โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

"ผ่านแน่ แค่ทำตามนี้" ยื่นวีซ่าเยือนเยอรมนี มนตร์เสน่ห์ที่คุณต้องหลงใหล

ไทยรัฐออนไลน์ - Economics

เผยแพร่ 18 มี.ค. 2562 เวลา 10.16 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

เงินในกระเป๋าพร้อม วันลาพักผ่อนยังเหลืออีกเพียบ แต่ปัญหาใหญ่ติดอยู่ตรงที่ วีซ่าประเทศเป้าหมายอยากจะไปพักผ่อนทำอย่างไรก็ไม่ผ่านสักที ถึงคราวนี้คงต้องกลับมาตั้งสติลองวิเคราะห์เหตุผลว่า "เรามีสิ่งผิดปกติตรงไหนอย่างไร" หรือ เอกสารที่ยื่นไปอาจไม่สมเหตุสมผลที่จะเดินทางไปเที่ยวพักผ่อนในประเทศของเขา โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาที่ว่ากันว่าเป็นประเทศแห่งเสรีภาพ คนทุกชนชาติมีความเท่าเทียม แต่ยุคสมัยนี้การจะไปเที่ยวสหรัฐอเมริกาแต่ละทีวีซ่าโดนปฏิเสธกันเป็นจำนวนมาก ….งั้นเราลองเปลี่ยนไปเที่ยวประเทศในแถบยุโรปกันดีกว่า 

ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ เปิดขั้นตอนทำใบผ่านทางเข้าไปเที่ยวยังประเทศเยอรมนี เมืองฝั่งยุโรปตะวันออกที่เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ประเทศที่มีระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย เชิงเสรีภาพและรัฐสวัสดิการ พรมแดนทางทิศเหนือติดทะเลเหนือ เดนมาร์ก และทะเลบอลติก ทิศตะวันออกติดโปแลนด์และเช็กเกีย ทิศใต้ติดออสเตรีย และสวิตเซอร์แลนด์ ทิศตะวันตกติดฝรั่งเศส ลักเซมเบิร์ก เบลเยียม และเนเธอร์แลนด์ 

ความโดดเด่น ไม่เหมือนใคร 1 ใน 5 ของโลกที่นักท่องเที่ยวอยากมาเยือน

"เยอรมนี" มีเมืองหลวงและเมืองใหญ่ของประเทศคือ "เบอร์ลิน" ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ อีกหนึ่งเมืองใหญ่ที่มีอิทธิพลมากที่สุดในยุโรปไม่ว่าจะเป็นด้านการเมือง วัฒนธรรม และการคมนาคมก็ตาม ส่วนในเรื่องของการท่องเที่ยว ที่นี่ก็ไม่น้อยหน้าที่ไหนๆ เพราะเป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนติด 1 ใน 5 ของทวีปเลยทีเดียว นั่นก็เพราะเบอร์ลินนั้นเต็มไปด้วยสถานที่ที่ล้ำค่าทางประวัติศาสตร์มากมายค่ะ รวมไปถึงงานสถาปัตยกรรมที่หลากหลาย

จุดเด่นมากกว่าประเทศอื่นๆ ในยุโรปคือ เยอรมนี สะอาด เรียบร้อย เป็นระเบียบ อาหาร และวัฒนธรรมท้องถิ่น ผู้คนอัธยาศัยดี ทำให้ผู้คนหลั่งไหลกันมากลายเป็นจุดปักหมุดของการท่องเที่ยวยุโรปตะวันออกที่ชาติหนึ่งต้องไปสักครั้งในชีวิต นอกจากนี้เมืองต่างๆ ในเยอรมนียังมีความสวยงามที่แตกต่างกันไป โดยเฉพาะมิวนิก Munich เมืองที่แสนทรงเสน่ห์แห่งแคว้นบาวาเรีย มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่สามของเยอรมนี เต็มไปด้วยสถานที่ทางวัฒนธรรมและศาสนามากมาย และยังเป็นเมืองที่เคยได้รับการโหวตให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในเยอรมนีอีกด้วย

