โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ฝ่าวิกฤติโควิด แอร์สาวชาวอุดรฯ ผันตัวขายเนื้อแดดเดียว ออเดอร์ถล่มทลาย

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

อัพเดต 06 เม.ย. 2563 เวลา 14.50 น. • เผยแพร่ 06 เม.ย. 2563 เวลา 14.50 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

แอร์โฮสเตสสาวชาวอุดรธานี ใช้เวลาช่วงพักงานเพราะสายการบินหยุดให้บริการ ผันตัวเองเป็นแม่ค้าขายหมูและเนื้อแดดเดียวสูตรโบราณ ออเดอร์ถล่มทลาย แค่ 2 สัปดาห์ ทำเงินกว่า 1.5 หมื่นบาท

เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี ว่า โลกโซเชียลได้มีการแชร์เรื่องราวของแอร์โฮสเตสสาว สายการบินในไทยแห่งหนึ่งที่หยุดให้บริการ ได้ผันตัวมาเป็นแม่ค้า ทำเนื้อแดดเดียวขายผ่านเพจเฟซบุ๊ก “Pim n sis” เพื่อให้อยู่รอดในภาวะวิกฤติเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างหนักและเริ่มรุนแรงขึ้นทุกวัน ซึ่งเพียงแค่ 2 สัปดาห์ สร้างรายได้ 1.5 หมื่นบาท มีลูกค้าให้การตอบรับอย่างล้นหลาม จนทำส่งแทบไม่ทัน

สำหรับอาชีพ “แอร์โฮสเตส” หรือพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน เป็นอีกอาชีพหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดไปทั่วโลก เฉพาะในเมืองไทยมีพนักงานบริการบนเครื่องบินต้องถูกพักงานไปโดยปริยาย ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของลูกค้า และสนองนโยบายของรัฐบาล รวมทั้งลูกค้าที่มาใช้บริการก็ลดน้อยลงตามสถานการณ์ ส่งผลให้คนทุกสาขาอาชีพต้องปรับตัว หารายได้ในช่องทางใหม่ทดแทนรายได้ที่หายไป และไม่อาจคาดเดาได้ว่าเชื้อไวรัสร้ายจะถูกทำลาย มีตัวยารักษาหายได้อีกนานแค่ไหน

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปบ้านสวน เลขที่ 9 ม.17 บ้านโคกพัฒนา ต.โพนงาม อ.หนองหาน จ.อุดรธานี พบกับ นางสาวศศิมนต์ ชำนาญสาร สาวแอร์โฮสเตสของสายการบินแห่งหนึ่ง และน้องสะใภ้พร้อมด้วยเพื่อน รวม 3 คน กำลังช่วยกันแพ็กห่อหมูและเนื้อวัวแดดเดียวแบบสุญญากาศ บรรจุถุงละ 200 กรัม แบ่งเป็นเนื้อหมูถุงละ 80 บาท เนื้อวัวถุงละ 100 บาท และเนื้อหมูแดดเดียวรสลาบ ถุงละ 100 บาท อย่างตั้งอกตั้งใจ และไม่มีท่าทีเหนื่อยหรือท้อ และรังเกียจในอาชีพแม่ค้าเลยแม้แต่น้อยนิด แถมใจดีให้น้องชายทอดหมูแดดเดียวมาให้สื่อมวลชนได้ลิ้มชิมรสชาติ ของเนื้อแดดเดียวสูตรโบราณด้วย

นางสาวศศิมนต์ ชำนาญสาร เล่าว่า ทำงานเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินของสายการบินในไทยแห่งหนึ่งมาร่วม 4 ปี หลังจากจบ ป.ตรี เอกภาษาอังกฤษ ม.ราชภัฏอุดรธานี ไปเรียนเพิ่มเติมต่อที่ประเทศออสเตรเลีย แล้วกลับมาเป็นอาจารย์พิเศษที่ ม.ราชภัฏอุดรธานี 1 ปี ก่อนไปเป็นพนักงานขายที่โรงแรมมีชื่อแห่งหนึ่งในตัวเมืองอุดรธานี และเป็นแม่ค้าขายของออนไลน์ ก่อนที่จะไปสมัครเป็นพนักงานต้อนรับฝ่ายภาคพื้นดิน และได้เลื่อนลำดับขึ้นบินเป็นแอร์โฮสเตสจนถึงปัจจุบัน

