โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

ผ่ากลยุทธ์ เบนคิว (BenQ) วันนี้บุกหนักตลาด "ช่างภาพ"

Manager Online

อัพเดต 22 ก.ย 2561 เวลา 10.17 น. • เผยแพร่ 22 ก.ย 2561 เวลา 05.39 น. • MGR Online

เบนคิว (BenQ) จัดหนักบุกตลาด "ช่างภาพ" เดินทัพหน้าจอเพื่อช่างภาพโดยเฉพาะหรือ Photographer Monitor หลายรุ่นใหม่บุกตากล้องไทยตั้งแต่กลางปี ประเมินตลาดไทยมีโอกาสงดงามรออยู่เพราะยอดขายกล้องมืออาชีพของไทยโตแซงหน้าประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน คาดสินค้ากลุ่มจอช่างภาพจะเป็นอีกแรงดันที่ทำให้พอร์ตธุรกิจหน้าจอ LCD ของ BenQ ขยายตัวต่อเนื่องในปีนี้

*** "จอช่างภาพ" ตลาดใหญ่โตแรง

วันนี้ใครก็ถ่ายภาพได้ เพราะกล้องสมาร์ทโฟนมีคุณภาพดีขึ้น เลนส์คุณภาพระดับมืออาชีพก็มีให้เลือกหลากหลาย เพียงแค่เล็งไปที่อาหาร ลูกแมวน้อย หรือวิวทิวทัศน์รอบตัวก็สามารถถ่ายภาพสวยงามได้ง่ายแค่ปลายนิ้ว

แต่ในมุมช่างภาพ หรือใครที่ต้องการแก้ไขตกแต่งภาพให้มีความมืออาชีพขึ้นไปอีกขั้น การใช้ "หน้าจอเฉพาะทาง" จะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยให้คุณภาพของงานมีความแตกต่าง นี่จึงเป็นที่มาของตลาดหน้าจอพิเศษสำหรับช่างภาพมืออาชีพและนักออกแบบที่เรียกว่า "จอ Photographer"

ช่างภาพที่ซีเรียสเรื่องการผลิตภาพคุณภาพสูง จะต้องการจอภาพที่แสดงสีชัดเจน ถูกต้อง และมีขนาดใหญ่พอที่จะแสดงพร้อมกับเครื่องมือแต่งภาพซึ่งอาจต้องใช้พื้นที่ในการปรับเทียบกับภาพอื่นที่กำลังทำคู่ไป สีสันภาพที่พิมพ์ออกมาจะไม่ผิดเพี้ยนจากที่ช่างภาพเห็นบนจอมอนิเตอร์ วันนี้จอ Photographer จึงเป็นตลาดกำลังโตที่ผู้ผลิตหลายรายให้ความสนใจ BenQ คือหนึ่งในผู้ผลิตที่ร่วมเปิดตลาดจอ Photographer ตั้งแต่ 4-5 ปีที่ผ่านมา

ปีที่แล้ว BenQ ชนช้างกับ Dell, Asus, LG, Samsung รวมถึงรุ่นใหญ่เฉพาะทางอย่างแบรนด์ EIZO ของญี่ปุ่นเปิดตัวจอภาพขนาด 27 นิ้วความละเอียด 4K เพื่อเจาะกลุ่มช่างภาพโดยเฉพาะ จอนี้ถูกนำเข้ามาจำหน่ายในตลาดไทยแล้วในปีนี้ในชื่อ SW271 พร้อมกับอีก 2 รุ่นซึ่งมีราคาและฟีเจอร์ที่ BenQ เชื่อว่าเป็นจุดขายที่โดนใจช่างภาพนักออกแบบทุกคน

คริส ไป๋ ผู้เชี่ยวชาญด้านสีอาวุโสของ BenQ ซึ่งมีดีกรีเป็นรองประธานคณะทำงานด้านการแสดงผลของ ICC (International Color Consortium) อธิบายสาเหตุที่ BenQ ให้ความสำคัญเรื่องเทคโนโลยีแสดงสีบนจอภาพว่า สีเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้คนชอบและเลือกซื้อจอภาพนั้น ซึ่งหน้าจอที่ดีจะไม่ใช่แค่แสดงสีที่ตรง แต่ต้องออกแบบให้สีเหมาะสม และภาพที่ตกแต่งบนจอนั้นจะต้องแสดงสีตรงกันกับทุกอุปกรณ์