เตรียมเอกสารขอวีซ่า ก่อนบินลัดฟ้าไปเยอรมนี 

การขอวีซ่าเยอรมนี ต้องเตรียมเอกสาร เตรียมตัว เตรียมเงิน และเตรียมใจ อย่างไรนั้น ข้อมูลอัพเดตล่าสุดปี 2019 ซึ่งหลายคนคงเคยได้ยินคำว่า"วีซ่าเชงเก้น" (วีซ่าระยะสั้น-พำนักอยู่ได้ไม่เกิน 90 วัน) หรือ เชงเก้นวีซ่า ใบเดียวเที่ยวทั่วยุโรป

แน่นอนค่ะ วีซ่าเพื่อเดินทางเที่ยวยุโรป มีชื่อเรียกที่รู้จักกันดีอยู่แล้วว่า ‘วีซ่าเชงเก้น’ (Schengen Visa) วีซ่านี้อนุญาตให้คนจากประเทศนอกกลุ่มประเทศเชงเก้น (ก็คือคนไทยอย่างเราๆ นี่แหละ) สามารถเดินทางไปและเดินทางระหว่างประเทศเชงเก้นได้ โดยไม่ต้องไปต่อแถวเพื่อขอวีซ่าทุกประเทศเชงเก้นที่คุณเดินทางผ่าน

โดยปัจจุบัน เขตเชงเก้นประกอบด้วยประเทศในยุโรป 26 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรีย, เบลเยียม, สาธารณรัฐเช็ก, เดนมาร์ก, เอสโตเนีย, ฟินแลนด์, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, กรีซ, ฮังการี, อิตาลี, ลัตเวีย, ลิธัวเนีย, ลักเซมเบิร์ก, มอลตา, เนเธอร์แลนด์, โปแลนด์, โปรตุเกส, สโลวัก, สโลวีเนีย, สเปน, สวีเดน นอร์เวย์, ไอซ์แลนด์, สวิตเซอร์แลนด์ และลิกเตนสไตน์

จะไปเที่ยวแค่เยอรมนี เอกสารที่ต้องเตรียม 

การยื่นคำร้องขอวีซ่าเพื่อการท่องเที่ยวทำได้ หากคุณมีความประสงค์ไปท่องเที่ยวที่ประเทศเยอรมนีเพียงประเทศเดียว หรือไปเที่ยวและพำนักที่ประเทศสมาชิกเชงเกนประเทศอื่นๆ ด้วยแต่คุณต้องพำนักอยู่ที่ประเทศเยอรมนีนานกว่าประเทศสมาชิกเชงเก้นประเทศอื่น หรือถ้าระยะเวลาเข้าพำนักเท่ากัน ประเทศเยอรมนีต้องเป็นประเทศแรกที่คุณต้องเดินทางเข้า อันดับแรกคุณต้องทำการจัดเตรียมเอกสาร สำหรับใช้ยื่นประกอบการขอวีซ่าท่องเที่ยว

1. สำเนาหนังสือเดินทาง

ให้ถ่ายสำเนาเล่มพาสปอร์ตเล่มปัจจุบันที่เราใช้งาน สำหรับใครที่มีเล่มเก่า จะเปลี่ยนใหม่ด้วยเหตุผลหมดอายุ เปลี่ยนชื่อ-นามสกุล ให้ถ่ายสำเนาไปด้วย สำหรับใครที่เคยมีวีซ่าเชงเก้นก่อนหน้านี้แล้ว ให้ถ่ายสำเนาหน้าวีซ่านั้น แนบไปด้วย (ทั้งหมด ทั้งมวล ไม่ต้องเซ็นสำเนาถูกต้อง)

2. แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่า
ในช่วงการนัดหมาย หลังจากนัดหมายเสร็จ จะมี Link ให้เรากรอกเอกสารยื่นวีซ่าในเว็บ แล้วปริ้นท์ออกมาได้เลย หรือถ้าไม่มี ก็ไปที่คลิกตรงนี้  สามารถเลือกหน้าภาษาไทยได้เฉพาะหน้าเพจ แต่ทั้งหมดต้องกรอกข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น ในส่วนท้าย จะมีให้เราเซ็นชื่อ พร้อมลงสถานที่และวันที่ สถานที่ ให้กรอก 'Bangkok' พร้อมลงวันที่ๆ เราจะไปยื่นวีซ่า เช่นยื่นวันที่ 5 กันยายน 2559 ก็กรอก Bangkok, 5th Sep 2016 ในส่วนของลายเซ็น ให้เซ็นตามแบบที่เราเซ็นในพาสปอร์ต

