วันนี้ (22 ม.ค.2562) นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า จากการประ ชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผลการหารือระหว่างกรมควบคุมมลพิษ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ข้อสรุป 3 แนวทาง คือ มาตรการแรกจะเพิ่มหน่วยเคลื่อนที่ จุดตรวจจับควันดำอีก 5 หน่วย ในจุดที่มีปริมาณค่าฝุ่นละออง PM 2.5 สูงในเขตกรุงเทพชั้นใน จากที่มีอยู่แล้ว 20 จุด และตั้งจุดทำฝนเทียมในจ.นครสวรรค์
ถ้ายังไม่ดีขึ้นหรือค่า PM2.5 เพิ่มขึ้น 90 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ติดต่อกัน 3 วัน จะใช้มาตรการควบคุมการจราจร ลดปริมาณรถยนต์เข้าพื้นที่ชั้นใน โดยห้ามนำรถยนต์ส่วนตัวมาทำงาน โดยจะให้ข้าราชการนำร่องเป็นแบบอย่าง รวมทั้งควบคุมการก่อสร้าง
และหากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นอีกอาจใช้กฎหมายการสาธารณสุข ปี 2535 หมวด 5 มาตรา 25-28 เหตุรำคาญ โดยให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดออกประกาศได้ แต่ยังไม่ถึงขั้นต้องใช้มาตรา 9 ตามกฎหมายส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม ปี 2535
ค่าฝุ่น PM 2.5 วิกฤตสีแดง 7 จุด
ขณะที่สถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 กรมควบคุมมลพิษ รายงานว่าจากสภาพอากาศในช่วงเช้า อากาศลอยตัวไม่ดี มีสภาพอากาศปิด ไม่มีฝน ทำให้สถานการณ์ PM2.5 พื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาพรวมอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ หรือสีส้ม และมีผลกระทบต่อสุขภาพ หรือสีแดงในบางพื้นที่ โดยบริเวณพื้นที่ริมถนน มีค่าเกินมาตรฐาน 7 พื้นที่ พื้นที่ทั่วไป คุณภาพอากาศอยู่ในระดัเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 16 พื้นที่ สำหรับ 7 พื้นที่ที่เป็นสีแดง ได้แก่
- ริมถนนพระราม 3 เจริญกรุง เขตบางคอแหลม 101 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- ริมถนนเพชรเกษม เขตภาษีเจริญ 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- ริมถนนรัชดาภิเษก-ท่าพระ เขตธนบุรี 95 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- ริมถนนพระราม 2 เขตบางขุนเทียน 95 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- ริมถนนจรัญสนิทวงศ์ เขตบางพลัด 94 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- ริมทางคู่ขนานถนนพระราม 2 อ.เมืองสมุทรปราการ 92 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- ริมถนนซอยนิคมบ้านพักรถไฟธนบุรี 5 เขตบางกอกน้อย 92 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ทั้งนี้คาดการณ์ในวันพรุ่งนี้ 23 ม.ค.นี้ จากการพยากรณ์ และแบบจำลองของกรมอุตุนิยมวิทยา "การลอยตัวของอากาศจะดีขึ้นเล็กน้อย ลมพัดแรงขึ้น” อาจทำให้ฝุ่นละอองมีโอกาสเจือจางลงได้บ้าง คาดการณ์ว่าคุณภาพอากาศจะอยู่ในระดับ “เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ”
ด้านพล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการให้หน่วยงานในกำกับของกระทรวงกลาโหมและทุกเหล่าทัพสนับสนุนรัฐบาล เร่งแก้วิกฤตมลภาวะจากฝุ่นละอองในอากาศที่เกิดขึ้นมากใน กทม. ปัจจุบัน ระยะเร่งด่วน ให้นำเครื่องมือและยุทโธปกรณ์ที่มีมาปรับใช้แก้ปัญหาเฉพาะหน้า พร้อมทั้งให้คิดค้น ทดลองหาแนวทางในการลดภาวะฝุ่นละอองที่กำลังเกิดขึ้นควบคู่กันไป
สำหรับระยะยาว ขอให้ทุกหน่วยงานของกองทัพ ใน กทม.และปริมณฑล ต้องช่วยกันลดต้นเหตุของฝุ่นละอองที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติงานในทุกช่องทาง ห้ามรถยนต์ทางทหารที่มีควันดำไปวิ่งบนถนน และให้ศึกษาเพื่อการพัฒนาไปสู่การใช้น้ำมัน บี 20
