ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาใช้กระถางต้นไม้ทุบหัวลูกน้อง "แจ๊ส ชวนชื่น" เสียชีวิตไปฝากขังศาลจังหวัดมีนบุรี เจ้าตัวอ้างไม่ได้ตั้งใจฆ่า พบมีหมายจับค้างเก่าในคดีคยาเสพติด
จากกรณีนายพรชัย ดีเสือ อายุ 35 ปี คนงานล้างเครื่องจักรที่บ้าน แจ๊ส ชวนชื่น ตลกชื่อดัง ถูกนายเสฎฐวุฒิ จิรัฐยารังษี หรือ เบียร์ อายุ 36 ปี เพื่อนบ้านของแจ๊ส ชวนชื่น ฆ่าทุบศีรษะด้วยกระถางต้นไม้ ซึ่งสาเหตุน่าจะมาจากกรณีที่นายเสฎฐวุฒิ เกิดอุบัติเหตุขับรถชนแล้วหนี การเจรจาไม่ลงตัว เหตุเกิดขึ้นที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่41/39 ซอยนิมิตรใหม่14 แขวงทรายกองดิน เขตคลองสามวา กทม. ล่าสุด นายเสฎฐวุฒิ ได้เข้ามอบตัว โดยอ้างว่า ไม่ได้มีเจตนาฆ่านายพรชัยแต่อย่างใด แต่ทำไปเพราะขาดสติ เนื่องจากนายพรชัยเข้ามาหาเรื่องถึงในบ้านตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 ก.ค. พ.ต.อ.ชาญวิทย์ พุ่มโพธิ์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 (รอง ผบก.น.3 ) บอกว่า ขณะนี้ยังต้องสอบปากคำผู้ต้องหาต่อหน้าทนายความอีกครั้ง ส่วนคำให้การของพยานมีความสอดคล้องกัน โดยเฉพาะประเด็นการเคลื่อนย้ายร่างผู้ตาย ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างหาหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อพิสูจน์ว่าจะเข้าข่ายซ่อนเร้นอำพรางศพหรือไม่ ส่วนหมายจับค้างเก่าในคดีครอบครองยาเสพติด และหนีประกันในชั้นศาลนั้น พ.ต.อ.ชาญวิทย์ บอกว่า จะแจ้ง ผอ.สำนักอำนวยการศาลให้อายัดตัวในคดีเก่า พร้อมกันนี้จะตรวจหาสารเสพติดในร่างกายเพิ่มเติม หากพบก็จะแจ้งข้อหาเสพสารเสพติดต่อไป ทั้งนี้ ผู้ต้องหาไม่ประสงค์ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยเจ้าตัวยังคงให้การภาคเสธต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยืนยันว่าไม่มีผู้มีอิทธิพลในพื้นที่นี้อย่างแน่นอน หากว่าผู้ต้องหาเคยก่อคดีอื่นๆ ไว้ เช่น กรณีขับรถชนรถแท็กซี่เมื่อหลายปีก่อนนั้น ก็ขอให้เจ้าทุกข์มาแจ้งความต่อตำรวจเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ต่อจากนี้จะนำตัวผู้ต้องหาส่งฝากขังศาลจังหวัดมีนบุรีต่อไป
ส่วนกรณีมีพยานอ้างว่าก่อนผู้ต้องหาจะใช้กระถางต้นไม้ทำร้ายนายพรชัย ได้ใช้อาวุธปืนพยายามจะยิงใส่นั้น พ.ต.อ.ชาญวิทย์ กล่าวว่า เบื้องต้นพบว่าเป็นปืนปลอม แต่ต้องตรวจสอบว่ามีการดัดแปลงหรือไม่ หากเป็นอาวุธปืนปลอมถือว่าเป็นข้อหาลหุโทษ ที่นำมาใช้เพื่อให้ผู้อื่นตกใจกลัว แต่หากมีการดัดแปลงจนสามารถใช้งานเหมือนปืนจริงได้ ก็จะพิจารณาแจ้งข้อหาเพิ่มเติม แต่ทั้งนี้ต้องรอขยายผลและส่งอาวุธปืนดังกล่าวไปตรวจสอบอีกครั้ง ซึ่งในประเด็นนี้สามารถแจ้งข้อหาภายหลังได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายเสฎฐวุฒิออกจากห้องขังไปสอบปากคำเพิ่มเติม ผู้ต้องหาได้ส่ายหัวปฏิเสธ พร้อมบอกว่าตนไม่ได้ตั้งใจที่จะฆ่า และกล่าวขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิตต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
รายงานข่าวระบุว่า สาเหตุที่นายเสฎฐวุฒิ ตัดสินใจเข้ามอบตัว เพราะไม่อยากให้ ภรรยา แม่ และลูก ต้องเดือดร้อนกับสิ่งกระทำลงไปเพราะขาดสติ ยืนยันว่า ไม่มีเจตนาฆ่านายพรชัย เนื่องจากผู้ตายเข้ามาหาเรื่องถึงภายในตัวบ้าน และไม่ตั้งใจทำให้เสียชีวิต โดยก่อนที่จะเกิดเหตุทะเลาะวิวาทภายในบ้านของตัวเอง ผู้ต้องหาได้ออกไปลองรถที่ถนนนิมิตใหม่ ช่วงจังหวะกลับรถได้เฉี่ยวชนกับรถคู่กรณี ซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นเพื่อนของผู้ตาย หลังเกิดเหตุรถเฉี่ยวชนได้ขับรถยนตร์กลับเข้ามาในบ้าน และจะนำรถจักรยานยนต์ขับกลับออกไปดูคู่กรณี ระหว่างทางเข้าบ้านเห็นผู้ตายนั่งดื่มเหล้าอยู่กับกลุ่มเพื่อน ขณะกำลังขับรถจักรยานยนต์ออกจากบ้าน ก็พบว่านายพรชัย ผู้ตาย มายืนดักรออยู่หน้าบ้านตะโกนด่าด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย และมีอาการมึนเมาเข้ามาหาเรื่องตัวเองในบ้าน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เจตนาที่จะฆ่าใครให้ตายและขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต ยอมรับต่อการกระทำของตัวเอง อย่างไรก็ตามในวันนี้ไม่มีการทำแผนเนื่องจากผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ
เมื่อเวลา 15.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ได้คุมตัวนายเสฎฐวุฒิ ไปฝากขังยังศาลจังหวัดมีนบุรี หลังจากสอบปากคำผู้ต้องหา แม่รวมถึงภรรยานานร่วม 3 ชม. โดยมีเพียงข้อหาเดียวคือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ทั้งนี้ตำรวจได้คัดค้านการประกันตัวในชั้นสอบสวน หลังพบว่าผู้ต้องหาเคยหนีการประกันในชั้นศาล ข้อหาครอบครองยาเสพติดที่ศาลจังหวัดมีนบุรีมาแล้ว