3. หนังสือเชิญ
เฉพาะกรณีท่องเที่ยว ให้เราใช้เอกสารการจองโรงแรมแทน โดยแนะนำให้ทำการสร้างแผนการเที่ยว ว่าจะพักที่ไหน กี่คืน เราก็จองโรงแรมตลอดทริป จากนั้นก็ปริ้นท์ใบจองแนบไปได้เลย (ทั้งหมด ทั้งมวล ไม่ต้องเซ็นสำเนาถูกต้อง เฉพาะใบจองโรงแรมเราสามารถใช้ปากกาเน้นข้อความ ขีดชื่อเราได้ เพื่อให้สถานทูตสะดวกในการตรวจสอบ)

4. ใบจองเที่ยวบิน
เมื่อจองเที่ยวบิน แล้วปริ้นท์ตั๋วออกมาให้เรียบร้อย ขณะนี้ บางสายการบินมีการจองแบบที่ ถ้าเรายื่นวีซ่าไม่ผ่าน สามารถรับเงินจองตั๋วเครื่องคืนได้ (อันนี้ก็แล้วแต่สายการบิน)

5. หลักฐานอื่นๆ
- เอกสารทะเบียนบ้าน ใบทะเบียนสมรส
- ถ่ายสำเนาภาษาไทย พร้อมกับแปลเอกสารเป็นภาษาอังกฤษ โดยเราสามารถแปลและรับรองการแปลด้วยตัวเอง
สำหรับฟอร์มการแปลเอกสาร สามารถดาวน์โหลดได้จากเว็บกงสุลคลิกตรงนี้ 

เอกสารการค้า เจ้าของธุรกิจ ใบรับรองพนักงาน ใบรับรองการลาพักร้อน
-หากเป็นพนักงานเงินเดือน ให้ขอเอกสาร Support การขอวีซ่า พร้อมรับรองการลาพักร้อนจากบริษัท โดยเป็นภาษาอังกฤษ
-หากเป็นเจ้าของธุรกิจ หรือเป็นหุ้นส่วน กรรมการ ของบริษัท หจก. ฯลฯ ให้ถ่ายสำเนาใบจดแจ้ง จากกรมพัฒนาธุรกิจ พร้อมแปล
-หากไม่มีกิจการ หรือทำงานอะไรเลย ก็ให้นำเอกสารดูเป็นภาระผูกพันกับเรา แบบว่าเราจะกลับมาไทยแน่ๆ เช่น สัญญาเช่าบ้าน ใบรับรองแพทย์ต้องพบหมอทุก 3 เดือน ฯลฯ (แปลเป็นภาษาอังกฤษด้วยนะ)

สำเนาสมุดบัญชีเงินฝาก เอกสารการเงิน
แนะนำให้ไปขอที่ธนาคาร แบบภาษาอังกฤษ แจ้งว่า ขอเอกสารรับรองบัญชี พร้อมแสดงยอดเงินในบัญชี เป็นภาษาอังกฤษ (100 บาท)
รายการเดินบัญชี หรือ Statement ย้อนหลัง 3 เดือน โดยขอไม่เกิน 7 วันก่อนยื่นขอวีซ่า เช่น จะยื่นขอวีซ่าวันที่ 8 กันยา ก็สามารถขอได้เร็วสุดวันที่ 1 กันยา (ขอก่อนหน้านั้นไม่ได้) อันนี้ก็มีค่าใช้จ่าย 100 บาท ถ้าเป็นพนักงานเงินเดือน ก็ให้ใช้บัญชีที่เงินเดือนเข้า แนบสลิปเงินเดือนของเราไปด้วย และถ้าเป็นเจ้าของกิจการ ก็ให้แนบเอกสาร รายการเดินบัญชีของกิจการไปด้วย

