โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ผู้เชี่ยวชาญและ IMF เตือนนโยบายภาษีสหรัฐจะส่งผลกระทบการค้าโลกและเศรษฐกิจสหรัฐเอง

NATIONTV

เผยแพร่ 18 มิ.ย. 2561 เวลา 10.17 น. • วัชรา จรูญสันติกุล
ผู้เชี่ยวชาญและ IMF เตือนนโยบายภาษีสหรัฐจะส่งผลกระทบการค้าโลกและเศรษฐกิจสหรัฐเอง
ผู้เชี่ยวชาญและ IMF เตือนนโยบายภาษีสหรัฐจะส่งผลกระทบการค้าโลกและเศรษฐกิจสหรัฐเอง

องค์กรธุรกิจสหรัฐแสดงความกังวลนโยบายเก็บภาษีสินค้าจีนของทรัมป์ที่เพิ่มขึ้น 25% ซึ่งจะเรียกเก็บภาษีล็อตแรก 818 รายการ มูลค่า 34,000 ล้านดอลลาร์ มีผลบังคับใช้ในวันที่ 6 กรกฎาคมนี้ ส่วนรายการสินค้าล็อตที่ 2 กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา
ส่วนจีนตอบโต้ทันควันด้วยการประกาศบัญชีรายการสินค้านำเข้าจากสหรัฐที่จะถูกเรียกเก็บภาษีในอัตรา 25% เช่นเดียวกัน  เป็นจำนวน 659 รายการ มูลค่ารวม 50,000 ล้านดอลลาร์ ด้านผู้เชี่ยวชาญและ IMF เตือนนโยบายภาษีสหรัฐจะส่งผลกระทบการค้าโลกและเศรษฐกิจสหรัฐเอง
1. องค์กรด้านธุรกิจในสหรัฐแสดงความกังวลเกี่ยวกับประกาศของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ระบุว่า สหรัฐจะเก็บภาษีสินค้าที่นำเข้าจากจีนในมูลค่าราว 34,000 ล้านดอลลาร์นับตั้งแต่วันที่ 6 กรกฎาคมเป็นต้นไป และอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะเก็บภาษีสินค้าเพิ่มเติมอีก 16,000 ล้านดอลลาร์ อาจจะส่งผลให้จีนตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษีสินค้าสหรัฐ ที่เป็นถั่วเหลือง เคมีภัณฑ์ รถยนต์ และเครื่องบิน
โดยสมาคมธุรกิจสหรัฐได้ออกแถลงการณ์ร่วมที่ระบุว่า ต้องการค้าขายไม่ใช่การเก็บภาษีนำเข้า หลังจากที่ได้มีการติดต่อพบปะกับรัฐบาลสหรัฐเป็นเวลาหลายสัปดาห์ เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับอนาคตของผลการเก็บภาษีนำเข้าดังกล่าว ซึ่งกลุ่มผู้ผลิตทั้งภาคการเกษตร และภาคอุตสาหกรรม จำเป็นต้องส่งออกไปยังจีน อาจต้องขอความช่วยเหลือจากสภาคองเกรส
2. สำนักงานตัวแทนการค้าสหรัฐ (USTR) แถลงถึงมาตรการเรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้น 25% รวมเป็นมูลค่า 50,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะเรียกเก็บภาษีต่อสินค้า 1,100 รายการของจีน โดยสินค้าล็อตแรก 818 รายการ มูลค่า 34,000 ล้านดอลลาร์ จะถูกเรียกเก็บภาษีในวันที่ 6 กรกฎาคมนี้ สว่นรายการสินค้าล็อตที่ 2 กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา
ก่อนหน้านี้ สหรัฐเคยประกาศรายการสินค้าที่นำเข้าจากจีนจำนวน 1,300 รายการจะถูกเรียกเก็บภาษี 25% ในเดือนมีนาคม มูลค่า 50,000 ล้านดอลลาร์ เป็นส่วนหนึ่งของแพ็คเกจรวมมูลค่า 150,000 ล้านดอลลาร์ที่ประธานาธิบดีทรัมป์ต้องการจะลดขาดดุลกาาค้ากับจีนที่มีจำนวนสูงถึง 375,000 ล้านดอลลาร์เมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา
3. ทางการจีนประกาศตอบโต้ทัวควัน ประกาศบัญชีรายการสินค้านำเข้าจากสหรัฐที่จะถูกเรียกเก็บภาษีในอัตรา 25% เป้นจำนวน 659 รายการ มูลค่ารวม 50,000 ล้านดอลลาร์
โดยที่โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน แถลงย้ำว่ารัฐบาลจีนหวังจะทำการตอบโต้อย่างรวดเร็ว เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ โดยที่คณะทำงานทำเนียบขาวประกาศเมื่อวันพฤหัสฯ สำหรับการเปิดเผยรายชื่อสินค้าจีนที่จะถูกปรับขึ้นการเก็บภาษีนำเข้า ที่คาดว่าจะมีสินค้าราว 800-900 รายการที่อยู่ในลิสต์รายชื่อ
4. คริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวเตือนว่า นโยบายเรียกเก็บภาษีนำเข้าของสหรัฐจะส่งผลกระทบต่อระบบการค้าโลก รวมถึงยังทำลายเศรษฐกิจในวงกว้าง และเศรษฐกิจของสหรัฐเองก็อาจขยายตัวไม่ได้ดีเท่าที่ควร เนื่องจากเป็นเหตุให้นานาประเทศออกนโยบายตอบโต้ทางการค้าโดยได้กระตุ้นให้ประเทศคู่ค้ารายใหญ่อย่างแคนาดาและเยอรมันออกมาตรการโต้กลับสหรัฐ
นอกจากนี้ ผู้อำนวยการใหญ่ของ IMF ยังย้ำอีกว่า มาตราการการค้าของประธานาธิบดีทรัมป์นอกจะทำให้ระบบการค้าโลกไม่เปิดกว้าง และไม่มีความเป็นธรรมอย่างที่ควรจะเป็นแล้ว ในอีกด้านหนึ่งยังทำลายเศรษฐกิจสหรัฐและประเทศคู่ค้าอีกด้วย
5. ทางด้านนักวิเคราะห์ต่างออกมาเตือนว่า มาตรการของสหรัฐที่เป็นลักษณะคุ้มครองการค้าที่มากขึ้นนี้ จะส่งผลให้บิดเบือนระเบียบการค้าโลก โดยนักวิชาการอาวุโสจากสภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ชี้ว่า จากจุดยืนเรื่องนโยบายการค้าที่แข็งกร้าว ทำให้มองเห็นได้ถึงความต้องการให้เกิดสงครามการค้าขึ้น ขณะที่หัวหน้านักกลยุทธ์จาก Horizon Investments ระบุว่า สงครามการค้าอาจส่งผลให้สหรัฐต้องเหินห่างไปจากเวทีโลก
รวมถึงอลัน กรีนสแปน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กลับมีความเห็นที่ขัดแย้งกับความเชื่อที่ว่าสหรัฐกำลังถูกประเทศอื่นเอาเปรียบเนื่องจากภาวะขาดดุลการค้า ซึ่งเป็นเหตุผลที่ผู้นำสหรัฐใช้อ้างเพื่อเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากประเทศคู่ค้านั้นเป็นเรื่องไร้สาระ ตรงข้ามจะผลักดันให้สหรัฐใกล้สู่สงครามการค้า

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0