"วันนี้ วงจรการถ่ายภาพเริ่มที่การถ่าย ดูภาพ แก้ไข แล้วจึงแชร์ หน้าจอจึงมีความสำคัญมากในวงจร คนต้องการดูรายละเอียดภาพ ดูสี แล้วพยายามจะแต่งสี กลยุทธ์ที่ BenQ เน้นคือเข้าใจความต้องการ เข้าใจการซื้อของผู้บริโภค จึงลงมือศึกษาจากช่างภาพทั่วโลกกว่า 200 คน พบว่าเหตุผลที่จะซื้อหน้าจอเพื่อแต่งภาพ คือขนาดต้องอย่างต่ำ 24 นิ้ว และต้องมีการแสดงผลสีที่ดี บนความละเอียดที่เหมาะสม ในราคาที่ไม่สูง เพราะราคาสูงถูกมองว่าเป็นความเสี่ยง ลงทุนอย่างอื่นดีกว่า"

BenQ จึงเลือกตัดฟีเจอร์ไม่จำเป็นทิ้งไปเพื่อให้สามารถทำราคาได้ต่ำ แต่ก็จัดเต็มฟีเจอร์เฉพาะที่ช่างภาพต้องการซึ่งช่วยลดเวลาแต่งรูปได้ นอกจากนี้ยังใช้วิธีฝังซอฟต์แวร์ในหน้าจอ ทำให้สีภาพไม่เพี้ยนไม่ว่าช่างภาพจะใช้หน่วยประมวลผลใด ที่สำคัญคือมีที่กั้นเพื่อลดการสะท้อนแสง

อีกสิ่งที่ BenQ ให้ความสำคัญในการทำตลาดจอ Photographer Monitor คือการให้ความรู้แก่ผู้ใช้ว่าหน้าจอจะ "เหลือง" เมื่อใช้งานไปทุก 3 เดือน ผู้ผลิตและช่างภาพหลายรายมักใช้ซอฟต์แวร์ปรับค่าสีให้จอขาวเท่าเดิม (calibrate) แต่ซอฟต์แวร์มีข้อจำกัดเพราะการใช้วิธีเปลี่ยนแปลงค่าสีของงานมีผลให้ค่าสีหายไปโดยไม่ได้ใช้ประโยชน์ ส่งผลให้งานที่ได้ไม่มีสีที่หลากหลายเท่าที่ควร อย่างไรก็ตาม การใช้ฮาร์ดแวร์ calibrate ซึ่งผู้ใช้สามารถ "แปะที่หน้าจอ" จะไม่มีข้อจำกัดนี้ แต่ข้อเสียคือราคาแพงกว่า (ราว 5,000 บาท)

แม้ BenQ จะไม่ใช่ผู้จำหน่ายฮาร์ดแวร์เพิ่อ calibrate หน้าจอ แต่วันนี้ BenQ พยายามให้ความรู้ผู้ใช้ควบคู่ไปกับการจำหน่ายหน้าจอ ถือเป็นพันธกิจที่ BenQ ทำเพื่อยกระดับตลาดให้เข้าใจธรรมชาติของสินค้ากลุ่ม Photographer Monitor มากขึ้น

"ความท้าทายของ BenQ ในตลาดนี้คือการให้ความรู้กับลูกค้า ทุกคนหวังได้จอที่ดี ทำงานได้เร็วขึ้น แต่การทำอย่างไรให้คนยอมรับว่าสีที่เห็นเป็นสีที่มีมาตรฐาน คำตอบคือต้องให้ความรู้เรื่อง calibrate ซึ่งจะเหมือนการบำรุงรักษารถให้ใช้งานได้ดี อีกความท้าทายคือการใช้เวลานานในการศึกษาว่าผู้บริโภคต้องการอะไร งานพัฒนาต้องทำหลายส่วน ซึ่งหากปรับความต้องการให้เป็นสเปคหรือคุณสมบัติเครื่องได้แล้ว ก็ยังมีความท้าทายเรื่องการทำอย่างไรให้รักษาคุณภาพไว้ได้"

*** ก้าวต่อไปคือจอวิดีโอ?

หลังจาก BenQ บุกตลาดนี้มานาน 4-5 ปี ไป๋เชื่อว่าก้าวต่อไปคือการพัฒนาหน้าจอเพื่อตกแต่งวิดีโอ จุดนี้ไป๋อธิบายว่าแนวทางการพัฒนาจะต่างไปจากหน้าจอเพื่อตกแต่งภาพนิ่งเพื่องานพิมพ์ เนื่องจากวิดีโอใช้คนละมาตรฐาน ซึ่ง BenQ จะทำทุกอย่างให้แน่ใจว่ามีเทคโนโลยีที่รองรับได้ทั้ง 2 แพลตฟอร์ม