6. หลักฐานการประกันสุขภาพและอุบัติเหตุ

ซื้อออนไลน์ พร้อมปริ้นท์ใบกรมธรรม์ที่มีภาษาอังกฤษกำกับได้เลย โดยวงเงินไม่ต่ำกว่า 30,000 ยูโร หรือ 1,500,000 บาท (ปกติถ้าไปไม่เกิน 2 อาทิตย์ ก็จะประมาณ 600-1,200 บาท แล้วแต่เจ้า) สามารถตรวจสอบบริษัทที่ได้รับการรับรองได้จาก คลิกตรงนี้ 

นัดวันและเวลา ยื่นคำร้องที่สถานทูตเยอรมนี กรุงเทพฯ

การเดินทางสะดวกสุดในกรุงเทพมหานคร คือ นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินไปลงสถานี 'ลุมพินี' แล้วเดินไปที่สถานทูตเลยค่ะ สำหรับรถยนต์ส่วนตัวหาที่จอดได้ยากมาก แต่สามารถจอดที่ Q-House หรือตึกเอกชนแถวนั้นแต่ต้องจ่ายค่าจอดเอง เมื่อไปถึงสถานทูต จะโดนตรวจค้นกระเป๋า และให้ฝากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ มือถือ แท็บเล็ต เอาไปใช้ข้างในไม่ได้

ข้างในบริเวณรอยื่นวีซ่า จะเป็นเก้าอี้นั่งในที่โล่ง มีแค่หลังคา และพัดลม มีเคาน์เตอร์ไปรษณีย์ บริการถ่ายเอกสาร ถ่ายรูป และห้องน้ำ ชาย-หญิง อย่างละห้อง ระหว่างนี้ให้เราจัดการเตรียมเอกสาร ตรวจสอบให้เรียบร้อยอีกครั้ง โดยจะมีเอกสารที่เราต้องไปขอที่พนักงานหน้าห้องที่สัมภาษณ์ 1 ใบ พร้อมเซ็นชื่อในเอกสาร

เมื่อถึงเวลา ต้องเดินไปติดต่อพนักงานที่หน้าห้องสัมภาษณ์ เพื่อเช็กชื่อ จากนั้นให้เราเข้าไปข้างใน กดบัตรคิว ซึ่งถ้าเป็นวีซ่าท่องเที่ยว ก็จะกดบัตรคิวเป็นเคาน์เตอร์ 6-10 (หน้าจอกดบัตรคิวเป็นระบบสัมผัส แบบธนาคาร) กรณีที่ไปพร้อมกัน เช่นคู่สามี-ภรรยา เพื่อนกลุ่มเดียวกันไปด้วยกัน ก็กดบัตรคิวแค่ใบเดียว สัมภาษณ์พร้อมกัน

การให้สัมภาษณ์วีซ่า

เจ้าหน้าที่สัมภาษณ์ เป็นคนไทย สัมภาษณ์ภาษาไทย อาจจะเคร่งขรึมนิดหน่อย ส่วนตัวเราก็มีหน้าที่ตอบคำถามพื้นฐาน เช่น ไปเที่ยวที่ไหน พักที่ไหนกี่คืน ใครออกค่าใช้จ่าย เราทำงานอะไร ไปกับใคร ฯลฯ  ซึ่งสามารถปริ้นท์แผนการท่องเที่ยวแนบไปด้วยเลย 

เมื่อสัมภาษณ์เสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่จะถามว่าจะรับเล่มพาสปอร์ตคืนยังไง ก็จะมารับเอง หรือให้ส่งไปรษณีย์ ซึ่งถ้าส่งไปรษณีย์ ก็จะให้ใบข้อมูลเราไปชำระเงินค่าวีซ่าก่อน คนละ 60 ยูโร (2,300 บาท) จากนั้นก็ลงไปที่เคาน์เตอร์ไปรษณีย์ ยื่นใบข้อมูล ชำระค่าซอง (EMS + ซอง = 130 บาท) กรอกจ่าหน้าซอง ชื่อเป็นภาษาอังกฤษ ตัวพิมพ์ใหญ่ พร้อมที่อยู่เป็นภาษาไทย (อัตราค่าบริการต้องดูอีกว่าปัจจุบันเป็นจำนวนเท่าไหร่ ) เมื่อเสร็จแล้ว นำซองไปให้เจ้าหน้าที่ที่สัมภาษณ์เรา (เช่น อยู่เคาน์เตอร์เบอร์ 7 ก็ไปให้ที่เบอร์ 7 คนเดิม)

