้งตำรวจตรวจคนเข้าเมืองที่ด่านต่างๆ หากพบเห็นผู้มีอาการน่าสงสัยให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที และกำชับให้ทุกโรงพยาบาลเฝ้าระวังคัดกรองผู้ป่วยที่มาจากเมืองที่มีการระบาดสถานการณ์ผู้ป่วยในประเทศไทย

โดยวันนี้ ผู้ป่วยหญิงไทย อายุ 73 ปี รักษาตัวที่โรงพยาบาลนครปฐม ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการเป็นลบติดต่อกัน 2 วัน แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ และขอให้คนไทยอย่าตื่นตระหนก เพราะยังไม่พบการระบาดจากคนสู่คนในประเทศไทย

นพ.สุขุม กล่าวต่อว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีนได้เพิ่มความเข้มรับมือโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ โดยเน้นการเฝ้าระวังป้องกัน 3 พื้นที่เป้าหมาย

  • มาตรการคัดกรองที่สนามบินนานาชาติ ปัจจุบันคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงใน 5 ท่าอากาศยาน ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่
  • เพิ่มเติมเที่ยวบินที่มาจากเมืองที่มีรายงานการระบาดนอกจากเมืองอู่ฮั่น รวม 136 เที่ยวบิน ผู้เดินทาง 21,374 ราย ผู้โดยสารทุกคนต้องผ่านการคัดกรองด้วยเครื่องตรวจอุณหภูมิอัตโนมัติ หากมีไข้สูง 38 องศา จะแยกผู้โดยสารให้สวมหน้ากากอนามัย และวัดอุณหภูมิซ้ำหากพบว่ามีไข้ มีอาการทางเดินหายใจ จะส่งรถพยาบาลมารับไปตรวจรักษาในโรงพยาบาลที่มีห้องแยกโรคมาตรฐาน ดูแลรักษาจนมั่นใจว่าปลอดเชื้อจึงส่งกลับประเทศ

ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวชาวจีนทุกคนจะได้รับการ์ดแนะนำการปฏิบัติตัว (Health Beware Card) กรณีเจ็บป่วยขอให้เข้ามารับการรักษาในโรงพยาบาล ได้ขอความร่วมมือไปยังบริษัททัวร์ต่างๆ หัวหน้าทัวร์ และไกด์นำเที่ยว ช่วยเฝ้าระวัง หากพบว่าเจ็บป่วยต้องแจ้งตาม พ.ร.บ. โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 และจะมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้าไปช่วยดูแล

ส่วนมาตรการที่โรงพยาบาล คัดกรองผู้ป่วยที่มีประวัติเสี่ยง กรณีนักท่องเที่ยว หรือผู้ที่เดินทางกลับมาจากพื้นที่เสี่ยงแล้วเกิดอาการเจ็บป่วยภายหลัง มาเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล จะซักประวัติ ตรวจหาเชื้อทางห้องปฏิบัติการ หากพบเชื้อไวรัสจะรักษาในห้องแยกโรคของโรงพยาบาล ดูแลรักษาจนหายและส่งกลับประเทศ

ซึ่งขณะนี้ประสานให้โรงพยาบาลทั้งรัฐ-เอกชน เตรียมความพร้อมของระบบและห้องแยกโรค รวมทั้งมาตรการในชุมชน ติดตามผู้สัมผัสกับผู้ป่วยหรือผู้ป่วยสงสัยทุกคน ได้ประสาน อสม. สมาคมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ผู้ประกอบการโรงแรมให้ช่วยสังเกตตรวจตรา หากพบผู้ป่วยให้เข้ารับการรักษาหรือแจ้งให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โดยได้ให้กรมควบคุมโรค ร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จัดประชุมชี้แจงสร้างความเข้าใจกับผู้ประกอบการบริษัททัวร์ ในวันที่ 27 มกราคม ที่โรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ

นายกฯ สั่งยกระดับศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินเป็นระดับ 3

นายกรัฐมนตรี เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊ก ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha ว่า ได้ติดตามสถานการณ์ไวรัสโคโรนา มาตลอด กำชับกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมความพร้อมและปรับแผนรับมือสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง

ที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขได้ออกมาตรการป้องกัน ปฏิบัติตั้งแต่ต้นปี เน้นตรวจคัดกรอง ณ ท่าอากาศยาน 5 แห่ง ด่านตรวจคนเข้าเมือง ได้ยกระดับศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินเป็นระดับ 3 พร้อมแจ้งเตือนประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปในพื้นที่ที่มีการระบาด และให้โรงพยาบาลทั่วประเทศเตรียมแผนรับมือตลอด 24 ชั่วโมง

(ภาพจากสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล)

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0