หลังสายการบินที่เธอทำอยู่ได้หยุดบินให้บริการระยะเวลา 1 เดือน ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 แรกๆ ก็รู้สึกตกใจและใจหาย ไม่คิดว่าโรคจะรุนแรงได้ถึงขนาดนี้ ส่งผลกระทบต่ออาชีพการงานกระทบถึงปากท้อง จึงคิดหาทางออกด้วยการผันตัวเองมาเป็นแม่ค้าเนื้อแดดเดียวขายผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน หรือขายออนไลน์ โดยปกติตนเองและน้องสะใภ้เป็นชอบกินเนื้อแดดเดียวอยู่แล้ว โดยเฉพาะสูตรโบราณของยายตัวเอง และแม่ของน้องสะใภ้ที่มีรสชาติอร่อยและแซ่บไม่เหมือนใคร จึงนำสูตรทั้ง 2 คนมารวมกันทำขาย โดยใช้บ้านสวนแห่งนี้ ซึ่งเป็นบ้านของน้องสะใภ้ เป็นที่ผลิตเนื้อแดดเดียว ส่วนตนจะทำหน้าที่เป็นทุน และคอยรับออเดอร์ เสร็จแล้วจะช่วยกันนำสินค้าที่ลูกค้าสั่งไปส่งไปรษณีย์ หากบ้านลูกค้าอยู่ในพื้นที่เมืองอุดรธานี ตนก็จะขับรถไปส่งถึงประตูหน้าบ้าน

“ไวรัสร้ายมันเกิดขึ้นแล้วเราต้องปรับเปลี่ยนตัวเอง ในการประคับประคองความเป็นอยู่ของเราให้ได้ก่อน จะมากหรือน้อยก็ขอให้ทำ และไม่เคยคิดที่จะอายทำกิน พร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา สิ่งที่สำคัญคือเราต้องเป็นกำลังใจให้กัน ในสถานการณ์แบบนี้ เพราะกำลังใจเราอาจจะได้จากคนรอบข้าง แต่ความเข้มแข็งต้องสร้างขึ้นมาด้วยตัวเอง ส่วนกำลังใจได้มาจากครอบครัวและเพื่อนของตน และครอบครัวของตนและน้องสะใภ้ มีพื้นฐานในการทำอาหารอยู่แล้ว จึงทำเนื้อแดดเดียวขายทางออนไลน์ เพราะเป็นการถนอมอาหาร สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นเป็นเวลานาน หรืออาจจะเป็นเดือน และช่วงนี้งดรับออเดอร์จนถึงวันศุกร์ที่ 10 เม.ย. 63 เนื่องจากยังไม่ทราบสถานการณ์ว่า ทางรัฐบาลจะเพิ่มมาตรการความเข้ม หรือขยายเวลาการเคอร์ฟิวจากเดิม 6 ชั่วโมง เพิ่มขึ้นอีกหรือไม่”

นางสาวศศิมนต์ เล่าต่อว่า อย่างไรก็ตาม เราต้องเข้าใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างน้อยเราก็มีเวลาได้อยู่กับครอบครัวมากขึ้น ได้ทำกิจกรรมร่วมกันเติมเต็มความรักความอบอุ่นให้กันและกัน เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทุกคนต้องช่วยกันและรับผิดชอบต่อสังคม และเชื่อว่าเราจะผ่านเหตุการณ์ในครั้งนี้ไปด้วยกัน หลังจากโพสต์ขายช่วงแรกทำวันละ 10 กิโลกรัม ผ่านไป 1 สัปดาห์ เพิ่มเป็น 20 กิโลกรัม และผ่านมา 10 วัน เพิ่มเป็น 25-40 กิโลกรัม จนถึงปัจจุบันแทบจะทำส่งให้ลูกค้าไม่ทัน และมีแนวคิดจะซื้อเครื่องอบเนื้อ เนื่องจากบางวันแดดไม่ค่อยมี และมีฝนตกด้วย และจะยึดอาชีพนี้เป็นอาชีพเสริม และอาจจะเป็นอาชีพหลักต่อไปในอนาคต ภายใต้ชื่อแบรนด์ว่า “เนื้อแดดดี BUY พิม”

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0