ไป๋ยังย้ำถึงโอกาสเติบโตของตลาด Photographer Monitor ว่าในจำนวนช่างภาพ 50% ที่ใช้แมคอินทอช การสำรวจพบว่าหลายคนไม่ชอบหน้าจอของ Apple เนื่องจากไม่มีใครสามารถพิมพ์ภาพออกมาได้สีสวยเหมือนที่เห็นบนจอสินค้าแอปเปิล การใช้จอแก้วเป็นเทคนิกทำให้สีดำมีความดำมากขึ้น ดังนั้นโอกาสเติบโตของ Photographer Monitor จึงเกิดขึ้นบนช่องว่างนี้

วัชรพงษ์ วงษ์มา ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายผลิตภัณฑ์ BenQ ประเทศไทย ชี้ว่าส่วนแบ่งตลาดจอช่างภาพวันนี้ยังไม่มีงานวิจัยที่ชัดเจน แต่มั่นใจว่ามีโอกาสงามรออยู่เพราะสังเกตได้จากยอดขายกล้องถ่ายภาพมืออาชีพปี 2017 ที่ผ่านมา พบว่าคนไทยซื้อกล้องดิจิทัลตัวใหญ่มากกว่า 3 แสนเครื่อง ประกอบด้วยกล้องมิลเลอร์เลสที่มียอดขาย 1.8 แสนเครื่อง (60%) รองลงมาเป็นกล้อง DSLR ราว 9.3 หมื่นเครื่อง (30%) เพียง 3 หมื่นเครื่องเท่านั้นที่เป็นกล้องคอมแพกต์พกพาง่าย (10%)

"คาแรคเตอร์คนเล่นกล้องก็ต่างกันไป ตอนแรกถ่ายสัตว์ ตอนนี้ขยับมาเป็นพรีเวดดิ้งเราทำรีเสิร์ช1ปี ไม่ได้ผ่านองค์กรใด แต่เราไปที่กลุ่มผู้ใช้จริง กลุ่มถ่ายภาพผู้หญิง พบว่านอกจากราคากล้องมิลเลอร์เลสที่ราว 45,000-50,000 บาท คนกลุ่มนี้จะมีงบประมาณสำหรับอุปกรณ์เสริมอีกเฉลี่ย 25-30% ของงบซื้อกล้อง ตรงนี้ถือเป็นโอกาสของตลาดจอภาพเฉพาะทาง ที่แสดงสีได้ดี"

BenQ จึงเปิดตัวจอรุ่น SW271 ขนาด 27 นิ้วและ SW320 ขนาด 32 นิ้วเพื่อจับตลาดผู้ใช้กล้อง DSLR ซึ่งวางราคาไว้ที่ 45,900 และ 59,900 บาทตามลำดับ เทียบเป็นงบ 17%-30% ของงบประมาณเฉลี่ยผู้ซื้อกล้อง DSLR นอกจากนี้ยังมีรุ่นเล็ก SW240 ขนาด 14 นิ้วราคา 14,900 บาท ซึ่งถือว่าเป็น "ราคาที่ดีที่สุด" ในตลาดหน้าจอช่างภาพ

BenQ ใช้วิธีเติมฟีเจอร์ให้หน้าจอของตัวเองมีจุดขายเหนือคู่แข่ง ที่โดดเด่นคือฟีเจอร์ "กามุตดูโอ" (GamutDuo) ที่ทำให้ช่างภาพสามารถดูภาพในช่วงสีที่ต่างกันได้พร้อมกัน ยังมีฟีเจอร์ "ฮอตคีย์ปัค" (Hotkey Puck) อุปกรณ์รูปวงกลมที่ทำให้ช่างภาพสามารถกดปุ่มสลับโหมดไปมาระหว่างโหมดสี Adobe RBG, sRGB, Rec. 709, DCI-P3 รวมถึงโหมดขาวดำได้ง่าย บางรุ่นตัวจอแสดงผลแบบ 10 บิตทำให้ไล่เฉดสีได้มากกว่าหนึ่งพันล้านสีแบบนวลเนียน

สำหรับแนวทางพัฒนาจอ OLED แม้หน้าจอคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปบางรุ่นจะมีจอ OLED ซึ่งเชื่อว่าเป็นเทคโนโลยีดีที่สุดในแง่ของการแสดงภาพ แต่ผู้บริหาร BenQ ยืนยันว่ายังไม่มีนโยบายนำจอ OLED มาจำหน่ายในไทย และจะยังคงโฟกัสที่จอ IPS 4K HDR ก่อน เนื่องจาก HDR กำลังมีอิทธิพลในตลาดทีวีบ้านเรา โดยไม่พูดถึงข้อจำกัดของเทคโนโลยี OLED สำหรับจอขนาดใหญ่ที่มีราคาแพงมากตั้งแต่ไหนแต่ไร

