สาวๆ คนไหนที่มีปัญหาเรื่องฝ้าแต่ว่ายังคิดไม่ตกว่าจะจัดการอย่างไร หรือลองรักษาแล้วแต่ก็ยังไม่ได้ผลอย่างที่ควร วันนี้ลองมาดูกันก่อนว่าฝ้าของเรานั้นเป็นฝ้าชนิดไหน เพราะฝ้าแต่ละชนิดก็มีวิธีในการรักษาที่แตกต่างกัน ถ้าคิดจะรักษาฝ้าให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพต้องเข้าใจธรรมชาติของฝ้าให้ดีเสียก่อน
โดยฝ้าสามารถแบ่งจากสาเหตุได้ 2 แบบหลักๆ คือ
1. ฝ้าแดด
ฝ้าชนิดนี้เกิดจากรังสี UVA ที่มากับแสงแดดในแต่ละวัน คอยทำร้ายผิวหน้า เมื่อเราเจอแดดทุกวันโดยไม่ป้องกันหรือทาครีมกันแดด ตัวรังสี UVA จะเข้าไปทำร้ายผิวชั้นลึกจนเกิดเม็ดสีเมลานินขึ้น สาเหตุที่เกิดเม็ดสีเมลานินเพราะเม็ดสีเมลานินนั้นมีหน้าที่กรองรังสียูวี ถ้าหากเราไม่ป้องกันผิวจากแสงแดด พอผิวได้รับแสงแดดก็จะเป็นการกระตุ้นการเมลานินจนเกิดเป็นรอยดำ
2. ฝ้าเลือด
ฝ้าอีกชนิดหนึ่งที่เกิดได้จากหลายๆ ปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
การทานยาบางประเภท เช่น ยาคุม ยากันชัก การทาครีมหน้าขาวที่ไม่ได้มาตรฐาน การลอกผิวด้วยสารเคมีตามสถาบันความงามหรือซื้อครีมลอกผิวมาใช้เอง การทำเลเซอร์แล้วไม่ดูแลผิวหน้าหลังเลเซอร์ไม่ดี ทั้งหมดนี้ถือว่าเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดจากความผิดปกติของเส้นเลือดฝอยบนผิวหน้า ส่งผลให้เส้นเลือดฝอยแตกและมีเลือดกระจุกบริเวณพังผืดใต้ผิวหนังชั้นลึก โดยปกติจะมีสีน้ำตาลแดง
วิธีรักษาฝ้าเลือด
1. หยุดใช้ครีมที่ก่อให้เกิดผิวบอบบาง
ที่มีสาไฮโดรคิวโนนและสารสเตียรอยด์ในรูปแบบครีมเร่งผิวขาวที่พบเจอได้เยอะมากในอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะครีมที่ไม่ได้การรองรับจากอย. เพราะครีมเหล่านี้จะทำร้ายผิวหน้าให้บาง ไวต่อแดดมากยิ่งขึ้น
2. ทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง
ครั้ง เพราะครีมกันแดดจะช่วยบรรเทารังสี UV ที่เข้ามากระทบผิว รวมความร้อนจากไอแดด จอคอมพิวเตอร์ และจอมือถือ เพราะการป้องกันตั้งแต่เนิ่นๆ ทำได้ง่ายกว่าการรักษาฝ้าทีหลัง ยิ่งใครที่มีฝ้าอยู่แล้วยิ่งควรใช้ครีมกันแดดเพราะจะช่วยป้องกันไม่ให้สีของฝ้าเข้มขึ้น
3. ทานยาปรับธาตุในร่างกาย
ซึ่งยาเหล่านี้จะช่วยปรับธาตุในร่างกายให้สมดุลขึ้น เมื่อร่างกายได้ปรับสมดุล รอยฝ้าเลือดก็จะค่อยๆ จางลงได้ แต่ก่อนจะรักษาฝ้าด้วยวิธีนี้ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการเลือกยาก่อน
4. ใช้ครีมรักษาฝ้าจากสารสกัดธรรมชาติ
เช่น Vitamin C หรือ Vitamin E ครีมเหล่านี้จะช่วยปรับสีผิวโดยรอบของฝ้าให้ค่อยๆ กระจ่างใสขึ้นได้ ทำให้รอยฝ้าจางลงและยังไม่ต้องเสี่ยงกับการแพ้สารเคมี
การดูแลฝ้าต้องใช้เวลานาน ซึ่งฝ้าอาจจะไม่หายขาดแต่สามารถจางลงได้ แต่หากเรากลับมาใช้ชีวิตที่โดนแดดโดยตรงก็จะทำให้ฝ้ากลับมาเข้มได้อีก ดังนั้นก่อนออกจากบ้านทุกครั้งต้องอย่าลืมทาครีมกันแดดเพื่อป้องกันฝ้าในระยะยาว