ลุ้นเปิดซองรอรับพาสปอร์ต 

ไม่ว่าจะไปรับเอง หรือรอรับทางไปรษณีย์ จะไม่มีการแจ้งว่าผ่าน หรือไม่ผ่าน ทุกคนต้องเปิดซองลุ้นเองอย่างเดียว หลายคนที่ไปขอวีซ่าหากไม่ติดแบล็กลิสต์ หรือมีปัญหาเช่น ก่อคดีอาชญากรรมร้ายแรง หรือเคยมีประวัติการเข้าออกประเทศที่ผิดปกติมาก่อนทางเจ้าหน้าที่ ก็จะไม่ออกวีซ่าให้ ขณะที่ส่วนใหญ่ผู้ที่ผ่าน ก็จะได้รับ VISA พร้อมวันอนุญาตเข้า-ออก เท่ากับจำนวนวันที่ขอเลย หรือมากกว่านั้นไม่เกิน 1 วัน แต่ถ้าเป็นประเทศอื่น เช่น ฝรั่งเศส แม้ว่าเราจะขอวีซ่าแค่ 15 วัน แต่ทางเจ้าหน้าที่จะให้ระยะเวลายาวนานถึง 90 วัน  

วีซ่าเที่ยวประเทศอื่นด้วยในกลุ่มเชงเก้น 

หลักในการขอวีซ่าเชงเก้น สามารถอธิบายให้เข้าใจโดยง่ายคือ ถ้าคุณจะเดินทางไปประเทศเชงเก้นใด ก็ไปยื่นขอวีซ่าได้ที่สถานทูตของประเทศนั้นๆ ได้เลย ถ้ามีแผนเที่ยวยุโรปมากกว่า 1 ประเทศ ห้ยื่นขอวีซ่ากับประเทศที่เราอยู่พำนักนานที่สุด เช่นคุณจะไปอยู่เยอรมนี นานสุด ก็ขอที่สถานทูตเยอรมนีตามที่ให้ข้อมูลไปข้างต้น เพราะแต่ละประเทศก็มีระยะเวลาในการพำนักในแต่ละประเทศไม่เท่ากัน เช่น มีแพลนเที่ยวเยอรมนี 7 วันและฝรั่งเศส 5 วัน ให้ยื่นวีซ่าเยอรมนี

เที่ยวประเทศเชงเก้นและมีระยะเวลาพำนักเท่ากัน 

อีกกรณีหนึ่งคือ เดินทางไปยังประเทศเชงเก้นและมีระยะเวลาพำนักเท่ากัน ให้ยื่นขอวีซ่าประเทศแรกที่เราเดินทางไปถึง เช่น เที่ยวยุโรป 10 วัน เดินทางเที่ยวเยอรมนี 5 วัน และอิตาลี 5 วัน โดยบินไปลงที่ประเทศเยอรมนีก็ให้ยื่นวีซ่าเยอรมนีนะคะ

ทิ้งท้ายข้อควรรู้ ก่อนบินลัดฟ้าไปเยอรมนี 

1.หลังจากได้วันเวลานัดที่แน่นอนแล้ว ควรไปตามเวลานัดหมายก่อน 30 นาที
2.จัดเรียงเอกสารตามที่สถานทูตกําหนด
- สําเนาหนังสือเดินทาง
- แบบฟอร์มคําร้องขอวีซ่า
3. หนังสือจากผู้เชิญในเยอรมนีที่รับรองค่าใช้จ่ายอย่างเป็นทางการ หรือจดหมายเชิญ/ หนังสือเชิญจากบริษัทคู่
ค้าในประเทศเยอรมนี/ ใบจองโรงแรม
4. ใบจองเที่ยวบิน (เฉพาะวีซ่าท่องเที่ยว)
5. หลักฐานอื่นๆ เช่น หนังสือรับรองการทํางาน, หลักฐานทางการเงิน, สูติบัตร, โฉนดที่ดิน ฯลฯ
6. หลักฐานการประกัน สุขภาพและอุบัติเหตุ