*** ดันพอร์ต LCD ร้อนแรง

วัชรพงษ์ย้ำว่าจอช่างภาพเป็นเพียงหนึ่งในกลุ่มสินค้าหลากหลายที่ BenQ จะบุกตลาดปีนี้ โดยหากรวมสินค้ากลุ่ม Photographer Monitor เข้ากับกลุ่มมอนิเตอร์ทั้งหมดของ BenQ ซึ่งมีแบรนด์ Zowie อยู่ด้วย จะพบว่ายอดขายรวมครึ่งปีแรกของปีนี้เติบโตกว่าปีที่ผ่านมาเกือบเท่าตัว เพิ่มจากส่วนแบ่ง 8% ของรายได้รวมในครึ่งแรกปี 2017 มาเป็น 15.6% ของรายได้รวมปี 2018

"คาดว่ารายได้กลุ่มหน้าจอรวมของ BenQ ปลายปีนี้จะโตเป็น 18% เราใช้กลยุทธ์ segment king คือการเป็นแชมป์หรือเป็นคิงในเซ็กเมนต์นั้น เราไม่เน้นเป็นเบอร์หนึ่งในตลาดรวม แต่จะเน้นเจาะตลาดทีละเซ็กเมนต์ขยายไปต่อเนื่อง กลยุทธ์นี้จะทำให้แบรนด์เล็กอย่างเราสู้กับแบรนด์ใหญ่ได้ เพราะแบรนด์ใหญ่จะท้อและข้ามเซ็กเมนต์ที่เราประสบความสำเร็จไปในที่สุด"

ขณะนี้ BenQ วางหมากทำแคมเปญการตลาด Photographer Monitor ผ่านกลุ่มช่างภาพ เช่น สมาคมช่างภาพพรีเวดดิ้ง หรือกลุ่มถ่ายภาพทิวทัศน์ โดยเน้นทำเวิร์กช็อปให้ผู้บริโภคกล้าซื้อ อย่างไรก็ตาม ในเฟสแรก Photographer Monitor ของ BenQ จะวางขายผ่านร้านค้าปลีกกล้องบางแห่งเท่านั้น เช่น SHOT PRO และ Lazada นอกจาก 2 ช่องทางขายปลีกนี้ BenQ มีแผนไปจำหน่ายที่ร้านค้าปลีกในมหาวิทยาลัย โดยยังยกเว้นร้านเก็ดเจ็ดกล้อง

"BenQ จะไม่ใช้กลยุทธ์ลดราคา เช่นหน้าจอช่างภาพ SW2700PT ที่เปิดตัวเมื่อปี 2015 วันนี้ยังมีขายในราคาเดิมคือ 25,900 บาท เป็นการบอกให้ลูกค้ารู้ว่าซื้อได้เลย ไม่ต้องรอ"

อย่างไรก็ตาม สินค้ากลุ่ม Photographer Monitor ถือว่าเติบโตน้อยกว่าหน้าจอเกมของ BenQ ซึ่งได้รับแรงดันหลักจากกระแสอีสปอร์ต เห็นได้ชัดจากยอดขายกลุ่มจอ LCD ทั้งพอร์ตของ BenQ ที่มีมูลค่ากว่า 189 ล้านบาทในปี 2017 ส่วนใหญ่คือ 49.5 ล้านบาทเป็นยอดขายแบรนด์ Zowie นอกนั้นเป็นกลุ่ม Stand Alone LCD Monitor ตอกย้ำว่าจอกลุ่มนี้มีฟีเจอร์ที่ตลาดยอมรับ คาดว่าพอร์ตธุรกิจ LCD ของ BenQ จะโตขึ้นอีก 10% ในปีนี้

"แบรนด์อื่นมีพีซี แต่เราไม่มี หมายความว่าหน้าจอเราต้องเทพจริง เอกลักษณ์ของ BenQ คือการเป็นเบอร์ 1 ในตลาดโปรเจกเตอร์ 4K ในเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และแอฟริกา" วัชรพงษ์ย้ำ

สถิติล่าสุดชี้ว่า BenQ มีส่วนแบ่งการตลาดโปรเจกเตอร์ 4K ราว 36.8% ในตลาดดังกล่าวช่วงครึ่งแรกปี 2018 สำหรับตลาดโลก BenQ เป็นเบอร์ 1 ในตลาดโปรเจกเตอร์ DLP ด้านการศึกษา ขณะที่ตลาดโปรเจกเตอร์ DLP ทั่วไป BenQ เป็นแชมป์ตั้งแต่ปี 2007-2017 รวมแล้ว 9 ปี ส่วนแบ่งตลาด 25% (สถิติไตรมาส 2 ปี 2018)

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0