โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ฝนถล่มหนักเหนือ-อีสาน กรมอุตุนิยมวิทยา ยังเตือน 26-29 สิงหาคม

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

อัพเดต 24 ส.ค. 2562 เวลา 16.38 น. • เผยแพร่ 24 ส.ค. 2562 เวลา 22.15 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

ฝนถล่มเหนือ-อีสาน ที่ จ.พะเยา เจอฟ้ารั่วทั้งวันทั้งคืนทำให้น้ำระบายลงกว๊านพะเยาไม่ทันเอ่อท่วมสถานีขนส่งผู้ โดยสาร บางหมู่บ้านน้ำสูงกว่า 1 เมตร ที่ จ.เชียงราย เกิดน้ำป่าไหลหลากและดินสไลด์ทับถนนและโรงเรียนจีน ครูต้องหยุดเรียนให้เด็กกลับบ้าน ด้าน จ.สกลนคร ฝนตกวัดได้กว่า 162 มิลลิเมตร ทำให้น้ำท่วมเขตเทศบาลตำบลวานรนิวาสถึง 1.20 เมตร เช่นเดียวกับ จ.มุกดาหาร และ จ.หนองคาย น้ำรอระบายลงแม่น้ำโขงเอ่อท่วมกว่าครึ่งเมตร อุตุฯเตือนรับมือฝนตกหนักอีกระลอก
หลายจังหวัดเผชิญกับพายุฝนและน้ำท่วม โดยที่ จ.พะเยา เกิดฝนตกหนักตลอดทั้งวันทั้งคืนตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค.ยันเช้าวันที่ 24 ส.ค. ทำให้น้ำระบายไม่ทันเอ่อท่วมสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดพะเยา ต.เวียง อ.เมืองพะเยา น้ำสูง 30-50 ซม. ทำให้การเดินรถเข้าออกสถานีและรถยนต์ที่ไปส่งผู้โดยสารยากลำบาก เจ้าหน้าที่ต้องเร่งระบายน้ำลงกว๊านพะเยา ส่วนที่บ้านเปือยเพียง หมู่ 14 ต.หย่อน อ.เชียงคำ ในลำห้วยต่างๆไหลท่วมบ้านเรือนประชาชนและไร่นาได้รับความเสียหาย ถนนในหมู่บ้านน้ำสูงกว่า 1 เมตร ท่อนไม้น้อยใหญ่และวัชพืชไหลมาตามกระแสน้ำมาติดสะพานขวางทางน้ำ ทำให้น้ำระบายไม่สะดวก ทหารจาก ร.17 พัน.4 อ.เชียงคำ ต้องมาช่วยนำท่อนไม้และเศษวัชพืชออกเพื่อให้น้ำไหลได้เร็วขึ้น และช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน

ที่ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เกิดฝนตกหนักถึงช่วงเช้า โดยเฉพาะพื้นที่ดอยสูง ต.ปอ ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,500-1,700 เมตร และพื้นที่เป็นภูเขาแหล่งต้นน้ำแม่น้ำงาว ก่อนไหลลงแม่น้ำโขง ทำให้น้ำป่าไหลหลากและเกิดดินสไลด์ทับถนนบ้านผาตั้ง หมู่ 14 ต.ปอ จุดแรกบริเวณทางลัดขึ้นวัดผาตั้ง อีกจุดบริเวณหลังโรงเรียนจีน (เผยอิง) โรงเรียนต้องประกาศหยุดเรียนชั่วคราว และให้นักเรียนกลับบ้านเพื่อความปลอดภัย นายกฤษฎา ชัยยา ปลัดอาวุโสอำเภอเวียงแก่น เผยว่า สั่งการให้ผู้นำชุมชนแจ้งเตือนประชาชนเตรียมความพร้อมอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย รวมถึงผู้ที่อาศัยติดริมฝั่งแม่น้ำงาวเก็บสิ่งของเครื่องมือเกษตร คาดว่าน้ำอาจไหลท่วมสวนส้มโอของชาวบ้าน ขณะที่หน่วยงาน ปภ.เตรียมความพร้อมให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชม.

จ.แม่ฮ่องสอน มีรายงานว่าเกิดฝนตกหนักบริเวณชายแดนจุดผ่อนปรนห้วยต้นนุ่น ต.แม่เงา อ.ขุนยวม ตรงข้ามบ้านน้ำมาง รัฐคะยา ประเทศเมียนมา โดยเฉพาะฝั่งชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้ถนนถูกน้ำเซาะขาดและเกิดดินถล่มทับเส้นทางลำเลียงสินค้าจากเมียนมามายังช่องทางชายแดนจุดผ่อนปรนห้วยต้นนุ่น ต.แม่เงา อ.ขุนยวม ต้องหยุดชะงักและทางการพม่าได้เคลียร์เส้นทางแล้วเสร็จไปเมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา แต่การสัญจรขนส่งสินค้าทั้งสองประเทศยังต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูง เนื่องจากยังคงมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง

