โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ฝันร้ายของชายเซินเจิ้นในภาพถ่ายรางวัลพูลิตเซอร์

Xinhua

เผยแพร่ 27 พ.ค. 2563 เวลา 14.23 น.
ฝันร้ายของชายเซินเจิ้นในภาพถ่ายรางวัลพูลิตเซอร์

ฮ่องกง, 27 พ.ค. (ซินหัว) -- หยางเสวจื้อ ยืนด้วยความมึนงงอยู่กลางถนนสายหนึ่งในย่านมงก๊กของเขตบริหารพิเศษฮ่องกงของจีน ใบหน้าของหยางอาบไปด้วยเลือด ขณะที่เบื้องหลังคือกลุ่มผู้ก่อการจลาจลใส่หน้ากากที่กำลังกวัดไกวค้อนเปื้อนเลือดของชายวัย 27 ปีรายนี้

หนึ่งในภาพที่ได้รับรางวัลพูลิตเซอร์ ประจำปี 2020 คือภาพของหยางที่มีเลือดไหลโซมกาย ที่บันทึกโดยฝีมือของโธมัส ปีเตอร์ ช่างภาพสำนักข่าวรอยเตอร์ เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2019

ก่อนหน้านี้ หยางเปิดธุรกิจรับซ่อมโทรศัพท์มือถือเล็กๆ แห่งหนึ่ง และใช้ชีวิตอย่างสุขสงบในเมืองเซินเจิ้น ศูนย์กลางเทคโนโลยีของจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งอยู่ห่างจากฮ่องกงเพียงแม่น้ำคั่นเท่านั้น

แผนการเดินทางไปทำธุรกิจที่ฮ่องกงเพียง 1 วัน ได้แปรเปลี่ยนเป็นฝันร้ายอย่างคาดไม่ถึง หลังจากหยางไม่สามารถไปที่ใดได้ เนื่องจากกลุ่มผู้ประท้วงหัวรุนแรงได้ปิดถนนทั่วฮ่องกง ทำให้การจราจรเป็นอัมพาตแทบทั้งหมด

เพื่อนๆ พยายามเตือนหยางว่าไม่ควรเดินทางไปฮ่องกงในยามที่ความรุนแรงยังคงแผ่ปกคลุมดินแดนยาวนานหลายเดือนเช่นนี้ "ตอนนั้นผมไม่สนใจคำเตือนของเพื่อน ผมคิดว่าพวกผู้ชุมนุมจะมาทำร้ายผมทำไม ในเมื่อผมไม่ได้ไปมีเรื่องอะไรกับพวกเขา หรือบันทึกภาพว่าพวกเขาทำอะไร" หยางให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัว

หยางไม่รู้เลยว่าอะไรกำลังรอเขาอยู่เบื้องหน้า

ช่วงค่ำวันที่ 11 พ.ย. หยางขึ้นรถประจำทางมุ่งหน้าไปย่านมงก๊ก ทำตามความตั้งใจของตนเองที่จะไม่ยั่วยุกลุ่มผู้ประท้วงชุดดำ ทว่าเขายังคงตกเป็นเหยื่อของการจู่โจมอย่างทารุณ

หยางยังจำได้ดีว่ามีผู้คนนับร้อยมาชุมนุมกันที่ย่านมงก๊กในคืนนั้น เขากล่าวว่าหญิงชุดดำรายหนึ่งสังเกตเห็นหยางถือโทรศัพท์ในมือ จึงตรงดิ่งเข้ามาซักถาม ครั้นเธอได้ยินหยางพูดภาษาจีนกลาง หญิงคนดังกล่าวก็ร้องตะโกนขึ้นทันที พร้อมรวบรวมสมัครพรรคพวกเข้ารุมล้อมรอบหยาง

สิ่งที่ตามมา คือ มือเท้าเข่าศอกซัดเข้าใส่ร่างหยางอย่างไม่ปรานี บางคนทำกระทั่งเขวี้ยงหิน ค้อน และข้าวของอื่นๆ ใส่หยาง

"ผมรู้สึกว่าพวกผู้ชุมนุมทำเหมือนผมเป็นของเล่นไว้ระบายความโกรธแค้นของพวกเขาเท่านั้น" หยางกล่าว ยังคงไม่เข้าใจว่าเหตุใดกลุ่มผู้ชุมนุมถึงได้ทำร้ายผู้บริสุทธิ์ที่เพียงแค่ผ่านทางมาเช่นตัวเขา

