(ภาพประกอบ)
ผู้ตรวจการแผ่นดิน ขีดเส้น 60 วัน ให้คณะกรรมการวัตถุอันตราย ทบทวนการยกเลิกใช้สารเคมีพาราควอต ในวันที่ 1 มกราคม 2563
วันที่ 25 เม.ย. นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยมติที่ประชุมกรณีคณะกรรมการวัตถุอันตรายไม่ปฏิบัติตามข้อเสนอแนะของผู้ตรวจการแผ่นดินในการยกเลิกสารเคมี "พาราควอต" โดยมีข้อเสนอแนะ ต่อกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม และคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืช ให้ทำการยกเลิกสารเคมีพาราควอต ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 และเร่งพัฒนาวิธีทดแทน พร้อมให้เร่งดำเนินการถ่ายทอดความรู้ถึงความอันตรายของพาราควอตู่ประชาชนโดยเร็ว
โดยผู้ตรวจการฯ มีมติยืนยัน ข้อเสนอแนะเดิมและกำหนดเวลา 60 วัน ให้คณะกรรมการวัตถุอันตรายไปดำเนินการพิจารณาทบทวนการยกเลิกให้เป็นผลสำเร็จภายในเวลาที่กำหนด และหากคณะกรรมการวัตถุอันตรายไม่ดำเนินการ จะต้องชี้แจงเหตุผลให้เพียงพอ
หลังจากนี้ ทางผู้ตรวจการฯ จะเสนอเรื่องต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้นำเข้าพิจารณาในคณะรัฐมนตรีทราบต่อไป ส่วนเหตุผลที่ผู้ตรวจการฯ ยังคงยึดมติให้ยกเลิกนั้น เนื่องจากกว่า 50 ประเทศ มีการยกเลิกสารเคมีพาราควอต รวมถึงประเทศมาเลเซียที่กำลังจะมีประกาศยกเลิกเช่นกัน และมีผลแน่ชัดว่า "พาราควอต" ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมโดยที่ไม่มีป้ายแสดงเตือนถึงความอันตราย
ข้อถกเถียงเรื่องพิษ พาราควอต
สำนักบีบีซีไทย รายงานว่าสำนักงานสิ่งแวดล้อมสหรัฐฯ (EPA) ระบุว่า พาราควอตมีพิษสูง แค่การกินเพียงจิบเดียวก็ถึงแก่ชีวิตได้ โดยไม่มียาถอนพิษ เมื่อปี 2009 องค์การอนามัยโลกจัดให้พาราควอตเป็นสารเคมีอันตรายปานกลาง แต่มีข้อสังเกตในรายงานว่า มีผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวหากถูกดูดซึมเข้าไปในร่างกายและเป็นอันตรายแก่ชีวิตหากรับประทาน หรือสัมผัสกับผิวหนังในบริเวณกว้าง
ด้านศูนย์พิษวิทยา คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี รายงานสถิติผู้ป่วยที่ได้รับสารพิษพาราควอต ช่วงปี 2553-2559 ว่ามีจำนวน 4,223 ราย มีผู้เสียชีวิตคิดเป็น 46.18% สาเหตุหลักเกิดจากการนำไปใช้ฆ่าตัวตาย 56.60% สถิติที่น่าในใจอีกอย่างหนึ่งคือ มีผู้เสียชีวิตด้วยพาราควอตจากการประกอบอาชีพ 8.19% คิดเป็นจำนวน 171 ราย
สำหรับพาราควอต เป็นชื่อของสารเคมีกำจัดวัชพืช หรือยาฆ่าหญ้าที่เกษตรกรนิยมใช้ในพืชไร่ เป็นยาเผาไหม้ออกฤทธิ์เร็ว ทำให้วัชพืชแห้งเหี่ยวและตายได้ภายใน 1-2 ชั่วโมง โดยไม่มีฤทธิ์ทำลายระบบรากของพืชประธาน ใช้ในไร่อ้อย มันสำปะหลัง และสวนยางพารา
ปี 2560 ไทยนำเข้าสารพาราควอต 44,501 ตัน มูลค่า 3,816 ล้านบาท เป็นมูลค่าสูงเป็นอันดับหนึ่งของวัตถุอันตรายที่นำเข้ามาในไทย ตามด้วยสารไกลโฟเซต ที่ไทยนำเข้า 59,852 ตัน คิดเป็นมูลค่า 3,283 ล้านบาท
อ่าน : จริงหรือไม่ พาราควอตไม่ผิดกฏหมาย แต่อันตรายถึงชีวิต
ขอบคุณภาพประกอบจาก : ศูนย์ข้อมูลเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติและสำนักข่าวสิ่งแวดล้อม