ส่วนที่ จ.สกลนคร เกิดฝนตกและน้ำท่วมฉับพลันในเขตเทศบาลตำบลวานรนิวาส อ.วานรนิวาส หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมาฝนถล่มหนัก สถานีอุตุนิยมวิทยาสกลนครวัดปริมาณน้ำฝนในห้วง 24 ซม. ถึง 162.1 มิลลิเมตร ทำให้น้ำในห้วยสีดอกกาวเอ่อท่วมบ้านเรือนประชาชนสูงประมาณ 70 ซม.บางจุดสูงถึง 120 ซม. เช่นที่บ้านคุ้มศาลหลักเมือง ถนนบำรุงกิจ และบ้านหลักเมือง เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลวานรนิวาส และทหารจาก มทบ.29 ต้องนำเรือท้องแบนไปช่วยขนย้ายข้าวของและอพยพชาวบ้านกลางดึก

จ.มุกดาหาร น้ำท่วมถนนหลายสายในเขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร โดยเฉพาะถนนสองนางสถิตย์ หน้าสวนสุขภาพน้ำสูงกว่า 60 ซม. รถ จยย.และรถเล็กสัญจรลำบาก เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองมุกดาหารเร่งระบายน้ำลงแม่น้ำโขง คาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ พร้อมกันนี้ยังต้องติดตามแม่น้ำโขงที่เพิ่มขึ้นในระยะ 1-2 วันนี้ ส่วน จ.หนองคาย ฝนตกตลอดทั้งคืนถึงเช้า ทำให้เกิดน้ำท่วมขังถนนเขตเทศบาลและเขตรอบนอก โดยเฉพาะถนนมิตรภาพ (อุดรธานี-หนองคาย) ฝั่งขาเข้าบริเวณชุมชนนาทา ต.หนองกอมเกาะ อ.เมืองหนองคาย ถูกน้ำท่วมระยะทางเกือบ 1 กม. ระดับน้ำสูง 30-50 ซม. รถสัญจรลำบาก และต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ

เช่นเดียวกับ จ.นครพนม นายศรี ศรีพุทธรินทร์ นายอำเภอนาแก ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระบายน้ำที่ท่วมขังเขตเทศบาลตำบลนาแก และพืชผลการเกษตร รวมถึงพื้นที่ ต.พุ่มแก และ ต. นาเลียง หลังฝนตกหนักเมื่อคืนที่ผ่านมาเฉลี่ย 130 มิลลิเมตร ทำให้น้ำเขาภูพานน้อยไหลลงลำน้ำก่ำที่รองรับน้ำมาจากหนองหาร จ.สกลนคร ก่อนไหลลงสู่น้ำโขง แต่ปริมาณน้ำมากทำให้ระบายไม่ทัน ถนนหมายเลข 223 (นาแก-ธาตุพนม) เขตเทศบาลตำบลนาแกน้ำท่วมสูงประมาณ 30 ซม. ส่วนที่ จ.กาฬสินธุ์ หนักไม่แพ้กัน หลังเกิดฝนตกหนัก น้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ถนนหลายสายมีน้ำท่วมขังประมาณ 30-50 ซม. โดยเฉพาะบนถนนทุ่งศรีเมือง ถนนมาประณีต และถนนพร้อมพรรณ บางจุดน้ำท่วมขังสูงจนรถเล็กไม่สามารถขับผ่านได้

เมื่อวันที่ 24 ส.ค. กรมอุตุนิยมวิทยาคาดหมายสภาพอากาศในช่วงนี้ถึงวันที่ 25 ส.ค.2562 ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับแนวร่องมรสุมพาดผ่าน ภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้นและฝนตกหนัก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน น่าน พิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์ ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี เลย อุดรธานี หนองคาย กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี และพื้นที่เสี่ยงภัยฝนตกหนักมาก ได้แก่ บึงกาฬ สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร

ขณะที่ช่วงวันที่ 26-29 ส.ค.2562 ลมมรสุม ตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบนและร่องมรสุมเลื่อนลงมาพาดผ่าน ยังคงผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนต่อเนื่องและมีฝนตกหนักได้บางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชน ในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ สำหรับชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ

อนึ่ง พายุ “ไป๋ลู่” บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก คาดว่าจะเคลื่อนตัวผ่านเกาะไต้หวันสู่ประเทศจีนฝั่งตะวันออก ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางในช่วงวันที่ 24-25 สิงหาคม 2562

ด้าน พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย โฆษก ตร. กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมในการแก้ไขสถานการณ์สาธารณภัยในภาพรวมของประเทศ ไม่ว่าจะเกิดจากภัยแล้งหรือน้ำท่วม โดยขอให้ข้าราชการตำรวจทุกนาย น้อมนำพระราชกระแสรับสั่งของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ใจความว่า “ให้ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง การแก้ไขปัญหาให้สอดคล้องกับสภาพพื้นที่ มุ่งเน้นการวางแผนเผชิญเหตุและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติอย่างรอบคอบ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้ได้มากที่สุด” ไปใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ และขอให้ทุกหน่วยเตรียมความพร้อมด้านกำลังพล ยานพาหนะ อุปกรณ์ ทั้งนี้ให้บูรณาการการปฏิบัติกับหน่วยงานในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายปกครอง ทหาร และภาคเอกชน เข้าช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงที พร้อมกำชับให้มุ่งเน้นรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ประสบภัยเป็นหลัก

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0