(แฟ้มภาพซินหัว : ภาพจากคลิปวิดีโอของหยางเสวจื้อที่นอนอยู่ที่พื้น หลังถูกกลุ่มผู้ก่อการจลาจลทำร้าย ในเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ทางตอนใต้ของจีน เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2019)
(แฟ้มภาพซินหัว : ภาพจากคลิปวิดีโอของหยางเสวจื้อที่นอนอยู่ที่พื้น หลังถูกกลุ่มผู้ก่อการจลาจลทำร้าย ในเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ทางตอนใต้ของจีน เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2019)

หลังถูกทุบตีจนร่วงลงไปกองกับพื้น หยางขดตัวด้วยความเจ็บปวดและหวาดกลัว หยางไม่อาจยืนขึ้นได้ เพราะกลุ่มผู้ชุมนุมยังคงรัวหมัดใส่เขาต่อไป ขณะที่ช่างภาพรอบกายก็รัวชัตเตอร์ไม่ยั้ง ผู้ก่อการจลาจลบางรายฉวยโอกาสนี้ขโมยเงิน โทรศัพท์มือถือ และข้าวของส่วนตัวอื่นๆ ของหยางไป

ในที่สุด หยางผู้ถูกทำร้ายอย่างเหี้ยมโหดก็สิ้นสติไป แม้ว่าจะพยายามปิดป้องส่วนหัวอย่างดีที่สุดด้วยมือทั้งคู่และแขนทั้งสองข้างแล้วก็ตาม "ผมอาจจะตายไปแล้ว ถ้าไม่ได้เอามือป้องหัวไว้" หยางกล่าวด้วยเสียงสั่นเครือ แม้เหตุการณ์อันทารุณจะผ่านมาหลายเดือนแล้ว

ตำรวจฮ่องกงมาช่วยหยางได้ทันเวลาพอดี ตำรวจสลายกลุ่มผู้ก่อการจลาจล ก่อนส่งตัวหยางไปโรงพยาบาล เมื่อฟื้นคืนสติ หยางพบว่าเขาเกือบต้องถูกตัดนิ้วออกไปเสียแล้ว

"พวกผู้ก่อการจลาจลที่โหดเหี้ยมพวกนั้นอยากจะฆ่าผม! แต่ผมยังรอดมาได้" หยางกล่าวด้วยความโกรธเกรี้ยว หลังรักษาตัวที่โรงพยาบาลในฮ่องกงเป็นเวลา 4 วัน หยางเดินทางกลับเซินเจิ้นเพื่อพักฟื้นต่อไป

หยางต้องเย็บแผลราว 60 เข็ม ทั้งยังมีรอยแผลเป็นที่ศีรษะด้านหลัง เขาสูญเสียความสามารถในการขยับนิ้วชี้ซ้าย และไม่อาจยืดนิ้วกลางขวาให้เหยียดตรงได้

แม้จะเป็นบุคคลในภาพถ่ายที่ชนะรางวัลพูลิตเซอร์ แต่หยางก็ไม่ได้ยินดีสักเท่าใดนัก "ภาพถ่ายที่มีผมอยู่ในนั้นได้รับรางวัลชั้นนำ แต่ผมกลับต้องตกงานและไม่มีเงินแม้แต่แดงเดียว" หยางกล่าว

ตอนนี้เป็นเรื่องยากสำหรับหยางที่จะกลับมาทำงานในฐานะช่างซ่อมโทรศัพท์ดังเดิม หยางไม่ได้ทำงานมานานกว่า 6 เดือนแล้ว

"มือทั้งสองข้างของผมคงไม่มีวันเป็นเหมือนปกติได้อีก มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่คนอย่างผมจะหางาน" หยางระบายลมหายใจ หลังจากเงินเก็บค่อยๆ ร่อยหรอลง หยางต้องพึ่งพาผองเพื่อนเพื่ออาศัยอยู่ในเมืองใหญ่อย่างมหานครอย่างเซินเจิ้น