สถานที่ยื่น VISA

สถานเอกอัครราชทูตเยอรมนีประจํากรุงเทพฯ เลขที่ 9 ถนนสาทรใต้ กรุงเทพฯ  10120
เวลาเปิดทําการของสถานทูต: จันทร์-ศุกร์ ระหว่าง 08.30-11.30 น.

วีซ่าผ่านแล้ว สถานที่น่าเที่ยวในเยอรมนี 

เที่ยวมิวนิก Munich เยอรมนี
มิวนิก เมืองที่แสนทรงเสน่ห์แห่งแคว้นบาวาเรีย มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่สามของเยอรมนี เต็มไปด้วยสถานที่ทางวัฒนธรรมและศาสนามากมาย และยังเมืองที่เคยได้รับการโหวตให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในเยอรมนีอีกด้วยค่า

ปราสาทนอยชวานชไตน์ มิวนิก (Neuschwansten Castle)
ปราสาทนอยชวานชไตน์Neuschwanstein ตั้งอยู่ในเทือกเขาแอลป์แถบแคว้นบาวาเรีย มิวนิค ประเทศเยอรมนี สร้างในช่วง ค.ศ. 1845-86 เป็นปราสาทที่งดงามมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งของโลก และเป็นต้นแบบปราสาทเจ้าหญิงนิทรา ที่สวนสนุกดิสนีย์แลนด์ เนื่องจากไปเที่ยวเยอรมนี และยุโรปตะวันออกช่วงปีใหม่ ทำให้มีหิมะฟรุ้งฟริ้ง เมืองทั้งเมืองปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลนตลอดทั้งทริป

พระราชวังเรสซิเดนซ์ มิวนิก (Residenz Munchen)
ราชวังใหญ่ใจกลางเมืองที่มีชื่อเสียงและมีขนาดใหญ่มากที่สุดของประเทศเยอรมนี เคยเป็นที่ประทับและทรงงานของกษัตริย์แห่งแคว้นบาเยิร์นมากว่า 500 ปี มีการตกแต่งต่อเติมมาหลายยุคหลายสมัยเพื่อให้เหมาะสมกับรสนิยมของผู้ปกครองและกษัตริย์แต่ละพระองค์ ใช้เป็นที่เก็บสะสมงานทางศิลปะและเป็นคลังเก็บสมบัติอีกด้วย โดยได้เปิดให้เข้าชมแก่บุคคลทั่วไป เมื่อปี ค.ศ. 1920

พระราชวังแห่งนี้สวยงามยิ่งใหญ่อลังการมากๆ มีห้องทั้งหมดกว่า 130 ห้อง แต่ละห้องแสดงถึงความมั่งคั่งและความสวยงามหรูหราแตกต่างกันไป มีภาพวาดอันสวยงามที่แฝงวิถีชีวิตของชาวบาวาเรียไว้มากมาย และยังมีสมบัติต่างๆ ทั้งเฟอร์นิเจอร์ เครื่องเคลือบ เครื่องเงิน และภาพเขียนทางประวัติศาสตร์โดยเฉพาะประวัติความเป็นมาของพระเยซู และห้องไฮไลต์ที่ควรเยี่ยมชมก็คือ Antiquarium Hall of Antiquities ห้องโถงสไตล์เรอเนสซองส์ที่มีความสวยงามมาก

พระราชวังนิมเฟนบูร์ก (Nymphenburg Palace)
พระราชวังนิมเฟนบูร์ก Nymphenburg Palace ตั้งอยู่ชานเมืองมิวนิก สไตล์บารอค ใช้เป็นพระราชวังฤดูร้อนของสมาชิกราชวงศ์วิทเทลส์บาค ปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้เข้าชม ข้างในมีการแสดงภาพวาด งานศิลป์ และเฟอร์นิเจอร์ให้ชมมากมาย และยังมีสวนสวยๆ ที่เต็มไปด้วยฝูงหงส์และเป็ดอยู่ด้านหน้า