(แฟ้มภาพซินหัว : หยางเสวจื้อมองดูภาพตัวเองโชกเลือดในภาพถ่ายที่ได้รับรางวัลพูลิตเซอร์ เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 2020)
(แฟ้มภาพซินหัว : หยางเสวจื้อมองดูภาพตัวเองโชกเลือดในภาพถ่ายที่ได้รับรางวัลพูลิตเซอร์ เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 2020)

ความเจ็บปวดทางจิตใจที่หยางได้รับรุนแรงยิ่งกว่าความเจ็บปวดทางร่างกาย หยางถูกคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นนักเลง เนื่องจากรอยแผลเป็นที่หลงเหลือไว้หลังการผ่าตัด ฝันร้ายยังคงตามหลอกหลอนหยางไม่จบไม่สิ้น

หยางเป็นหนึ่งในบรรดาผู้บริสุทธิ์มากมายที่ถูกกลุ่มผู้ก่อการจลาจลทำร้ายในช่วงเวลาหลายเดือนที่เกิดเหตุความไม่สงบในฮ่องกง ในวันเดียวกันกับที่หยางถูกทำร้าย ชายชาวฮ่องกงวัย 57 ปีคนหนึ่งถูกราดด้วยของเหลวไวไฟ และจุดเพลิงเผาในย่านหม่าอันซาน หลังขัดแย้งกับกลุ่มผู้ก่อการจลาจลเพราะมีมุมมองทางการเมืองที่ไม่ตรงกัน

วันถัดมา หน่วยงานของญี่ปุ่นยืนยันว่าชายชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งที่เดินทางมาทำธุรกิจที่ฮ่องกงถูกกลุ่มผู้ก่อการจลาจลทุบตีในวันเดียวกันกับหยาง

สภารับเรื่องร้องทุกข์ของตำรวจ (IPCC) ซึ่งเป็นหน่วยงานสังเกตการณ์ตำรวจฮ่องกงเผยว่าจนถึงบัดนี้ ฮ่องกงมีเหยื่อที่ถูกทุบตีเนื่องจากมีจุดยืนทางการเมืองแตกต่างกันไม่ต่ำกว่า 45 ราย และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย

เมื่อไม่นานมานี้ สภารับเรื่องร้องทุกข์ของตำรวจได้เผยแพร่รายงานว่าด้วยความไม่สงบในฮ่องกง ซึ่งระบุว่าการชุมนุมที่เริ่มต้นขึ้นอย่างสันติได้กลับกลายเป็นการประท้วงที่มีการใช้ความรุนแรง

รายงานระบุว่าเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นถี่ยิ่งกว่าเดิม หลังมีการเดินขบวนและการประท้วงที่ทวีระดับและส่งสัญญาณที่บ่งชี้ถึงการก่อการร้ายแต่แรกเริ่ม ขณะเดียวกัน ทรัพย์สินสาธารณะและทรัพย์สินของเอกชนที่ถูกทำลายเป็นวงกว้างได้ส่งผลร้ายต่อเศรษฐกิจฮ่องกงในระยะยาว

หยางระบุว่าเขาได้ยื่นเรื่องรับการประเมินบาดแผล พร้อมความหวังว่าตำรวจฮ่องกงจะจับกุมกลุ่มผู้ก่อการจลาจลที่ทำร้ายเขาได้ และเขาจะได้รับค่าเสียหายสักวันหนึ่ง "แต่พวกที่ทำร้ายผมปกปิดใบหน้าทุกคน การยืนยันตัวพวกนั้นเป็นเรื่องยาก" หยางกล่าวอย่างสิ้นหวัง

หยางแตกต่างจากเหยื่อรายอื่น เพราะเขาเป็นบุคคลในภาพที่ได้รับรางวัล ซึ่งถ่ายทอดความโชคร้ายครั้งมหันต์ และเป็นดังแสงสาดส่องไปยังความมืดมิดที่ปกคลุมหลักนิติธรรมแห่งฮ่องกง หลังกลุ่มผู้ประท้วงออกอาละวาด

"เรื่องนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับผม จะเป็นอย่างไรถ้าผมไม่ได้ไปฮ่องกง ถ้าผมไม่ต้องเจอกับพวกผู้ประท้วง" หยางอดไม่ได้ที่จะรำพึงด้วยความเสียใจ

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0