โรเธนเบิร์ก ออบ เดียร์ เทาเบอร์ Rothenburg ob der Tauber 
เที่ยวโรเธนเบิร์ก ออบ เดียร์ เทาเบอร์ เยอรมนี เมืองน่ารักดุจเทพนิยาย แต่ชื่อยาวเหยียดเกือบเมตรกว่ากันบ้างค่ะ 555 เราขออนุญาตเรียกสั้นๆ เพื่อความเข้าใจที่ตรงกันว่า “โรเธนเบิร์ก” เมืองนี้เป็นโบราณจากยุคกลางแห่งแคว้นบาวาเรีย ที่ยังคงความสมบูรณ์แบบมาถึงยุคปัจจุบัน ด้วยป้อมกำแพงเมืองสภาพสมบูรณ์ที่ล้อมรอบเมืองที่เต็มไปด้วยอาคารสถาปัตยกรรมแบบโกธิค และเรอเนสซองส์ รวมไปถึงบ้านเรือนที่ถูกสร้างในรูปแบบเยอรมนีขนานแท้เอาไว้ตั้งแต่โบราณ

ไฮเดลเบิร์ก Heidelberg เยอรมนี
ที่นี่เป็นเมืองเก่าแก่อายุกว่าพันปีที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุดในเยอรมนี จุดเด่นของไฮเดลเบิร์กคือเสน่ห์ของฉากหลังที่เป็นเมืองเก่า ทั้งปราสาทเก่าแก่ที่มีอายุหลายร้อยปี  แหล่งช็อปปิ้งที่ผสมผสานความเก่าและความทันสมัยอย่างลงตัว เต็มไปด้วยบรรยากาศที่มีชีวิตชีวามากๆ มีความชิลและคึกคักดี

เที่ยวปราสาทไฮเดลเบิร์ก Heidelberg Castle
ว่ากันว่าหากมาถึงเมืองไฮเดลเบิร์ก The must ที่พลาดไม่ได้ เดี๋ยวเขาจะหาว่ามาไม่ถึงก็คือ ปราสาทที่มีชื่อเดียวกับเมืองนั่นเองค่ะ มีความงาม เหมือนปราสาทในเทพนิยาย

เขตเมืองเก่า Old Town
ที่เมืองไฮเดลเบิร์ก ตัวเมืองจะถูกแบ่งเป็นสองส่วนคือ ตัวเมืองใหม่และตัวเมืองเก่า ซึ่งส่วนที่สวยงามคลาสสิกและดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนเมืองนี้ก็คือในส่วนของตัวเมืองเก่านี่เอง และเมืองเก่านี้ยังเป็นที่ตั้งของปราสาทไฮเดลเบิร์กด้วย

ตอนแรกที่เราผ่านเข้ามาในย่านเมืองเก่า สิ่งที่สะดุดตาเลยก็คือบ้านเรือนที่มองปร๊าดเดียวก็รู้ว่าไม่ได้สร้างมาใหม่แน่ๆ ที่ตั้งเรียงรายขนานไปกับแม่น้ำเนคคาร์ เรามาเดินเที่ยวภายในเมืองเก่ากัน

** พร้อมแล้วก็เก็บเสื้อผ้าแพ็กกระเป๋า เตรียมตัวให้พร้อมกับสภาพอากาศในช่วงเดือนนั้นๆ ของประเทศเยอรมนี ขออวยพรให้นักเดินทางทุกท่านวีซ่าผ่านฉลุย แล้วกลับประเทศไทยให้ตรงเวลา อย่าดื่มด่ำไปกับบรรยากาศสวยงามในเยอรมนีจนเผลอ "อย่าโอเวอร์สเตย์" มิเช่นนั้นรอบหน้าคุณอาจจะไม่ได้ไปเยือนประเทศในแถบยุโรปอีกก็เป็นได้นะคะ 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0